6/11/44 นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลสำเร็จของการใช้มาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี44/45 ว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.)ได้มีมติเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2544 เกี่ยวกับการอนุมัติให้ องค์การคลังสินค้า(อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อตก.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) รับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จำนวน 650,000 ตันฝัก หรือ 500,000 ตันเมล็ด ในราคารับจำนำข้าวโพดฝักความชื้น 25.1 — 30% และ 14.5 % กก.ละ 2.50 และ 3.27 บาท ส่วนข้าวโพดเมล็ดความชื้น 25.1 — 30% และ 14.5% กก.ละ 3.39 บาทและ 4.19 บาท นั้น ได้รับความสำเร็จอย่างมาก
ขณะเดียวกันสถานการณ์ทางด้านราคาก็มีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น จึงมีความเหมาะสมที่จะขยายระยะเวลาและกำหนดราคาใหม่ คือระยะเวลารับจำนำจาก เดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2544 ขยายไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2545 ระยะเวลาไถ่ถอนภายใน 2 เดือน และให้มีคณะกรรม การระบายข้าวโพดส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย
“ที่ผ่านมาอคส. และ อตก. ได้เปิดจุดรับจำนำแล้วใน 28 จังหวัดรวม 195 จุด และ รับจำนำไปแล้ว 6,264.95 ตัน(ตัวเลข ณ วันที่ 31 ตค.44)จากจังหวัด นครสวรรค์ ตาก เพชรบูรณ์ เลย น่าน สระแก้ว และเชียงราย”
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ราคาที่พ่อค้าท้องถิ่นรับซื้อข้าวโพดฝักสำหรับรุ่นแรกที่ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 70%นั้นได้ปรับตัวสูงขึ้นโดยลำดับตั้งแต่เริ่มดำเนินการแทรกแซงตลาดในเดือนกันยายนจนถึงเดือนตุลาคม โดยราคาที่จังหวัดเพชรบูรณ์สูงขึ้นจากก.ละ2.14 บาทเป็น กก.ละ 2.40 บาทจังหวัดสระแก้วสูงขึ้นกก.ละ 2.31 บาทเป็น กก.ละ 2.43 บาท
ส่วนรุ่นที่ 2 จำนวน 504,500 ตันจะออกสู่ตลาดในเดือนพฤศจิกายน 2544 — เดือนกุมภาพันธ์ 2545 ในจังหวัด นครราชสีมา อุทัยธานี สุพรรณบุรี นั้น ราคาข้าวโพดเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เราควรเพิ่มราคารับจำนำให้สูงขึ้น เพื่อให้เกษตรกรมีความมั่นใจและเป็นไปตามมติคชก.ที่ให้ปรับราคารับจำนำได้เมื่อสถานการณ์ด้านราคามีแนวโน้มในทางที่ดี โดยปรับราคารับจำนำข้าวโพดฝักความชื้น 25.1%-30% เพิ่มขึ้นอีกกก.ละ 0.05 บาท เป็นราคารับจำนำข้าวโพดฝัก กก.ละ 2.55 บาท เมื่อคำนวณเป็นราคารับจำนำข้าวโพดเมล็ดความชื้น 14.5 %จะเพิ่มขึ้นเป็นกก.ละ 4.27 บาท”
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ พฤศจิกายน 2544--
-ปส-
ขณะเดียวกันสถานการณ์ทางด้านราคาก็มีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น จึงมีความเหมาะสมที่จะขยายระยะเวลาและกำหนดราคาใหม่ คือระยะเวลารับจำนำจาก เดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2544 ขยายไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2545 ระยะเวลาไถ่ถอนภายใน 2 เดือน และให้มีคณะกรรม การระบายข้าวโพดส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย
“ที่ผ่านมาอคส. และ อตก. ได้เปิดจุดรับจำนำแล้วใน 28 จังหวัดรวม 195 จุด และ รับจำนำไปแล้ว 6,264.95 ตัน(ตัวเลข ณ วันที่ 31 ตค.44)จากจังหวัด นครสวรรค์ ตาก เพชรบูรณ์ เลย น่าน สระแก้ว และเชียงราย”
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ราคาที่พ่อค้าท้องถิ่นรับซื้อข้าวโพดฝักสำหรับรุ่นแรกที่ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 70%นั้นได้ปรับตัวสูงขึ้นโดยลำดับตั้งแต่เริ่มดำเนินการแทรกแซงตลาดในเดือนกันยายนจนถึงเดือนตุลาคม โดยราคาที่จังหวัดเพชรบูรณ์สูงขึ้นจากก.ละ2.14 บาทเป็น กก.ละ 2.40 บาทจังหวัดสระแก้วสูงขึ้นกก.ละ 2.31 บาทเป็น กก.ละ 2.43 บาท
ส่วนรุ่นที่ 2 จำนวน 504,500 ตันจะออกสู่ตลาดในเดือนพฤศจิกายน 2544 — เดือนกุมภาพันธ์ 2545 ในจังหวัด นครราชสีมา อุทัยธานี สุพรรณบุรี นั้น ราคาข้าวโพดเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เราควรเพิ่มราคารับจำนำให้สูงขึ้น เพื่อให้เกษตรกรมีความมั่นใจและเป็นไปตามมติคชก.ที่ให้ปรับราคารับจำนำได้เมื่อสถานการณ์ด้านราคามีแนวโน้มในทางที่ดี โดยปรับราคารับจำนำข้าวโพดฝักความชื้น 25.1%-30% เพิ่มขึ้นอีกกก.ละ 0.05 บาท เป็นราคารับจำนำข้าวโพดฝัก กก.ละ 2.55 บาท เมื่อคำนวณเป็นราคารับจำนำข้าวโพดเมล็ดความชื้น 14.5 %จะเพิ่มขึ้นเป็นกก.ละ 4.27 บาท”
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ พฤศจิกายน 2544--
-ปส-