นายเกริกไกร จีระแพทย์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไต้หวันกำลังพิจารณาที่จะกำหนดให้สินค้าแป้งมันสำปะหลัง แป้งมันฝรั่ง แป้งข้าวโพด และแป้งข้าวสาลี เป็นสินค้าควบคุมซึ่งต้องมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนการนำเข้า หากมีการควบคุมการนำเข้าจริงก็จะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง เนื่องจากไต้หวันเป็นประเทศผู้นำเข้าแป้งมันสำปะหลังรายสำคัญของไทย
จากการสอบถามสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศของไทย ได้รับการยืนยันว่า ไต้หวันกำลังพิจารณากำหนดระเบียบดังกล่าวขึ้นจริง แต่มิได้ทำขึ้นเพื่อเป็นการกีดกันทางการค้า หากเป็นการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยในอาหาร และกำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประเทศต่าง ๆ เพื่อประกอบการพิจารณา โดยให้แสดงความคิดเห็นก่อนวันที่ 31 กรกฎาคม 2543 สำหรับการนำเข้าแป้งมันสำปะหลังจากไทย หากมีการผ่านกฎระเบียบดังกล่าวจะต้องแยกว่าแป้งมันสำปะหลังที่นำเข้า นำมาเพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมหรือในการผลิตอาหารกรณีเป็นการนำไปใช้ในการผลิตอาหารต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบก่อนการนำเข้าและคาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบไม่เกิน 6 วัน ในเรื่องของขั้นตอนการนำเข้าไต้หวันแจ้งว่าสามารถที่จะหารือกันได้ในรายละเอียด
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดให้สินค้าแป้งมันสำปะหลังที่ใช้ผลิตอาหารเป็นหนึ่งในสินค้าแป้งที่ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนการนำเข้าของไต้หวัน แม้จะมิได้เจาะจงว่าเพื่อกีดกันการนำเข้าแป้งมันสำปะหลังของไทยก็ตาม แต่เมื่อมีผลบังคับใช้ก็จะมีผลกระทบต่อการส่งออกแป้งมันสำปะหลังของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กรมการค้าต่างประเทศจึงได้ยื่นคัดค้านการกำหนดให้แป้งมันสำปะหลังที่ใช้ผลิตอาหารเป็นสินค้าควบคุมการนำเข้า เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคในการส่งออกของไทย ประกอบกับการผลิตแป้งมันสำปะหลังของไทยได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยสูง ประเทศไทยส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปต่างประเทศนานกว่า 25 ปี ไม่พบว่ามีปัญหาด้านสุขอนามัยต่อผู้บริโภคแต่ประการใด นอกจากนี้การส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปยังยุโรป สหรัฐอเมริกา ก็ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบในลักษณะดังกล่าว ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
-กรมการค้าต่างประเทศ กรกฎาคม 2543--
-อน-
จากการสอบถามสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศของไทย ได้รับการยืนยันว่า ไต้หวันกำลังพิจารณากำหนดระเบียบดังกล่าวขึ้นจริง แต่มิได้ทำขึ้นเพื่อเป็นการกีดกันทางการค้า หากเป็นการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยในอาหาร และกำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประเทศต่าง ๆ เพื่อประกอบการพิจารณา โดยให้แสดงความคิดเห็นก่อนวันที่ 31 กรกฎาคม 2543 สำหรับการนำเข้าแป้งมันสำปะหลังจากไทย หากมีการผ่านกฎระเบียบดังกล่าวจะต้องแยกว่าแป้งมันสำปะหลังที่นำเข้า นำมาเพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมหรือในการผลิตอาหารกรณีเป็นการนำไปใช้ในการผลิตอาหารต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบก่อนการนำเข้าและคาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบไม่เกิน 6 วัน ในเรื่องของขั้นตอนการนำเข้าไต้หวันแจ้งว่าสามารถที่จะหารือกันได้ในรายละเอียด
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดให้สินค้าแป้งมันสำปะหลังที่ใช้ผลิตอาหารเป็นหนึ่งในสินค้าแป้งที่ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนการนำเข้าของไต้หวัน แม้จะมิได้เจาะจงว่าเพื่อกีดกันการนำเข้าแป้งมันสำปะหลังของไทยก็ตาม แต่เมื่อมีผลบังคับใช้ก็จะมีผลกระทบต่อการส่งออกแป้งมันสำปะหลังของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กรมการค้าต่างประเทศจึงได้ยื่นคัดค้านการกำหนดให้แป้งมันสำปะหลังที่ใช้ผลิตอาหารเป็นสินค้าควบคุมการนำเข้า เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคในการส่งออกของไทย ประกอบกับการผลิตแป้งมันสำปะหลังของไทยได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยสูง ประเทศไทยส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปต่างประเทศนานกว่า 25 ปี ไม่พบว่ามีปัญหาด้านสุขอนามัยต่อผู้บริโภคแต่ประการใด นอกจากนี้การส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปยังยุโรป สหรัฐอเมริกา ก็ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบในลักษณะดังกล่าว ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
-กรมการค้าต่างประเทศ กรกฎาคม 2543--
-อน-