_แถลงผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2543 _
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. โดยมีนายถวิล ไพรสณฑ์ เป็นประธาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมว่า เป็นการประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ เนื่องจากในวันที่ 7 มิ.ย. จะมีการรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. อย่างเป็นทางการ โดยสิ่งที่ที่ประชุมได้กำชับไปคือเรื่องค่าใช้จ่าย ที่จะใช้ตั้งแต่หลังวันที่ 7 มิ.ย. ถึงวันเลือกตั้ง ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดคือ 21 ล้านบาท ดังนั้นศูนย์ประสานงานทุกศูนย์จะต้องรายงานการทำกิจกรรมต่าง ๆ มายังศูนย์ที่ส่วนกลาง โดยจะต้องมีการวางแผนร่วมกัน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัหาในภายหลังได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ความนิยมในตัวผู้สมัครขณะนี้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ความนิยมในตัวของนายธวัชชัย และความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นฐานที่ดี แต่สิ่งที่จะต้องเร่งทำคือเรื่องการชี้แจงนโยบาย เพราะเท่าที่ประเมินขณะนี้ยังไม่สามารถเผยแพร่ออกไปได้มากเท่าที่ควร
ด้านนายอรรคพล สรสุชาติ รองประธานคณะกรรมการอำนวยการการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แถลงว่า จากการหารือครั้งสุดท้ายของคณะกรรมการฯ ขณะนี้คิดว่าทีมงานที่จะทำงานร่วมกับนายธวัชชัย สมควรที่จะเสนอตัวให้ประชาชนได้เลือกในนามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขณะนี้ได้รองผู้ว่าฯ กทม. ทั้ง 4 คน แล้ว ได้แก่ รศ.ดร.จงรักษ์ ไกรนาม ประธานบริหารโครงการโรงเรียนนานาชาติสาธิตเกษตร รศ.นพ.วิชัย วันดุรงค์วรรณ ประธานกลุ่มโรงพยาบาลศรีวิชัย ฝั่งธนบุรี ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ วิศวกรโยธา ผู้ชำนาเรื่องชั้นดิน และ ดร.วุฒิชัย พรรณเชษฐ์ อดีตที่ปรึษานายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯกทม. ซึ่งแต่ละคนจะได้รับการมอบหมายงานในแต่ละด้าน ส่วนผู้ที่เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะทำหน้าที่ประสานงาน
นายอรรคพล แถลงต่อว่า สำหรับงานที่พรรคจะได้รับมอบหมายให้รองผู้ว่าฯ แต่ละคนดูแลนั้นมีดังนี้ งานด้านการศึกษาจะมอบหมายให้ รศ.ดร.จงรักษ์ ดูแล งานด้านสาธารสุข มอบหมายให้ รศ.นพ.วิชัย ดูแล งานด้านโยธา มอบให้ ดร.ศุภชัย เป็นผู้ดูแล และงานด้านการขนส่ง คือ ดร.วุฒิชัย เป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตามพรรคจะได้แนะนำทีมรองผู้ว่าฯ กทม. ทั้ง 4 คน อีกครั้งหนึ่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ที่พรรคโดยจะมีการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่พรรคประชาธิปัตย์
ทางด้านนายธวัชชัย สัจจกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพรรคฯไม่ค่อยให้ความช่วยเหลือเท่าที่ควรนั้นเรื่องนี ้ตนไม่มีความกังวล เพราะพรรคประชาธิปัตย์อยู่มากว่า 50 ปี ทราบดีว่าตอนไหน ควรจะทำอะไรในเรื่องของการเลือกตั้ง ขณะนี้กลยุทธ์ต่างๆ ได้เตรียมไว้หมดแล้ว แต่คงจะเปิดเผยไม่ได้ ทั้งการช่วยเหลือของพรรคมีแน่นอนอยู่แล้ว เพราะตนใส่เสื้อพรรคประชาธิปัตย์ลง เรื่องที่จะปล่อยตนโดด เดี่ยวอยู่คนเดียวนั้นไม่มีแน่ เราทำงานกันเป็นระบบ ดังนั้นการที่นายกฯ หรือสมาชิกท่านอื่นจะมาช่วยตนนั้นมีแน่นอน
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ในเรื่องของปราศรัยหาเสียงขณะนี้ยังไม่มีการจัดเพราะพรรคได้วิเคราะห์มาแล ้วว่าการจัดปราศรัยเป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะประชาชนเมื่อถึงเวลาเย็นอยากกลับบ้าน ไม่อยากจะเสียเวลาแวะฟังปราศรัย ส่วนจะไปจัดปราศรัยในที่จอดรถทั่วๆ ไปนั้นก็หาที่ยาก แต่ก็คงจะมีการจัดบ้างเพียงแต่คงไม่มาก และที่ผู้สมัครคนอื่นมาแรงในขณะนี้ ตนคิดว่า ก็คงจะมีบ้างแต่ใน กทม.กระแสเปลี่ยนเร็วมาก ประกอบกับขณะนี้พรรคมีปัหารุมล้อมหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตามคิดว่าประชาชนใน กทม. ก็คงจะทราบว่าควรจะเลือกใคร เพราะอะไร และที่สำคันโยบายของตนต้องดูแลความทุกข์ สุข ของชาวบ้าน เมื่อวางนโยบายไปแล้วก็จะมีผู้ปฏิบัติรับไปดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรองผู้ว่าฯ ทั้ง 4 คน หรือตลอดจนข้าราชการ กทม.ทั้งหมด ส่วนตัวเห็นว่า ผู้ว่าฯ ควรจะสัมผัส กับประชาชนให้มากที่สุดเพื่อจะได้ทราบปัญ หาที่แท้จริงหากมัวแต่นั่งอยู่ที่เสาชิงช้า ทำงานกี่ปีก็คงไม่รู้ปัญ หาที่แท้จริง.--จบ--
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. โดยมีนายถวิล ไพรสณฑ์ เป็นประธาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมว่า เป็นการประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ เนื่องจากในวันที่ 7 มิ.ย. จะมีการรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. อย่างเป็นทางการ โดยสิ่งที่ที่ประชุมได้กำชับไปคือเรื่องค่าใช้จ่าย ที่จะใช้ตั้งแต่หลังวันที่ 7 มิ.ย. ถึงวันเลือกตั้ง ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดคือ 21 ล้านบาท ดังนั้นศูนย์ประสานงานทุกศูนย์จะต้องรายงานการทำกิจกรรมต่าง ๆ มายังศูนย์ที่ส่วนกลาง โดยจะต้องมีการวางแผนร่วมกัน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัหาในภายหลังได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ความนิยมในตัวผู้สมัครขณะนี้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ความนิยมในตัวของนายธวัชชัย และความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นฐานที่ดี แต่สิ่งที่จะต้องเร่งทำคือเรื่องการชี้แจงนโยบาย เพราะเท่าที่ประเมินขณะนี้ยังไม่สามารถเผยแพร่ออกไปได้มากเท่าที่ควร
ด้านนายอรรคพล สรสุชาติ รองประธานคณะกรรมการอำนวยการการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แถลงว่า จากการหารือครั้งสุดท้ายของคณะกรรมการฯ ขณะนี้คิดว่าทีมงานที่จะทำงานร่วมกับนายธวัชชัย สมควรที่จะเสนอตัวให้ประชาชนได้เลือกในนามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขณะนี้ได้รองผู้ว่าฯ กทม. ทั้ง 4 คน แล้ว ได้แก่ รศ.ดร.จงรักษ์ ไกรนาม ประธานบริหารโครงการโรงเรียนนานาชาติสาธิตเกษตร รศ.นพ.วิชัย วันดุรงค์วรรณ ประธานกลุ่มโรงพยาบาลศรีวิชัย ฝั่งธนบุรี ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ วิศวกรโยธา ผู้ชำนาเรื่องชั้นดิน และ ดร.วุฒิชัย พรรณเชษฐ์ อดีตที่ปรึษานายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯกทม. ซึ่งแต่ละคนจะได้รับการมอบหมายงานในแต่ละด้าน ส่วนผู้ที่เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะทำหน้าที่ประสานงาน
นายอรรคพล แถลงต่อว่า สำหรับงานที่พรรคจะได้รับมอบหมายให้รองผู้ว่าฯ แต่ละคนดูแลนั้นมีดังนี้ งานด้านการศึกษาจะมอบหมายให้ รศ.ดร.จงรักษ์ ดูแล งานด้านสาธารสุข มอบหมายให้ รศ.นพ.วิชัย ดูแล งานด้านโยธา มอบให้ ดร.ศุภชัย เป็นผู้ดูแล และงานด้านการขนส่ง คือ ดร.วุฒิชัย เป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตามพรรคจะได้แนะนำทีมรองผู้ว่าฯ กทม. ทั้ง 4 คน อีกครั้งหนึ่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ที่พรรคโดยจะมีการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่พรรคประชาธิปัตย์
ทางด้านนายธวัชชัย สัจจกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพรรคฯไม่ค่อยให้ความช่วยเหลือเท่าที่ควรนั้นเรื่องนี ้ตนไม่มีความกังวล เพราะพรรคประชาธิปัตย์อยู่มากว่า 50 ปี ทราบดีว่าตอนไหน ควรจะทำอะไรในเรื่องของการเลือกตั้ง ขณะนี้กลยุทธ์ต่างๆ ได้เตรียมไว้หมดแล้ว แต่คงจะเปิดเผยไม่ได้ ทั้งการช่วยเหลือของพรรคมีแน่นอนอยู่แล้ว เพราะตนใส่เสื้อพรรคประชาธิปัตย์ลง เรื่องที่จะปล่อยตนโดด เดี่ยวอยู่คนเดียวนั้นไม่มีแน่ เราทำงานกันเป็นระบบ ดังนั้นการที่นายกฯ หรือสมาชิกท่านอื่นจะมาช่วยตนนั้นมีแน่นอน
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ในเรื่องของปราศรัยหาเสียงขณะนี้ยังไม่มีการจัดเพราะพรรคได้วิเคราะห์มาแล ้วว่าการจัดปราศรัยเป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะประชาชนเมื่อถึงเวลาเย็นอยากกลับบ้าน ไม่อยากจะเสียเวลาแวะฟังปราศรัย ส่วนจะไปจัดปราศรัยในที่จอดรถทั่วๆ ไปนั้นก็หาที่ยาก แต่ก็คงจะมีการจัดบ้างเพียงแต่คงไม่มาก และที่ผู้สมัครคนอื่นมาแรงในขณะนี้ ตนคิดว่า ก็คงจะมีบ้างแต่ใน กทม.กระแสเปลี่ยนเร็วมาก ประกอบกับขณะนี้พรรคมีปัหารุมล้อมหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตามคิดว่าประชาชนใน กทม. ก็คงจะทราบว่าควรจะเลือกใคร เพราะอะไร และที่สำคันโยบายของตนต้องดูแลความทุกข์ สุข ของชาวบ้าน เมื่อวางนโยบายไปแล้วก็จะมีผู้ปฏิบัติรับไปดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรองผู้ว่าฯ ทั้ง 4 คน หรือตลอดจนข้าราชการ กทม.ทั้งหมด ส่วนตัวเห็นว่า ผู้ว่าฯ ควรจะสัมผัส กับประชาชนให้มากที่สุดเพื่อจะได้ทราบปัญ หาที่แท้จริงหากมัวแต่นั่งอยู่ที่เสาชิงช้า ทำงานกี่ปีก็คงไม่รู้ปัญ หาที่แท้จริง.--จบ--