ถั่วเหลือง : มติคณะรัฐมนตรีเรื่องการเปิดตลาดนำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง ปี 2544
ตามที่ประธานคณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น (พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองนายกรัฐมนตรี) ได้เสนอมติที่ประชุมคณะกรรมการ ต่อคณะรัฐมนตรี ดังนี้
ปริมาณเปิดตลาดและอัตราภาษี
อนุญาตให้นำเข้าถั่วเหลืองได้เสรีไม่จำกัดปริมาณและช่วงเวลานำเข้า อัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 0
เงื่อนไข
ให้กลุ่มผู้นำเข้าทุกกลุ่มมีภาระรับผิดชอบรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองจากเกษตรกร ดังนี้
- สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว รับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองเกรดสกัดน้ำมันในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10.00 บาท ณ ไร่นา หรือ 11.00 บาท ณ หน้าโรงงานสกัดน้ำมันถั่วเหลืองตลาด กทม.
- สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมปศุสัตว์ไทย สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อเพื่อการส่งออกและสมาคมผู้ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ รับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองเกรดผลิตอาหารสัตว์ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10.50 บาท ณ ไร่นา หรือ 11.50 บาท ณ หน้าโรงงานตลาด กทม.
- โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร (บริษัทไทยเทพรสผลิตภัณฑ์อาหาร บริษัทแลคตาซอย บริษัทกรีนสปอต และบริษัทเเดรี่พลัส) รับซื้อถั่วเหลืองเกรดแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 11.00 บาท ณ ไร่นา หรือ 12.00 บาท ณ หน้าโรงงานตลาด กทม.
คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวในคราวประชุม เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2544 มีมติมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบสต็อกเมล็ดถั่วเหลืองภายในประเทศในปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมครั้งต่อไป ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฎผลดังนี้
สต็อกเมล็ดถั่วเหลือง ณ 1 กุมภาพันธ์ 2544 207,641 ตัน โรงงานสกัดน้ำมันพืช 161,219 ตัน โรงงานผลิตอาหารสัตว์ 30,805 ตัน โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร 11,111 ตัน ผู้ค้าท้องถิ่น 4,216 ตัน - สหกรณ์การเกษตร 290 ตัน
คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเรื่องนี้ต่อในคราวประชุม เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2544 มีมติอนุมัติให้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง 1,200,000 ตัน ตามปริมาณความต้องการใช้จริง
กาแฟ : อคส. กำหนดราคาตามระดับข้อบกพร่อง
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ได้อนุมัติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้ารับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกร ณ แหล่งผลิต ตามมาตรฐาน F A Q. ( Fair Average Quality ) ที่มีความชื้นไม่เกินร้อยละ 13 และข้อบกพร่องไม่เกินร้อยละ 7 ในราคากิโลกรัมละ 32 บาท และผ่อนผันข้อบกพร่องได้ไม่เกินร้อยละ 9 แต่ให้มีการตัดราคาลง ซึ่ง อคส.ได้ดำเนินการรับซื้อตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2543 เป็นต้นมา สำหรับการรับซื้อในระยะที่ผ่านมา เกิดปัญหาข้อร้องเรียนจากเกษตรกรเกี่ยวกับราคาที่ได้รับไม่เป็นไปตามราคาเป้าหมายนำ เนื่องจากคุณภาพส่วนใหญ่โดยเฉพาะเรื่องข้อบกพร่องเกินกว่าที่กำหนดไว้ และคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและติดตามการแทรกแซงตลาดเมล็ดกาแฟ ฤดูการผลิตปี 2543/44 มีมติเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2544 ให้ อคส. เข้ารับซื้อเมล็ดกาแฟที่มีข้อบกพร่องเกินกว่าร้อยละ 9 ได้ แต่ราคาให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง อคส. และเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม ตามมติดังกล่าวยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาข้อโต้แย้งในเรื่องราคาได้ ดังนั้นคณะอนุกรรมการ ฯ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จึงให้ อคส. กำหนดหลักเกณฑ์การรับซื้อเพิ่มเติม โดยให้หักลดราคารับซื้อตามข้อบกพร่องหรือหักลดตามน้ำหนัก X 32 ดังตารางต่อไปนี้ การกำหนดราคาตามระดับข้อบกพร่องตั้งแต่ร้อยละ 10 - 13 ข้อบกพร่อง (ร้อยละ) 10
11
12
13
ราคารับซื้อ (บาท/กก.) 28
27
26
25
น้ำหนักหักลดร้อยละ (ซื้อ กก.ละ 32 บาท) 12.50
15.63
18.75
21.88
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 5 ประจำวันที่ 5 - 11 ก.พ. 2544--
-สส-
ตามที่ประธานคณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น (พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองนายกรัฐมนตรี) ได้เสนอมติที่ประชุมคณะกรรมการ ต่อคณะรัฐมนตรี ดังนี้
ปริมาณเปิดตลาดและอัตราภาษี
อนุญาตให้นำเข้าถั่วเหลืองได้เสรีไม่จำกัดปริมาณและช่วงเวลานำเข้า อัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 0
เงื่อนไข
ให้กลุ่มผู้นำเข้าทุกกลุ่มมีภาระรับผิดชอบรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองจากเกษตรกร ดังนี้
- สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว รับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองเกรดสกัดน้ำมันในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10.00 บาท ณ ไร่นา หรือ 11.00 บาท ณ หน้าโรงงานสกัดน้ำมันถั่วเหลืองตลาด กทม.
- สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมปศุสัตว์ไทย สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อเพื่อการส่งออกและสมาคมผู้ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ รับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองเกรดผลิตอาหารสัตว์ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10.50 บาท ณ ไร่นา หรือ 11.50 บาท ณ หน้าโรงงานตลาด กทม.
- โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร (บริษัทไทยเทพรสผลิตภัณฑ์อาหาร บริษัทแลคตาซอย บริษัทกรีนสปอต และบริษัทเเดรี่พลัส) รับซื้อถั่วเหลืองเกรดแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 11.00 บาท ณ ไร่นา หรือ 12.00 บาท ณ หน้าโรงงานตลาด กทม.
คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวในคราวประชุม เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2544 มีมติมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบสต็อกเมล็ดถั่วเหลืองภายในประเทศในปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมครั้งต่อไป ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฎผลดังนี้
สต็อกเมล็ดถั่วเหลือง ณ 1 กุมภาพันธ์ 2544 207,641 ตัน โรงงานสกัดน้ำมันพืช 161,219 ตัน โรงงานผลิตอาหารสัตว์ 30,805 ตัน โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร 11,111 ตัน ผู้ค้าท้องถิ่น 4,216 ตัน - สหกรณ์การเกษตร 290 ตัน
คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเรื่องนี้ต่อในคราวประชุม เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2544 มีมติอนุมัติให้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง 1,200,000 ตัน ตามปริมาณความต้องการใช้จริง
กาแฟ : อคส. กำหนดราคาตามระดับข้อบกพร่อง
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ได้อนุมัติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้ารับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกร ณ แหล่งผลิต ตามมาตรฐาน F A Q. ( Fair Average Quality ) ที่มีความชื้นไม่เกินร้อยละ 13 และข้อบกพร่องไม่เกินร้อยละ 7 ในราคากิโลกรัมละ 32 บาท และผ่อนผันข้อบกพร่องได้ไม่เกินร้อยละ 9 แต่ให้มีการตัดราคาลง ซึ่ง อคส.ได้ดำเนินการรับซื้อตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2543 เป็นต้นมา สำหรับการรับซื้อในระยะที่ผ่านมา เกิดปัญหาข้อร้องเรียนจากเกษตรกรเกี่ยวกับราคาที่ได้รับไม่เป็นไปตามราคาเป้าหมายนำ เนื่องจากคุณภาพส่วนใหญ่โดยเฉพาะเรื่องข้อบกพร่องเกินกว่าที่กำหนดไว้ และคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและติดตามการแทรกแซงตลาดเมล็ดกาแฟ ฤดูการผลิตปี 2543/44 มีมติเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2544 ให้ อคส. เข้ารับซื้อเมล็ดกาแฟที่มีข้อบกพร่องเกินกว่าร้อยละ 9 ได้ แต่ราคาให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง อคส. และเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม ตามมติดังกล่าวยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาข้อโต้แย้งในเรื่องราคาได้ ดังนั้นคณะอนุกรรมการ ฯ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จึงให้ อคส. กำหนดหลักเกณฑ์การรับซื้อเพิ่มเติม โดยให้หักลดราคารับซื้อตามข้อบกพร่องหรือหักลดตามน้ำหนัก X 32 ดังตารางต่อไปนี้ การกำหนดราคาตามระดับข้อบกพร่องตั้งแต่ร้อยละ 10 - 13 ข้อบกพร่อง (ร้อยละ) 10
11
12
13
ราคารับซื้อ (บาท/กก.) 28
27
26
25
น้ำหนักหักลดร้อยละ (ซื้อ กก.ละ 32 บาท) 12.50
15.63
18.75
21.88
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 5 ประจำวันที่ 5 - 11 ก.พ. 2544--
-สส-