กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทาง ไปร่วมการประชุมรัฐมตรีต่างประเทศอาเซียน (AMM) ครั้งที่ 34 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่าง วันที่ 22-27 กรกฎาคม 2544 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นั้น
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2544 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการพบหารือข้อราชการทวิภาคีกับคณะบุคคลต่างๆ ดังนี้
1. การพบกับคณะผู้แทนสภาเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาแห่งเอเชีย (Forum Asia)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งคณะที่เข้าพบว่าข้อเสนอแนะของสภาฯ ให้อาเซียนเน้นภาคประชาชนให้มากขึ้นนั้น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย และกระทรวงการต่างประเทศได้ปฏิบัติตามนโยบายนี้มาโดยตลอด เนื่องจากเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนจะช่วย ส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และรับจะเสนอแนะให้อาเซียนหารือกันเรื่องสิทธิมนุษยชนให้มากขึ้น แต่เห็นว่าควรเน้นที่สาระและขยายความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนมากกว่าเน้นการจัดตั้งกลไก เพราะจะมีผลเป็นรูปธรรมได้ง่าย ซึ่งจะทำให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเห็นพ้องกับ ข้อเสนอนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้รับที่จะยกเรื่องการขจัดความยากจน ขึ้นหารือในการประชุมด้วย
2. การหารือกับนายเหวียน ซี เนียน (Nguyen Dy Nien) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม
ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเรื่องที่จะมีการหารือในการประชุมรัฐมตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 34 และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของพลังความเข้มแข็งและการมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของอาเซียน โดยฝ่ายเวียดนามเห็นพ้องกับข้อเสนอของไทยเรื่องการจัดประชุมความร่วมมือของ เอเชีย (Asia Cooperation Dialogue - ACD) ซึ่งหากประสบความสำเร็จ ก็จะแสดงให้เห็นถึงพลังของ อาเซียนในส่วนที่เกี่ยวกับความตกลงเรื่องการส่งออกข้าวระหว่างไทย-เวียดนาม ที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือ กันบริหารการส่งออกข้าวเพื่อจะได้ไม่ตัดราคากันเองนั้น ดร.สุรเกียรติ์ฯ ได้แจ้งแก่ฝ่ายเวียดนามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ขอให้แจ้งนายกรัฐมนตรีเวียดนามทราบว่าปากีสถานและ อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสนใจจะขอเข้าร่วมโครงการความร่วมมือนี้ด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เสนอให้ผู้แทนของไทย ลาว และเวียดนามประชุมหารือในระหว่างการประชุมระดับ รัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-คงคา ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม ศกนี้ ที่กรุงฮานอย เพื่อวางแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการสร้างและใช้ถนนสายที่ 9 ในลาวและเวียดนาม รวมทั้งสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีระหว่างทั้งสามประเทศต่อไป ซึ่งจะช่วยให้หาแหล่งเงินทุนมาดำเนินการได้ง่ายขึ้น
3. การหารือกับนายฮอร์ นัมฮอง (Hor Namhong) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา
ดร.สุรเกียรติ์ฯ ได้แจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาทราบว่าการดำเนินการเรื่องความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางทูตระหว่างไทย-กัมพูชา ตามที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน จะแล้วเสร็จภายใน เดือนหน้า พร้อมทั้งแจ้งด้วยว่าอาจมีภาคเอกชนไทยสนใจที่จะลงทุนในการสร้างถนนสายที่ 5-6 เอ เชื่อมระหว่างเมืองปอยเปต-เสียมราฐ โดยอาจมีการพิจารณาจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้เส้นทางเพื่อเป็น ผลตอบแทนการลงทุน ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลไม่ต้องสนับสนุนด้านการเงิน ฝ่ายกัมพูชาเห็นพ้องกับข้อเสนอ ของไทยเรื่องการจัดประชุมความร่วมมือของเอเชีย (ACD) ซึ่งจะเป็นเวทีการหารือของประเทศต่างๆ ใน เอเชีย ประมาณ 20 ประเทศ ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในปีหน้า และเห็นพ้องกันว่าการฟื้นฟู ภาพลักษณ์ของอาเซียนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในส่วนที่เกี่ยวกับการแบ่งเขตทางทะเลและการพัฒนา ร่วมในพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งว่าฝ่ายไทยจะเสนอเรื่อง การจัดตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ เพื่อเจรจากับฝ่ายกัมพูชาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเร็วๆ นี้ สำหรับเรื่องความร่วมมือที่จะพัฒนาเขาพระวิหารให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้น ฝ่ายกัมพูชายืนยันว่าการ เปลี่ยนแปลงตัวอธิบดีกรมการท่องเที่ยวกัมพูชาไม่มีผลกระทบต่อหลักการความร่วมมือที่นายกรัฐมนตรี ของสองฝ่ายได้เห็นชอบไปแล้ว
ในส่วนที่เกี่ยวกับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 34 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าที่ประชุมควรหารือกันเรื่องการหาแนวทางที่จะฟื้นฟูภาพลักษณ์ของ อาเซียน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนต่างประเทศ โดยที่ประชุมอาจหารือใน 3 ประเด็นหลัก คือ การผลักดันกลไกที่มีอยู่ให้ดำเนินต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ การช่วยประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน ให้สามารถผสานเข้ากับประเทศสมาชิกอาเซียนเดิมได้อย่างเต็มที่ และการประชุมความร่วมมือของเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue - ACD) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีความเห็นว่าหากสมาชิกอาเซียนอื่นๆ เห็นพ้องกับข้อเสนอของไทยในเรื่องการจัดประชุมนี้ ก็จะแสดงให้เห็นว่าอาเซียนมี พลังและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ต่างประเทศได้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7--จบ--
-อน-
ตามที่ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทาง ไปร่วมการประชุมรัฐมตรีต่างประเทศอาเซียน (AMM) ครั้งที่ 34 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่าง วันที่ 22-27 กรกฎาคม 2544 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นั้น
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2544 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการพบหารือข้อราชการทวิภาคีกับคณะบุคคลต่างๆ ดังนี้
1. การพบกับคณะผู้แทนสภาเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาแห่งเอเชีย (Forum Asia)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งคณะที่เข้าพบว่าข้อเสนอแนะของสภาฯ ให้อาเซียนเน้นภาคประชาชนให้มากขึ้นนั้น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย และกระทรวงการต่างประเทศได้ปฏิบัติตามนโยบายนี้มาโดยตลอด เนื่องจากเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนจะช่วย ส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และรับจะเสนอแนะให้อาเซียนหารือกันเรื่องสิทธิมนุษยชนให้มากขึ้น แต่เห็นว่าควรเน้นที่สาระและขยายความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนมากกว่าเน้นการจัดตั้งกลไก เพราะจะมีผลเป็นรูปธรรมได้ง่าย ซึ่งจะทำให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเห็นพ้องกับ ข้อเสนอนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้รับที่จะยกเรื่องการขจัดความยากจน ขึ้นหารือในการประชุมด้วย
2. การหารือกับนายเหวียน ซี เนียน (Nguyen Dy Nien) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม
ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเรื่องที่จะมีการหารือในการประชุมรัฐมตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 34 และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของพลังความเข้มแข็งและการมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของอาเซียน โดยฝ่ายเวียดนามเห็นพ้องกับข้อเสนอของไทยเรื่องการจัดประชุมความร่วมมือของ เอเชีย (Asia Cooperation Dialogue - ACD) ซึ่งหากประสบความสำเร็จ ก็จะแสดงให้เห็นถึงพลังของ อาเซียนในส่วนที่เกี่ยวกับความตกลงเรื่องการส่งออกข้าวระหว่างไทย-เวียดนาม ที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือ กันบริหารการส่งออกข้าวเพื่อจะได้ไม่ตัดราคากันเองนั้น ดร.สุรเกียรติ์ฯ ได้แจ้งแก่ฝ่ายเวียดนามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ขอให้แจ้งนายกรัฐมนตรีเวียดนามทราบว่าปากีสถานและ อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสนใจจะขอเข้าร่วมโครงการความร่วมมือนี้ด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เสนอให้ผู้แทนของไทย ลาว และเวียดนามประชุมหารือในระหว่างการประชุมระดับ รัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-คงคา ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม ศกนี้ ที่กรุงฮานอย เพื่อวางแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการสร้างและใช้ถนนสายที่ 9 ในลาวและเวียดนาม รวมทั้งสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีระหว่างทั้งสามประเทศต่อไป ซึ่งจะช่วยให้หาแหล่งเงินทุนมาดำเนินการได้ง่ายขึ้น
3. การหารือกับนายฮอร์ นัมฮอง (Hor Namhong) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา
ดร.สุรเกียรติ์ฯ ได้แจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาทราบว่าการดำเนินการเรื่องความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางทูตระหว่างไทย-กัมพูชา ตามที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน จะแล้วเสร็จภายใน เดือนหน้า พร้อมทั้งแจ้งด้วยว่าอาจมีภาคเอกชนไทยสนใจที่จะลงทุนในการสร้างถนนสายที่ 5-6 เอ เชื่อมระหว่างเมืองปอยเปต-เสียมราฐ โดยอาจมีการพิจารณาจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้เส้นทางเพื่อเป็น ผลตอบแทนการลงทุน ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลไม่ต้องสนับสนุนด้านการเงิน ฝ่ายกัมพูชาเห็นพ้องกับข้อเสนอ ของไทยเรื่องการจัดประชุมความร่วมมือของเอเชีย (ACD) ซึ่งจะเป็นเวทีการหารือของประเทศต่างๆ ใน เอเชีย ประมาณ 20 ประเทศ ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในปีหน้า และเห็นพ้องกันว่าการฟื้นฟู ภาพลักษณ์ของอาเซียนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในส่วนที่เกี่ยวกับการแบ่งเขตทางทะเลและการพัฒนา ร่วมในพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งว่าฝ่ายไทยจะเสนอเรื่อง การจัดตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ เพื่อเจรจากับฝ่ายกัมพูชาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเร็วๆ นี้ สำหรับเรื่องความร่วมมือที่จะพัฒนาเขาพระวิหารให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้น ฝ่ายกัมพูชายืนยันว่าการ เปลี่ยนแปลงตัวอธิบดีกรมการท่องเที่ยวกัมพูชาไม่มีผลกระทบต่อหลักการความร่วมมือที่นายกรัฐมนตรี ของสองฝ่ายได้เห็นชอบไปแล้ว
ในส่วนที่เกี่ยวกับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 34 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าที่ประชุมควรหารือกันเรื่องการหาแนวทางที่จะฟื้นฟูภาพลักษณ์ของ อาเซียน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนต่างประเทศ โดยที่ประชุมอาจหารือใน 3 ประเด็นหลัก คือ การผลักดันกลไกที่มีอยู่ให้ดำเนินต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ การช่วยประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน ให้สามารถผสานเข้ากับประเทศสมาชิกอาเซียนเดิมได้อย่างเต็มที่ และการประชุมความร่วมมือของเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue - ACD) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีความเห็นว่าหากสมาชิกอาเซียนอื่นๆ เห็นพ้องกับข้อเสนอของไทยในเรื่องการจัดประชุมนี้ ก็จะแสดงให้เห็นว่าอาเซียนมี พลังและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ต่างประเทศได้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7--จบ--
-อน-