กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
พลโทวินัย ภัททิยกุล เจ้ากรมข่าวทหารได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกลัง UN Transitional Administration in East Timor วันนี้ (15 สิงหาคม 2544) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กรทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากคณะทูตถาวรแห่งประเทศไทยประจำ สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์กว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2544 ฝ่ายปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้แจ้งให้ทราบว่า พลโท วินัย ภัททิยกุล (Lt. Gen. Winai Phattiyakul) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้ากรมข่าวทหาร ได้รับการคัดเลือกจากสหประชาชาติให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลัง UNTAET (UN Transitional Administration in East Timor) สืบต่อจากพลโท บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ซึ่งจะสิ้นสุดวาระการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวในวันที่ 30 สิงหาคม 2544
ไทยมีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการของสหประชาชาติในติมอร์ตะวันออกตั้งแต่สหประชาชาติเริ่มจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในติมอร์ตะวันออกเมื่อเดือนมิถุนายน 2542 ภายใต้ปฏิบัติการ UN Mission in East Timor (UNAMET) และต่อมาภายใต้ปฏิบัติการ International Forces in East Timor (INTERFET) ระหว่างเดือนตุลาคม 2542 ถึง กุมภาพันธ์ 2543 ไทยได้ส่งกำลังทหารจำนวน 1,581 นายเข้าร่วม และพลตรี ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการกองกำลังของไทยในติมอร์ตะวันออก ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้บัญชาการกองกำลัง INTERFET ด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง และหลังจากกองกำลัง UN Transitional Administration in East Timor (UNTAET) รับช่วงการปฏิบัติหน้าที่ต่อจากกองกำลัง INTERFET ไทยได้คงกำลังจำนวนกว่า 900 นาย อยู่ภายใต้กองกำลัง UNTAET ทั้งนี้ ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2543 พลโท บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ได้รับการคัดเลือกจากเลขาธิการสหประชาชาติให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลัง UNTAET สืบต่อจาก พลโท De Los Santos ของฟิลิปปินส์ ต่อมาเมื่อใกล้ถึงวาระการปฏิบัติหน้าที่ 1 ปี สหประชาชาติได้ทาบทามให้พลโท บุญสร้างฯ ปฏิบัติหน้าที่ไปอีก 1 ปี แต่เนื่องจากความจำเป็นที่จะต้องให้พลโท บุญสร้างฯ กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย ฝ่ายไทยจึงเห็นชอบให้ต่ออายุการปฏิบัติงานในติมอร์ตะวันออกจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2544 พร้อมทั้งพิจารณาจัดส่งพลโท วินัยฯ เป็นผู้แทนไทยเข้ารับการคัดเลือกเพื่อปฏิบัติหน้าที่แทนและต่อมาได้รับการคัดเลือกจากเลขาธิการสหประชาชาติ
การที่นายทหารจากกองทัพไทยได้รับมอบหมายจากสหประชาชาติให้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญ ในกองกำลังนานาชาติและกองกำลังสหประชาชาติในติมอร์ตะวันออกมาอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่า บทบาทของทหารไทยและกองทัพไทยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งจากสหประชาชาติและจาก ประเทศต่าง ๆ ที่ส่งกำลังพลเข้าร่วมในกองกำลัง UNTAET นอกจากนั้น การให้ความร่วมมือกับสหประชาชาติ ในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ยังเป็นการยกระดับบทบาทของประเทศไทย ในฐานะประเทศที่มีความ สำคัญและมีบทบาทนำในกระบวนการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมผลประโยชน์ ของชาติในระยะยาว และเป็นผลดีต่อความร่วมมือพหุภาคีในอนาคตด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
พลโทวินัย ภัททิยกุล เจ้ากรมข่าวทหารได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกลัง UN Transitional Administration in East Timor วันนี้ (15 สิงหาคม 2544) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กรทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากคณะทูตถาวรแห่งประเทศไทยประจำ สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์กว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2544 ฝ่ายปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้แจ้งให้ทราบว่า พลโท วินัย ภัททิยกุล (Lt. Gen. Winai Phattiyakul) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้ากรมข่าวทหาร ได้รับการคัดเลือกจากสหประชาชาติให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลัง UNTAET (UN Transitional Administration in East Timor) สืบต่อจากพลโท บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ซึ่งจะสิ้นสุดวาระการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวในวันที่ 30 สิงหาคม 2544
ไทยมีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการของสหประชาชาติในติมอร์ตะวันออกตั้งแต่สหประชาชาติเริ่มจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในติมอร์ตะวันออกเมื่อเดือนมิถุนายน 2542 ภายใต้ปฏิบัติการ UN Mission in East Timor (UNAMET) และต่อมาภายใต้ปฏิบัติการ International Forces in East Timor (INTERFET) ระหว่างเดือนตุลาคม 2542 ถึง กุมภาพันธ์ 2543 ไทยได้ส่งกำลังทหารจำนวน 1,581 นายเข้าร่วม และพลตรี ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการกองกำลังของไทยในติมอร์ตะวันออก ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้บัญชาการกองกำลัง INTERFET ด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง และหลังจากกองกำลัง UN Transitional Administration in East Timor (UNTAET) รับช่วงการปฏิบัติหน้าที่ต่อจากกองกำลัง INTERFET ไทยได้คงกำลังจำนวนกว่า 900 นาย อยู่ภายใต้กองกำลัง UNTAET ทั้งนี้ ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2543 พลโท บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ได้รับการคัดเลือกจากเลขาธิการสหประชาชาติให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลัง UNTAET สืบต่อจาก พลโท De Los Santos ของฟิลิปปินส์ ต่อมาเมื่อใกล้ถึงวาระการปฏิบัติหน้าที่ 1 ปี สหประชาชาติได้ทาบทามให้พลโท บุญสร้างฯ ปฏิบัติหน้าที่ไปอีก 1 ปี แต่เนื่องจากความจำเป็นที่จะต้องให้พลโท บุญสร้างฯ กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย ฝ่ายไทยจึงเห็นชอบให้ต่ออายุการปฏิบัติงานในติมอร์ตะวันออกจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2544 พร้อมทั้งพิจารณาจัดส่งพลโท วินัยฯ เป็นผู้แทนไทยเข้ารับการคัดเลือกเพื่อปฏิบัติหน้าที่แทนและต่อมาได้รับการคัดเลือกจากเลขาธิการสหประชาชาติ
การที่นายทหารจากกองทัพไทยได้รับมอบหมายจากสหประชาชาติให้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญ ในกองกำลังนานาชาติและกองกำลังสหประชาชาติในติมอร์ตะวันออกมาอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่า บทบาทของทหารไทยและกองทัพไทยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งจากสหประชาชาติและจาก ประเทศต่าง ๆ ที่ส่งกำลังพลเข้าร่วมในกองกำลัง UNTAET นอกจากนั้น การให้ความร่วมมือกับสหประชาชาติ ในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ยังเป็นการยกระดับบทบาทของประเทศไทย ในฐานะประเทศที่มีความ สำคัญและมีบทบาทนำในกระบวนการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมผลประโยชน์ ของชาติในระยะยาว และเป็นผลดีต่อความร่วมมือพหุภาคีในอนาคตด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-