แท็ก
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ร่างพระราชบัญญัติ
การเคหะแห่งชาติ
กระทรวงมหาดไทย
เมืองพัทยา
รัฐสภา
ข่าวการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕
ครั้งที่ ๑๒
วันจันทร์ที่ ๒๓ เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๔
ณ ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ๓
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
---------------------------------
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยมีการพิจารณากระทรวงมหาดไทย ในส่วนของเมืองพัทยา การเคหะแห่งชาติ การทางพิเศษ
แห่งประเทศไทย และการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
เมืองพัทยา
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๓๗๓,๙๘๕,๙๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นเงิน
๑๖๙,๔๒๑,๘๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. คณะกรรมาธิการได้ซักถามเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าในงานพัฒนาเมือง
งานจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานไม่บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีผล
ต่อการศึกษาของเยาวชน ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าการเบิกจ่ายมีเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ๖ โครงการ ทุกโครงการ
จะเป็นไปตามสัญญา ในโครงการที่ ๔ ดำเนินงานแล้ว ๖๐% และคาดว่าจะเสร็จทันกำหนด แต่มีการเบิกจ่าย
ล่าช้าเนื่องจากค่าก่อสร้างคร่อมงวด ส่วนกรณีการปรับปรุงคลองนาเกลือเนื่องจากเป็นงานที่ต้องทำงานใน
โรงงานแต่มีการเบิกจ่ายแล้ว ๓๐% ด้านการศึกษาเกี่ยวกับเยาวชนมีการเบิกจ่ายแล้ว ๕๐% ส่วนที่เหลือ
ยังไม่เบิกจ่ายเนื่องจากเป็นเงินเดือนคณะครู อาจารย์ ซึ่งจะดำเนินการเบิกจ่ายให้ทันกับงบประมาณปี
๒๕๔๔
๒. คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการบริหารงานของเมืองพัทยาซึ่งเป็นเมือง
ท่องเที่ยวที่สามารถนำรายได้ให้แก่ประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ประสบปัญหาทางด้านการ
สาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่าง ๆ ควรจะมีมาตรการและแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และ
มีข้อเสนอแนะให้มีการจัดรูปผังเมืองใหม่ที่มีรูปแบบเดียวกันเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์
๓. คณะกรรมาธิการได้แสดงความห่วงใยด้านการศึกษาในฐานะที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและ
มีการปกครองในลักษณะพิเศษควรมีการดำเนินงานและประสานงานกับสถานศึกษาเอกชน ให้มีการจัดการ
ศึกษาที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่จะตามมา
การเคหะแห่งชาติ
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๕๐๘,๐๘๖,๘๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไข
ปัญหาชุมชนแออัดซึ่งมีการกระจุกตัวทำให้เกิดความเดือดร้อนและไม่เป็นธรรมทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร
และเมืองใหญ่ ๆ คณะกรรมาธิการเสนอให้พิจารณาการจัดสรรงบประมาณในโครงการต่าง ๆ ให้มีการ
กระจายไปยังพื้นที่ที่มีปัญหาอย่างทั่วถึงกัน และได้มอบหมายให้คณะทำงานไปศึกษาและพิจารณาอย่าง
รอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔,๙๖๐,๗๕๑,๐๐๐ บาท
มีรายการปรับลด ๔๐,๐๓๐,๐๐๐ บาท
คงเหลือ ๔,๙๒๐,๗๒๑,๐๐๐ บาท
ก. แผนงานชำระหนี้เงินกู้ ๔,๙๖๐,๗๕๑,๐๐๐ บาท
งบประมาณมีรายการปรับลดเนื่องจากการปรับแผนการกู้เงิน โดยปรับลดในแผนงาน
ชำระหนี้เงินกู้ โครงการทางด่วนสายบางประอิน-ปากเกร็ด (แจ้งวัฒนะ-บางพูน-บางไทร)
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. เรื่องการปรับค่าทางด่วนเพิ่มขึ้น กรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการผลักภาระ
ให้กับผู้ใช้บริการทางด่วน ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้บริโภค
ในประเด็นดังกล่าวนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้กล่าวว่า การปรับค่าทางด่วนนั้น มิใช่เป็น
การผลักภาระภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ใช้ทางด่วนแต่เป็นการปรับแผนการดำเนินงาน เนื่องจากที่ผ่านมา
นั้นการทางพิเศษฯ มีผลการดำเนินงานที่อยู่ในสภาวะขาดสภาพคล่อง และจำเป็นที่จะต้องมีการกู้เงิน
เพิ่มเพื่อให้การดำเนินงานสามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งการกู้เงินในแต่ละครั้งนั้นมีจำนวนเงินกู้
สูงถึง ๑,๒๐๐-๒,๐๐๐ ล้านบาท ทำให้การทางพิเศษฯ ต้องแบกรับภาระเรื่องเงินกู้เป็นจำนวนมาก
ดังนั้น การทางพิเศษฯ จึงมีแนวคิดที่จะให้ผู้ใช้บริการทางด่วนเป็นผู้แบ่งเบาภาระเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม
แทน
พร้อมกันนี้คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการ
ใช้บริการทางด่วนว่าแนวทางปฏิบัติขัดต่อมติคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งทางการทางพิเศษฯ ชี้แจงว่า
ขณะนี้กำลังดำเนินการพิจารณาเรื่องดังกล่าวร่วมกับคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค
สภาผู้แทนราษฎร โดยจะนำเสนอผลการพิจารณาส่งให้ศาลปกครองดำเนินการพิจารณาต่อไป
๒. การขยายเส้นทางด่วนในส่วนภูมิภาค การทางพิเศษฯ มีโครงการที่จะขยายเส้นทาง
ด่วนในแต่ละจังหวัด และการทางพิเศษเป็นผู้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นโดยมีบุคลากรของการทางพิเศษฯ
และมหาวิทยาลัยในจังหวัดนั้น ๆ มีนโยบายที่จะขยายเส้นทางด่วนระหว่างประเทศ อย่างเช่น เส้นทาง
จากจังหวัดสตูลถึงประเทศมาเลเซีย
การประปาส่วนภูมิภาค
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๒,๔๔๖,๘๔๐,๒๐๐ บาท
มีรายการปรับลด ๔๓,๐๖๔,๐๐๐ บาท
คงเหลือ ๒,๔๐๓,๗๗๖,๒๐๐ บาท
ก. แผนงานวางผังเมืองและบริการพื้นฐาน ๒,๔๔๖,๘๔๐,๒๐๐ บาท
การประปาส่วนภูมิภาคมีรายการปรับลดเนื่องจากผลการประกวดราคาต่ำกว่าราคากลาง
ที่ตั้งไว้และบางรายการได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและซักถามเกี่ยวกับประเด็นที่เป็นข่าวในขณะนี้ว่า
การประปาส่วนภูมิภาคได้ขายการประปาฯ ให้กับเอกชน ๖ แห่งนั้น มีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง การประปา
ส่วนภูมิภาคได้กล่าวในประเด็นนี้ว่า เรื่องการขยายการประปาฯ ๖ แห่งให้กับเอกชนนั้นไม่เป็นความจริง
เป็นเพียงลักษณะของการให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการเท่านั้น
๒. คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องความคืบหน้าของโครงการขยายเขต
จำหน่ายน้ำที่ใช้งบลงทุนจำนวนกว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาท โดยได้รับการชี้แจงว่าขณะนี้การประปาส่วนภูมิภาค
ยังไม่ได้ดำเนินการในโครงการขยายเขตจำหน่ายน้ำเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้ระงับโครงการ
ดังกล่าวไว้ก่อน ซึ่งแต่เดิมการประปาฯ พิจารณาให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานดำเนินการ แต่คณะรัฐมนตรี
มีความเห็นว่าควรจะทำให้ระบบ Turn Key มากกว่าการให้สัมปทาน
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๐๒๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ปรับลด ๑,๕๕๙,๔๙๘,๒๐๐ บาท
คงเหลือ ๑,๐๒๑,๔๔๐,๕๐๑,๘๐๐ บาท
หมายเหตุ ยอด ณ วันจันทร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๔
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕
ครั้งที่ ๑๒
วันจันทร์ที่ ๒๓ เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๔
ณ ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ๓
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
---------------------------------
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยมีการพิจารณากระทรวงมหาดไทย ในส่วนของเมืองพัทยา การเคหะแห่งชาติ การทางพิเศษ
แห่งประเทศไทย และการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
เมืองพัทยา
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๓๗๓,๙๘๕,๙๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นเงิน
๑๖๙,๔๒๑,๘๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. คณะกรรมาธิการได้ซักถามเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าในงานพัฒนาเมือง
งานจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานไม่บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีผล
ต่อการศึกษาของเยาวชน ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าการเบิกจ่ายมีเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ๖ โครงการ ทุกโครงการ
จะเป็นไปตามสัญญา ในโครงการที่ ๔ ดำเนินงานแล้ว ๖๐% และคาดว่าจะเสร็จทันกำหนด แต่มีการเบิกจ่าย
ล่าช้าเนื่องจากค่าก่อสร้างคร่อมงวด ส่วนกรณีการปรับปรุงคลองนาเกลือเนื่องจากเป็นงานที่ต้องทำงานใน
โรงงานแต่มีการเบิกจ่ายแล้ว ๓๐% ด้านการศึกษาเกี่ยวกับเยาวชนมีการเบิกจ่ายแล้ว ๕๐% ส่วนที่เหลือ
ยังไม่เบิกจ่ายเนื่องจากเป็นเงินเดือนคณะครู อาจารย์ ซึ่งจะดำเนินการเบิกจ่ายให้ทันกับงบประมาณปี
๒๕๔๔
๒. คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการบริหารงานของเมืองพัทยาซึ่งเป็นเมือง
ท่องเที่ยวที่สามารถนำรายได้ให้แก่ประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ประสบปัญหาทางด้านการ
สาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่าง ๆ ควรจะมีมาตรการและแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และ
มีข้อเสนอแนะให้มีการจัดรูปผังเมืองใหม่ที่มีรูปแบบเดียวกันเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์
๓. คณะกรรมาธิการได้แสดงความห่วงใยด้านการศึกษาในฐานะที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและ
มีการปกครองในลักษณะพิเศษควรมีการดำเนินงานและประสานงานกับสถานศึกษาเอกชน ให้มีการจัดการ
ศึกษาที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่จะตามมา
การเคหะแห่งชาติ
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๕๐๘,๐๘๖,๘๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไข
ปัญหาชุมชนแออัดซึ่งมีการกระจุกตัวทำให้เกิดความเดือดร้อนและไม่เป็นธรรมทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร
และเมืองใหญ่ ๆ คณะกรรมาธิการเสนอให้พิจารณาการจัดสรรงบประมาณในโครงการต่าง ๆ ให้มีการ
กระจายไปยังพื้นที่ที่มีปัญหาอย่างทั่วถึงกัน และได้มอบหมายให้คณะทำงานไปศึกษาและพิจารณาอย่าง
รอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔,๙๖๐,๗๕๑,๐๐๐ บาท
มีรายการปรับลด ๔๐,๐๓๐,๐๐๐ บาท
คงเหลือ ๔,๙๒๐,๗๒๑,๐๐๐ บาท
ก. แผนงานชำระหนี้เงินกู้ ๔,๙๖๐,๗๕๑,๐๐๐ บาท
งบประมาณมีรายการปรับลดเนื่องจากการปรับแผนการกู้เงิน โดยปรับลดในแผนงาน
ชำระหนี้เงินกู้ โครงการทางด่วนสายบางประอิน-ปากเกร็ด (แจ้งวัฒนะ-บางพูน-บางไทร)
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. เรื่องการปรับค่าทางด่วนเพิ่มขึ้น กรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการผลักภาระ
ให้กับผู้ใช้บริการทางด่วน ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้บริโภค
ในประเด็นดังกล่าวนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้กล่าวว่า การปรับค่าทางด่วนนั้น มิใช่เป็น
การผลักภาระภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ใช้ทางด่วนแต่เป็นการปรับแผนการดำเนินงาน เนื่องจากที่ผ่านมา
นั้นการทางพิเศษฯ มีผลการดำเนินงานที่อยู่ในสภาวะขาดสภาพคล่อง และจำเป็นที่จะต้องมีการกู้เงิน
เพิ่มเพื่อให้การดำเนินงานสามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งการกู้เงินในแต่ละครั้งนั้นมีจำนวนเงินกู้
สูงถึง ๑,๒๐๐-๒,๐๐๐ ล้านบาท ทำให้การทางพิเศษฯ ต้องแบกรับภาระเรื่องเงินกู้เป็นจำนวนมาก
ดังนั้น การทางพิเศษฯ จึงมีแนวคิดที่จะให้ผู้ใช้บริการทางด่วนเป็นผู้แบ่งเบาภาระเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม
แทน
พร้อมกันนี้คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการ
ใช้บริการทางด่วนว่าแนวทางปฏิบัติขัดต่อมติคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งทางการทางพิเศษฯ ชี้แจงว่า
ขณะนี้กำลังดำเนินการพิจารณาเรื่องดังกล่าวร่วมกับคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค
สภาผู้แทนราษฎร โดยจะนำเสนอผลการพิจารณาส่งให้ศาลปกครองดำเนินการพิจารณาต่อไป
๒. การขยายเส้นทางด่วนในส่วนภูมิภาค การทางพิเศษฯ มีโครงการที่จะขยายเส้นทาง
ด่วนในแต่ละจังหวัด และการทางพิเศษเป็นผู้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นโดยมีบุคลากรของการทางพิเศษฯ
และมหาวิทยาลัยในจังหวัดนั้น ๆ มีนโยบายที่จะขยายเส้นทางด่วนระหว่างประเทศ อย่างเช่น เส้นทาง
จากจังหวัดสตูลถึงประเทศมาเลเซีย
การประปาส่วนภูมิภาค
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๒,๔๔๖,๘๔๐,๒๐๐ บาท
มีรายการปรับลด ๔๓,๐๖๔,๐๐๐ บาท
คงเหลือ ๒,๔๐๓,๗๗๖,๒๐๐ บาท
ก. แผนงานวางผังเมืองและบริการพื้นฐาน ๒,๔๔๖,๘๔๐,๒๐๐ บาท
การประปาส่วนภูมิภาคมีรายการปรับลดเนื่องจากผลการประกวดราคาต่ำกว่าราคากลาง
ที่ตั้งไว้และบางรายการได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและซักถามเกี่ยวกับประเด็นที่เป็นข่าวในขณะนี้ว่า
การประปาส่วนภูมิภาคได้ขายการประปาฯ ให้กับเอกชน ๖ แห่งนั้น มีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง การประปา
ส่วนภูมิภาคได้กล่าวในประเด็นนี้ว่า เรื่องการขยายการประปาฯ ๖ แห่งให้กับเอกชนนั้นไม่เป็นความจริง
เป็นเพียงลักษณะของการให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการเท่านั้น
๒. คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องความคืบหน้าของโครงการขยายเขต
จำหน่ายน้ำที่ใช้งบลงทุนจำนวนกว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาท โดยได้รับการชี้แจงว่าขณะนี้การประปาส่วนภูมิภาค
ยังไม่ได้ดำเนินการในโครงการขยายเขตจำหน่ายน้ำเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้ระงับโครงการ
ดังกล่าวไว้ก่อน ซึ่งแต่เดิมการประปาฯ พิจารณาให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานดำเนินการ แต่คณะรัฐมนตรี
มีความเห็นว่าควรจะทำให้ระบบ Turn Key มากกว่าการให้สัมปทาน
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๐๒๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ปรับลด ๑,๕๕๙,๔๙๘,๒๐๐ บาท
คงเหลือ ๑,๐๒๑,๔๔๐,๕๐๑,๘๐๐ บาท
หมายเหตุ ยอด ณ วันจันทร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๔