1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
นโยบายและมาตรการข้าวปี 2542/43 ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ โครงการเชื่อมโยงสินเชื่อเพื่อการผลิตและบริการตลาดข้าวของสหกรณ์ ปีการผลิต 2543/44 โครงการเริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2543 ขณะนี้ยังไม่มีผลการดำเนินงาน
ส่วนการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของ ธกส. ปีการผลิต 2542/43 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2542 ถึงวันที่ 26 ตุลาคม จำนวน 113,062 ราย ปริมาณข้าว 697,757 ตัน มูลค่า 3,286,433 ล้านบาท ไถ่ถอนปริมาณ 612,362 ตัน มูลค่า 2,844.22 ล้าน2543 มีบาท คงเหลือ 85,395 ตัน มูลค่า 402.21 ล้านบาท
ภาวะการซื้อขายข้าวในช่วงสัปดาห์นี้ ราคาที่เกษตรกรขายได้ลดลงจากสัปดาห์ก่อนมากเนื่องจากเป็นราคาข้าวนาปีฤดูใหม่ซึ่งข้าวความชื้นสูงที่เริ่มเข้าสู่ตลาด สำหรับราคาขายส่งข้าวในตลาดกรุงเทพฯ มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณความต้องการในช่วงนี้มีน้อย และปริมาณสต็อกยังมีเพียงพอสำหรับการส่งมอบ ทำให้ผู้ซื้อชลอการรับซื้อ ประกอบกับขณะนี้ข้าวนาปีฤดูใหม่ปี 2543/44 เริ่มทะยอย ออกสู่ตลาดมากขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 8 พฤศจิกายน 2543 ไทยส่งออกข้าวรวม 5,278,727 ตัน ลดลงจาก 5,438,090 ตัน ของการส่งออกช่วงระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 2.93
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 7,618 บาท ลดลงจากเกวียนละ 7,642 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.31
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 5,082 บาท ลดลงจากเกวียนละ 5,605 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 9.33
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปรัง ความชื้น 18-19% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี (ความชื้น 14-15%) ที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์ สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 4,350 บาท ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ย ตันละ 7,600 บาท ลดลงจากตันละ 7,650 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.65
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 195ดอลลาร์สหรัฐฯ (8,451 บาท/ตัน) ทรงตัวเท่าสัปดาห์ก่อน
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ ปีหน้าอินโดนิเชียไม่นำเข้าข้าวและเตรียมขึ้นภาษีนำเข้า
รายงานจากจากาตา แจ้งว่า Bulog ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลเกี่ยวกับกฎระเบียบการจัดการด้านสินค้าของอินโดนิเซีย ได้เปิดเผยว่า ในปี 2544 อินโดนิเชียไม่มีแผนนำเข้าข้าวเนื่องจากมีสต็อกคงเหลือของปี 2543 อยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับผลผลิตปี 2544 คาดว่าจะได้ผลดี โดยกระทรวงเกษตรของอินโดนิเชีย ได้คาดคะเนผลผลิตข้าวในปี 2544 ว่าจะได้ประมาณ 52-55 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้นจาก 50 ล้านตันของปีนี้ เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ทำให้มีการขยายพื้นที่ปลูก
นอกจากนี้อินโดนิเซียยังวางแผนที่จะขึ้นภาษีนำเข้าข้าวสำหรับปี 2544 จากเดิมซึ่งเก็บร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 55-60 พร้อมด้วยมาตรการออกใบอนุญาตสำหรับเอกชนที่ต้องการนำเข้าข้าว เพื่อควบคุมการนำเข้าผ่านภาคเอกชน
อินโดนิเซียเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของโลก ในปี 2542 มีการนำเข้าข้าว 3.6 ล้านตัน หรือร้อยละ 13 ของการนำเข้าทั้งหมดของโลก การประกาศงดนำเข้าข้าวและเพิ่มภาษีนำเข้า ตลอดจนมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของไทยและเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก เนื่องจากอินโดนิเชียเป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยเมื่อปี 2541 และ 2542 ได้ส่งออกข้าวไปอินโดนิเชียถึงร้อยละ 27 และ 17 ของการส่งออกข้าวทั้งหมดของไทยตามลำดับ
ราคาข้าวในตลาดโลก
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประกาศราคาข้าวในตลาดโลก ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2543 เทียบกับที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2543 ดังนี้
ข้าวเมล็ดยาวปอนด์ละ 5.60 เซนต์ (5.33 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดกลางปอนด์ละ 5.30 เซนต์ (5.05 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดสั้นปอนด์ละ 5.26 เซนต์ (5.02 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวหักปอนด์ละ 2.80 เซนต์ (2.67 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 43.34 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 43 ประจำวันที่ 30 ต.ค.- 5 พ.ย. 2543--
-สส-
นโยบายและมาตรการข้าวปี 2542/43 ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ โครงการเชื่อมโยงสินเชื่อเพื่อการผลิตและบริการตลาดข้าวของสหกรณ์ ปีการผลิต 2543/44 โครงการเริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2543 ขณะนี้ยังไม่มีผลการดำเนินงาน
ส่วนการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของ ธกส. ปีการผลิต 2542/43 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2542 ถึงวันที่ 26 ตุลาคม จำนวน 113,062 ราย ปริมาณข้าว 697,757 ตัน มูลค่า 3,286,433 ล้านบาท ไถ่ถอนปริมาณ 612,362 ตัน มูลค่า 2,844.22 ล้าน2543 มีบาท คงเหลือ 85,395 ตัน มูลค่า 402.21 ล้านบาท
ภาวะการซื้อขายข้าวในช่วงสัปดาห์นี้ ราคาที่เกษตรกรขายได้ลดลงจากสัปดาห์ก่อนมากเนื่องจากเป็นราคาข้าวนาปีฤดูใหม่ซึ่งข้าวความชื้นสูงที่เริ่มเข้าสู่ตลาด สำหรับราคาขายส่งข้าวในตลาดกรุงเทพฯ มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณความต้องการในช่วงนี้มีน้อย และปริมาณสต็อกยังมีเพียงพอสำหรับการส่งมอบ ทำให้ผู้ซื้อชลอการรับซื้อ ประกอบกับขณะนี้ข้าวนาปีฤดูใหม่ปี 2543/44 เริ่มทะยอย ออกสู่ตลาดมากขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 8 พฤศจิกายน 2543 ไทยส่งออกข้าวรวม 5,278,727 ตัน ลดลงจาก 5,438,090 ตัน ของการส่งออกช่วงระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 2.93
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 7,618 บาท ลดลงจากเกวียนละ 7,642 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.31
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 5,082 บาท ลดลงจากเกวียนละ 5,605 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 9.33
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปรัง ความชื้น 18-19% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี (ความชื้น 14-15%) ที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์ สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 4,350 บาท ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ย ตันละ 7,600 บาท ลดลงจากตันละ 7,650 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.65
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 195ดอลลาร์สหรัฐฯ (8,451 บาท/ตัน) ทรงตัวเท่าสัปดาห์ก่อน
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ ปีหน้าอินโดนิเชียไม่นำเข้าข้าวและเตรียมขึ้นภาษีนำเข้า
รายงานจากจากาตา แจ้งว่า Bulog ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลเกี่ยวกับกฎระเบียบการจัดการด้านสินค้าของอินโดนิเซีย ได้เปิดเผยว่า ในปี 2544 อินโดนิเชียไม่มีแผนนำเข้าข้าวเนื่องจากมีสต็อกคงเหลือของปี 2543 อยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับผลผลิตปี 2544 คาดว่าจะได้ผลดี โดยกระทรวงเกษตรของอินโดนิเชีย ได้คาดคะเนผลผลิตข้าวในปี 2544 ว่าจะได้ประมาณ 52-55 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้นจาก 50 ล้านตันของปีนี้ เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ทำให้มีการขยายพื้นที่ปลูก
นอกจากนี้อินโดนิเซียยังวางแผนที่จะขึ้นภาษีนำเข้าข้าวสำหรับปี 2544 จากเดิมซึ่งเก็บร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 55-60 พร้อมด้วยมาตรการออกใบอนุญาตสำหรับเอกชนที่ต้องการนำเข้าข้าว เพื่อควบคุมการนำเข้าผ่านภาคเอกชน
อินโดนิเซียเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของโลก ในปี 2542 มีการนำเข้าข้าว 3.6 ล้านตัน หรือร้อยละ 13 ของการนำเข้าทั้งหมดของโลก การประกาศงดนำเข้าข้าวและเพิ่มภาษีนำเข้า ตลอดจนมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของไทยและเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก เนื่องจากอินโดนิเชียเป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยเมื่อปี 2541 และ 2542 ได้ส่งออกข้าวไปอินโดนิเชียถึงร้อยละ 27 และ 17 ของการส่งออกข้าวทั้งหมดของไทยตามลำดับ
ราคาข้าวในตลาดโลก
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประกาศราคาข้าวในตลาดโลก ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2543 เทียบกับที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2543 ดังนี้
ข้าวเมล็ดยาวปอนด์ละ 5.60 เซนต์ (5.33 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดกลางปอนด์ละ 5.30 เซนต์ (5.05 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดสั้นปอนด์ละ 5.26 เซนต์ (5.02 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวหักปอนด์ละ 2.80 เซนต์ (2.67 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 43.34 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 43 ประจำวันที่ 30 ต.ค.- 5 พ.ย. 2543--
-สส-