ข่าวในประเทศ
1. ผู้ว่าการ ธปท. ชี้แจงกรณีการดำเนินคดีกับอดีตผู้บริหารสถาบันการเงิน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงชี้แจงกรณีการดำเนินคดีกับอดีตผู้บริหารสถาบันการเงินว่า เรื่องดังกล่าวมิได้หมายความว่า ธปท. จะไม่ดำเนินคดีหรือยุติการดำเนินคดี เพียงแต่ขั้นตอนได้พ้นจาก ธปท. แล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการของตำรวจ ศาล และอัยการ ซึ่ง ธปท. ไม่สามารถเข้าแทรกแซงให้เป็นไปตามความต้องการได้ ส่วนบางคดีที่มีการถอนฟ้องเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอนั้น ธปท. ไม่ควรแสดงความคิดเห็นหรือก้าวก่าย และย้ำว่า ธปท. จะยังคงรักษา มาตรฐาน คุณธรรม และศักดิ์ศรีเพื่อดำรงความเชื่อมั่นต่อธนาคารกลางของประเทศไว้ต่อไป (ไทยรัฐ, ข่าวสด 16)
2. ธปท.ยกเลิกการกำหนดเพดานการคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.44 ธปท.ได้ส่งหนังสือเวียนไปยัง ธพ.ไทยทุกแห่ง เพื่อยกเลิกการกำหนดเพดานการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี(เอ็มอาร์อาร์) ซึ่งเดิมในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเป็นทิศทางขาขึ้น ธปท. กำหนดให้ ธพ.กำหนดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ได้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี(เอ็มแอลอาร์)บวกส่วนต่างสูงสุดที่ ธพ.ประกาศแต่ไม่เกินร้อยละ 4 เพราะไม่ต้องการให้ ธพ.คิดดอกเบี้ยลูกค้าในอัตราที่สูงจนเกินไป แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเป็นขาลง ธปท.จึงยกเลิกเกณฑ์ดังกล่าวให้ ธพ.สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์สูงกว่าดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์บวกร้อยละ 4 ได้ เพื่อให้ภาระความเสี่ยงจากการคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำน้อยลง ซึ่งจะทำให้ ธพ.สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น นอกจากนั้น เกณฑ์เดิมยังมีผลบังคับเฉพาะ ธพ.ไทย ทำให้เสียเปรียบธนาคารต่างชาติในเชิงการแข่งขันทางธุรกิจ เนื่องจากธนาคารต่างชาติกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเอ็มแอลอาร์บวกเกินกว่าร้อยละ 4 (ข่าวสด, โลกวันนี้, มติชน, เดลินิวส์ 16)
3. รัฐบาลจะทาบทาม GIC จากสิงคโปร์เข้าร่วมลงทุนในกองทุนร่วมทุน รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะเดินทางไปเจรจาทาบทาม Government Investment Corporation of Singapore (GIC) ซึ่งเป็นกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ให้เข้าร่วมลงทุนในกองทุนร่วมทุน (Matching Fund) ของไทย เหตุผลที่รัฐบาลเลือกกองทุนดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่า สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีเงินลงทุนสูงและต้องการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ และที่ผ่านมาก็เคยส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูหุ้นเอกชนหลายแห่งแต่เห็นว่ายังมีขนาดเล็ก ซึ่งหากมีขนาดกองทุนใหญ่เชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจจาก สิงคโปร์และจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยในอนาคต (โลกวันนี้ 16)
4. รมว.คลังกล่าวถึงความจำเป็นในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ รมว.คลัง กล่าวว่า การแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กรเพื่อเพิ่มผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ให้มากกว่าปัจจุบันไม่ใช่การขาย และมีความจำเป็นที่ต้องแปรรูปเนื่องจากปัจจุบันรัฐวิสาหกิจจำนวน 59 แห่ง มี สินทรัพย์ทั้งสิ้น 4.6 ล้านล้านบาท ขณะที่มีหนี้สิน 4.3 ล้านล้านบาท และมีกำไร 1.5 หมื่น ล.บาท คิดเป็นผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เพียงร้อยละ 0.5 ซึ่งหากสามารถเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจเป็นร้อยละ 1 ได้จะทำให้มีกำไรสุทธิ 4.6 หมื่น ล.บาท(แนวหน้า, ผู้จัดการรายวัน 16)
ข่าวต่างประเทศ
1. ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมของ สรอ. ลดลงร้อยละ 0.1ในเดือน ก.ค. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ15 ส.ค.44 ธ. กลาง สรอ. เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวม หลังปรับฤดูกาลลดลงร้อยละ 0.1 ในเดือน ก.ค. 44 หลังจากลดลงร้อยละ 0.9 ในเดือน มิ.ย. 44 เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ขณะเดียวกัน การใช้กำลังการผลิตลดลงอยู่ที่ร้อยละ 77 จากเดือน มิ.ย. 44 ที่ระดับร้อยละ 77.2 นับเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 26 ที่การใช้การผลิตมีอัตราร้อยละ 77 เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในเดือน ก.ค. 44 ผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นส่วนประกอบใหญ่ที่สุดของผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวม ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน มิ.ย. 44 นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ก.ย. 43 ที่ผลผลิตไม่ลดลงจากเดือนก่อน นอกจากนั้น รายงานดังกล่าว ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์แห่งวอลล์สตรีทคาดไว้ว่า ผลผลิตฯ จะลดลงร้อยละ 0.2 ขณะที่การใช้กำลังการผลิตจะลดลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 76.7 (รอยเตอร์15)
2. สินค้าคงคลังของธุรกิจ สรอ. ลดลงร้อยละ 0.4 ในเดือน มิ.ย.44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 15 ส.ค.44 ก.พาณิชย์รายงานว่า เดือน มิ.ย.44 สินค้าคงคลังของธุรกิจมีมูลค่า 1,189.6 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 0.4 หลังจากลดลงร้อยละ 0.2 ในเดือน พ.ค.44 และเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลงร้อยละ 0.3 ทั้งนี้ เดือน มิ.ย. ยอดขายรวมมีมูลค่า 829.2 พัน ล.ดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 1.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค.35 ที่ลดลงร้อยละ 1.5โดยยอดขายรวมที่ลดลงในเดือน มิ.ย.44 มีสาเหตุสำคัญจากมูลค่าการขายสินค้าอุตสาหกรรมการผลิตลดลงร้อยละ 2.8 สำหรับสัดส่วนสินค้าคงคลังต่อยอดขายในเดือน มิ.ย.มีมูลค่าเท่ากับ 1.43 เดือน เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค.44 ที่เท่ากับ 1.42 เดือน (รอยเตอร์ 15)
3. จีดีพีหลังปรับตัวเลขของญี่ปุ่นในไตรมาสแรก ปี 44 ดีขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้น รายงานจากโตเกียวเมื่อ 16 ส.ค. 44 รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผย ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกปี 44 (ม.ค. - มี.ค. 44) ขยายตัวร้อยละ 0.1 จากไตรมาสที่ 4 ปี 43 เป็นการปรับเพิ่มจากตัวเลขเบื้องต้นที่ประกาศก่อนหน้านี้ว่าลดลงร้อยละ 0.2 ทั้งนี้ การปรับตัวเลขดังกล่าว เนื่องจากการปรับตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 0.6 จากตัวเลขเบื้องต้นที่ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายทุนหลังปรับตัวเลข ลดลงร้อยละ 0.9 ดีขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้นที่ลดลงร้อยละ 1 รายงานครั้งนี้ นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอย่างน้อยที่สุดในขณะนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจรอดพ้นจากภาวะถดถอย (รอยเตอร์16)
4. DIW คาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัวร้อยละ 0.7 ในไตรมาสที่ 2 รายงานจากเบอร์ลินเมื่อ 15 ส.ค.44 สาถบันวิจัยเศรษฐกิจ DIW คาดว่า ไตรมาสที่ 2 ปี 44 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ของเยอรมนีน่าจะขยายตัวร้อยละ 0.7 เทียบต่อปี ชะลอตัวลงจากร้อยละ 1.6 ในไตรมาสที่ 1 ปี 44 ซึ่งแสดงว่าปัจจุบันเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะงักงัน และภาวะดังกล่าวจะดำเนินต่อไปถึงไตรมาสที่ 3 เนื่องจากความต้องการสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างเบาบางในไตรมาสที่ 2 กำลังชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 3 ขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังคงอ่อนแอ.…(รอยเตอร์ 15)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 15 ส.ค. 44 44.819 (44.968)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 15 ส.ค. 44ซื้อ 44..6099 (44.8284) ขาย 44.9060 (45.1144)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,800 (5,800) ขาย 5,900 (5,900)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 24.01 (25.85)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 15.09 (15.09) ดีเซลหมุนเร็ว 13.94 (13.94)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ผู้ว่าการ ธปท. ชี้แจงกรณีการดำเนินคดีกับอดีตผู้บริหารสถาบันการเงิน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงชี้แจงกรณีการดำเนินคดีกับอดีตผู้บริหารสถาบันการเงินว่า เรื่องดังกล่าวมิได้หมายความว่า ธปท. จะไม่ดำเนินคดีหรือยุติการดำเนินคดี เพียงแต่ขั้นตอนได้พ้นจาก ธปท. แล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการของตำรวจ ศาล และอัยการ ซึ่ง ธปท. ไม่สามารถเข้าแทรกแซงให้เป็นไปตามความต้องการได้ ส่วนบางคดีที่มีการถอนฟ้องเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอนั้น ธปท. ไม่ควรแสดงความคิดเห็นหรือก้าวก่าย และย้ำว่า ธปท. จะยังคงรักษา มาตรฐาน คุณธรรม และศักดิ์ศรีเพื่อดำรงความเชื่อมั่นต่อธนาคารกลางของประเทศไว้ต่อไป (ไทยรัฐ, ข่าวสด 16)
2. ธปท.ยกเลิกการกำหนดเพดานการคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.44 ธปท.ได้ส่งหนังสือเวียนไปยัง ธพ.ไทยทุกแห่ง เพื่อยกเลิกการกำหนดเพดานการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี(เอ็มอาร์อาร์) ซึ่งเดิมในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเป็นทิศทางขาขึ้น ธปท. กำหนดให้ ธพ.กำหนดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ได้ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี(เอ็มแอลอาร์)บวกส่วนต่างสูงสุดที่ ธพ.ประกาศแต่ไม่เกินร้อยละ 4 เพราะไม่ต้องการให้ ธพ.คิดดอกเบี้ยลูกค้าในอัตราที่สูงจนเกินไป แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเป็นขาลง ธปท.จึงยกเลิกเกณฑ์ดังกล่าวให้ ธพ.สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์สูงกว่าดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์บวกร้อยละ 4 ได้ เพื่อให้ภาระความเสี่ยงจากการคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำน้อยลง ซึ่งจะทำให้ ธพ.สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น นอกจากนั้น เกณฑ์เดิมยังมีผลบังคับเฉพาะ ธพ.ไทย ทำให้เสียเปรียบธนาคารต่างชาติในเชิงการแข่งขันทางธุรกิจ เนื่องจากธนาคารต่างชาติกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเอ็มแอลอาร์บวกเกินกว่าร้อยละ 4 (ข่าวสด, โลกวันนี้, มติชน, เดลินิวส์ 16)
3. รัฐบาลจะทาบทาม GIC จากสิงคโปร์เข้าร่วมลงทุนในกองทุนร่วมทุน รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะเดินทางไปเจรจาทาบทาม Government Investment Corporation of Singapore (GIC) ซึ่งเป็นกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ให้เข้าร่วมลงทุนในกองทุนร่วมทุน (Matching Fund) ของไทย เหตุผลที่รัฐบาลเลือกกองทุนดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่า สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีเงินลงทุนสูงและต้องการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ และที่ผ่านมาก็เคยส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูหุ้นเอกชนหลายแห่งแต่เห็นว่ายังมีขนาดเล็ก ซึ่งหากมีขนาดกองทุนใหญ่เชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจจาก สิงคโปร์และจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยในอนาคต (โลกวันนี้ 16)
4. รมว.คลังกล่าวถึงความจำเป็นในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ รมว.คลัง กล่าวว่า การแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กรเพื่อเพิ่มผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ให้มากกว่าปัจจุบันไม่ใช่การขาย และมีความจำเป็นที่ต้องแปรรูปเนื่องจากปัจจุบันรัฐวิสาหกิจจำนวน 59 แห่ง มี สินทรัพย์ทั้งสิ้น 4.6 ล้านล้านบาท ขณะที่มีหนี้สิน 4.3 ล้านล้านบาท และมีกำไร 1.5 หมื่น ล.บาท คิดเป็นผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เพียงร้อยละ 0.5 ซึ่งหากสามารถเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจเป็นร้อยละ 1 ได้จะทำให้มีกำไรสุทธิ 4.6 หมื่น ล.บาท(แนวหน้า, ผู้จัดการรายวัน 16)
ข่าวต่างประเทศ
1. ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมของ สรอ. ลดลงร้อยละ 0.1ในเดือน ก.ค. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ15 ส.ค.44 ธ. กลาง สรอ. เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวม หลังปรับฤดูกาลลดลงร้อยละ 0.1 ในเดือน ก.ค. 44 หลังจากลดลงร้อยละ 0.9 ในเดือน มิ.ย. 44 เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ขณะเดียวกัน การใช้กำลังการผลิตลดลงอยู่ที่ร้อยละ 77 จากเดือน มิ.ย. 44 ที่ระดับร้อยละ 77.2 นับเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 26 ที่การใช้การผลิตมีอัตราร้อยละ 77 เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในเดือน ก.ค. 44 ผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นส่วนประกอบใหญ่ที่สุดของผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวม ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน มิ.ย. 44 นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ก.ย. 43 ที่ผลผลิตไม่ลดลงจากเดือนก่อน นอกจากนั้น รายงานดังกล่าว ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์แห่งวอลล์สตรีทคาดไว้ว่า ผลผลิตฯ จะลดลงร้อยละ 0.2 ขณะที่การใช้กำลังการผลิตจะลดลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 76.7 (รอยเตอร์15)
2. สินค้าคงคลังของธุรกิจ สรอ. ลดลงร้อยละ 0.4 ในเดือน มิ.ย.44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 15 ส.ค.44 ก.พาณิชย์รายงานว่า เดือน มิ.ย.44 สินค้าคงคลังของธุรกิจมีมูลค่า 1,189.6 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 0.4 หลังจากลดลงร้อยละ 0.2 ในเดือน พ.ค.44 และเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลงร้อยละ 0.3 ทั้งนี้ เดือน มิ.ย. ยอดขายรวมมีมูลค่า 829.2 พัน ล.ดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 1.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค.35 ที่ลดลงร้อยละ 1.5โดยยอดขายรวมที่ลดลงในเดือน มิ.ย.44 มีสาเหตุสำคัญจากมูลค่าการขายสินค้าอุตสาหกรรมการผลิตลดลงร้อยละ 2.8 สำหรับสัดส่วนสินค้าคงคลังต่อยอดขายในเดือน มิ.ย.มีมูลค่าเท่ากับ 1.43 เดือน เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค.44 ที่เท่ากับ 1.42 เดือน (รอยเตอร์ 15)
3. จีดีพีหลังปรับตัวเลขของญี่ปุ่นในไตรมาสแรก ปี 44 ดีขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้น รายงานจากโตเกียวเมื่อ 16 ส.ค. 44 รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผย ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกปี 44 (ม.ค. - มี.ค. 44) ขยายตัวร้อยละ 0.1 จากไตรมาสที่ 4 ปี 43 เป็นการปรับเพิ่มจากตัวเลขเบื้องต้นที่ประกาศก่อนหน้านี้ว่าลดลงร้อยละ 0.2 ทั้งนี้ การปรับตัวเลขดังกล่าว เนื่องจากการปรับตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 0.6 จากตัวเลขเบื้องต้นที่ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายทุนหลังปรับตัวเลข ลดลงร้อยละ 0.9 ดีขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้นที่ลดลงร้อยละ 1 รายงานครั้งนี้ นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอย่างน้อยที่สุดในขณะนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจรอดพ้นจากภาวะถดถอย (รอยเตอร์16)
4. DIW คาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัวร้อยละ 0.7 ในไตรมาสที่ 2 รายงานจากเบอร์ลินเมื่อ 15 ส.ค.44 สาถบันวิจัยเศรษฐกิจ DIW คาดว่า ไตรมาสที่ 2 ปี 44 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ของเยอรมนีน่าจะขยายตัวร้อยละ 0.7 เทียบต่อปี ชะลอตัวลงจากร้อยละ 1.6 ในไตรมาสที่ 1 ปี 44 ซึ่งแสดงว่าปัจจุบันเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะงักงัน และภาวะดังกล่าวจะดำเนินต่อไปถึงไตรมาสที่ 3 เนื่องจากความต้องการสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างเบาบางในไตรมาสที่ 2 กำลังชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 3 ขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังคงอ่อนแอ.…(รอยเตอร์ 15)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 15 ส.ค. 44 44.819 (44.968)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 15 ส.ค. 44ซื้อ 44..6099 (44.8284) ขาย 44.9060 (45.1144)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,800 (5,800) ขาย 5,900 (5,900)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 24.01 (25.85)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 15.09 (15.09) ดีเซลหมุนเร็ว 13.94 (13.94)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-