๑. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่าจากผลการประมูลน้ำตาลทราย โควตา ขจำนวน 210,000 - 400,000 กระสอบซึ่งมีค่าพรีเมี่ยมอยู่ที่ 0.15 เซ็นต์/ปอนด์และราคาน้ำตาลโลกอยู่ที่ระดับ 5.75 เซ็นต์/ปอนด์ ซึ่งหากราคาน้ำตาลโลกยังคงอยู่ในระดับนี้ทั้งปีและการประมูลน้ำตาลครั้งต่อไปค่าพรีเมี่ยมยังไม่สูงขึ้นจะส่งผลให้ราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ปี 2542/43 จะมีราคาต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้น ที่ได้คำนวณจากราคาน้ำตาลในตลาดโลก 6.9 เซ็นต์/ปอนด์
ดังนั้น จากปัญหาดังกล่าวจะส่งผลให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจะต้องหาเงินอุดหนุนอีกประมาณ 2,120 ล้านบาทซึ่งยังไม่รวมภาระหนี้สินที่ต้องชำระให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรอีกจำนวนหนึ่งในขณะที่กองทุนมีเงินเหลือเพียง 180 ล้านบาท เท่านั้น
๒. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
จีนจะปิดโรงงานน้ำตาล 140 โรง ในปีหน้า
รอยเตอร์รายงานว่าในปี 2543 จีนจะปิดโรงงานน้ำตาลจำนวน 140 โรง เนื่องจากปี 2542/43 อุตสาหกรรมน้ำตาลประสบปัญหาการขาดทุนกว่า 2.2 พันล้านหยวนสาเหตุจากจีนมีต้นทุนการผลิตน้ำตาลสูงถึง 2,000 หยวนต่อตันในขณะที่ต่างประเทศมีต้นทุนการผลิตเพียง 1,500 หยวนต่อตัน ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นถึงร้อยละ 33 ประกอบกับโรงงานน้ำตาลมีหนี้สินอีกจำนวนมากโดยรัฐบาลกลางของจีนจะเข้ามาช่วยเหลือโดยการจัดสรรเงินจำนวน 12.6 พันล้านหยวนเพื่อปิดบัญชีหนี้สูญของธนาคารพาณิชย์ที่มีลูกหนี้จากอุตสาหกรรมน้ำตาลที่ล้มละลายและรัฐบาลท้องถิ่นก็จะเข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือในส่วนของอุตสาหกรรมน้ำตาลที่ยังคงดำเนินการได้ต่อไปโดยปริมาณผลผลิตน้ำตาล ปี 2542/43 จะลดลงจาก 10.5 ล้านตัน เหลือเพียง 8.18 ล้านตัน
ราคาน้ำตาลทรายดิบ
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 4 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 97.86 ปอนด์สเตอลิง (กิโลกรัมละ 5.94 บาท) ลดลงจากตันละ 98.66 ปอนด์สเตอลิง (กิโลกรัมละ 6.16 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 0.81
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 7 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 157.74 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 5.96 บาท) ลดลงจากตันละ 159.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 6.13 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 1.29
ราคาน้ำตาลทรายขาว
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายขาว หมายเลข 5 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 170.34 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 6.43 บาท) เพิ่มขึ้นจากตันละ 166.98 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 6.41 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 2.01
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 50 ประจำวันที่ 20 - 26 ธ.ค. 2542--
สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่าจากผลการประมูลน้ำตาลทราย โควตา ขจำนวน 210,000 - 400,000 กระสอบซึ่งมีค่าพรีเมี่ยมอยู่ที่ 0.15 เซ็นต์/ปอนด์และราคาน้ำตาลโลกอยู่ที่ระดับ 5.75 เซ็นต์/ปอนด์ ซึ่งหากราคาน้ำตาลโลกยังคงอยู่ในระดับนี้ทั้งปีและการประมูลน้ำตาลครั้งต่อไปค่าพรีเมี่ยมยังไม่สูงขึ้นจะส่งผลให้ราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ปี 2542/43 จะมีราคาต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้น ที่ได้คำนวณจากราคาน้ำตาลในตลาดโลก 6.9 เซ็นต์/ปอนด์
ดังนั้น จากปัญหาดังกล่าวจะส่งผลให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจะต้องหาเงินอุดหนุนอีกประมาณ 2,120 ล้านบาทซึ่งยังไม่รวมภาระหนี้สินที่ต้องชำระให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรอีกจำนวนหนึ่งในขณะที่กองทุนมีเงินเหลือเพียง 180 ล้านบาท เท่านั้น
๒. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
จีนจะปิดโรงงานน้ำตาล 140 โรง ในปีหน้า
รอยเตอร์รายงานว่าในปี 2543 จีนจะปิดโรงงานน้ำตาลจำนวน 140 โรง เนื่องจากปี 2542/43 อุตสาหกรรมน้ำตาลประสบปัญหาการขาดทุนกว่า 2.2 พันล้านหยวนสาเหตุจากจีนมีต้นทุนการผลิตน้ำตาลสูงถึง 2,000 หยวนต่อตันในขณะที่ต่างประเทศมีต้นทุนการผลิตเพียง 1,500 หยวนต่อตัน ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นถึงร้อยละ 33 ประกอบกับโรงงานน้ำตาลมีหนี้สินอีกจำนวนมากโดยรัฐบาลกลางของจีนจะเข้ามาช่วยเหลือโดยการจัดสรรเงินจำนวน 12.6 พันล้านหยวนเพื่อปิดบัญชีหนี้สูญของธนาคารพาณิชย์ที่มีลูกหนี้จากอุตสาหกรรมน้ำตาลที่ล้มละลายและรัฐบาลท้องถิ่นก็จะเข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือในส่วนของอุตสาหกรรมน้ำตาลที่ยังคงดำเนินการได้ต่อไปโดยปริมาณผลผลิตน้ำตาล ปี 2542/43 จะลดลงจาก 10.5 ล้านตัน เหลือเพียง 8.18 ล้านตัน
ราคาน้ำตาลทรายดิบ
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 4 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 97.86 ปอนด์สเตอลิง (กิโลกรัมละ 5.94 บาท) ลดลงจากตันละ 98.66 ปอนด์สเตอลิง (กิโลกรัมละ 6.16 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 0.81
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 7 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 157.74 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 5.96 บาท) ลดลงจากตันละ 159.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 6.13 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 1.29
ราคาน้ำตาลทรายขาว
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายขาว หมายเลข 5 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 170.34 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 6.43 บาท) เพิ่มขึ้นจากตันละ 166.98 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กิโลกรัมละ 6.41 บาท) ของสัปดาห์ก่อนหรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 2.01
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 50 ประจำวันที่ 20 - 26 ธ.ค. 2542--