โปแลนด์กัดไม่ปล่อยเรื่องไทยเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมพิเศษตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็ก -------------------------------------------------------------------------------- ไทยอาจตกเป็นผู้ต้องหาทางการค้าภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) เกี่ยวกับการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้า เหล็กโครงสร้าง H-Beam เนื่องจากรัฐบาลโปแลนด์ได้ขอ หารือกับไทยภายใต้กระบวนการของความเข้าใจว่าด้วยกฎ และกระบวนการระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลก เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2541การหารือดังกล่าวมีขึ้น ณ นครเจนีวา ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2541โดยโปแลนด์ กล่าวหาว่าไทยใช้มาตรการตอบโต้ การทุ่มตลาดอย่างไม่ถูกต้องในประเด็นเกี่ยวกับ (1) ไทยไม่ได้ แจ้งให้รัฐบาลโปแลนด์ทราบอย่างเป็นทางการว่าจะมี การดำเนินการไต่สวน (2) ไทยไม่สามารถพิสูจน์ความสัมพันธ์ ระหว่างความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการนำเข้าสินค้าเหล็ก จากโปแลนด์ (injury test) และการทุ่มตลาดและ (3) ไทยคำนวน อัตราส่วนเหลื่อมการทุ่มตลาด (dumping margin) ผิดพลาด ทั้งนี้ โปแลนด์ต้องการให ้ไทยเพิกถอนมาตรการ ตอบโต้การทุ่ม ตลาดต่อสินค้าเหล็กดังกล่าวในทันที กระทรวงพาณิชย์ไทย ได้เริ่มการไต่สวนการนำเข้าสินค้า เหล็กโครงสร้าง H-Beam เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2539 เนื่องจากได้รับคำร้องเรียนจาก ผู้ผลิตสินค้าเหล็ก โครงสร้าง H-Beam คือ บริษัทสยามยามาโตะ จำกัด และหลังจาก ทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากบริษัทผู้ส่งออก พร้อมทั้งเดินทางไปตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลดังกล่าว ณ ประเทศโปแลนด์ กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมพิเศษตอบโต้การทุ่มตลาด เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2540 โดยอาศัยอำนาจตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษ ซึ่งสินค้า นำเข้าเพื่อตอบโต้ การทุ่มตลาดและการอุดหนุน พ.ศ. 2539 ในอัตราร้อยละ 27.78 สำหรับบริษัทส่งออกสินค้าเหล็ก ดังกล่าว 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ฮูต้า กาโต้ไว้ส์ จำกัด (Huta Katowice SA.) และบริษัท สเตลเอกสปอตร์ จำกัด (Stalexport SA.) การเรียกเก็บค่าธรรมเนียม พิเศษดังกล่าว ผนวกกับการประกาศเรียก เก็บค่าธรรมเนียมนำเข้าสินค้าเหล็ก โครงสร้าง H-Beam ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อีกร้อยละ 16 ทำให้การนำเข้าสินค้าเหล็กโครงสร้าง H-Beam จากโปแลนด์หยุดชะงักลง เนื่องจากไม่สามารถสู้ราคากับสินค้า ที่ผลิตภายในประเทศไทยได้และโดยที่ไทยเป็นตลาดสำคัญ อันดับต้นๆ ของสินค้าเหล็กโปแลนด์กอรปกับการที่บริษัทฮูต้าฯ มีอิทธิพลกับรัฐบาลโปแลนด์เป็นอย่างมาก รัฐบาลโปแลนด์ จึงได้ขอหารือกับรัฐบาลไทยตามข้อกล่าวหาข้างต้น พร้อมทั้งยืนยัน ให้ไทยยกเลิกมาตรการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษการทุ่มตลาด ดังกล่าวทันทีคณะผู้แทนไทยซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จาก กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายในและคณะผู้แทนถาวรไทย ประจำองค์การการค้าโลก ได้เข้าร่วมการหารือและให้คำชี้แจง ต่อข้อซักถามของโปแลนด์ในทุกประเด็นและได้ยืนยันว่า การใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดต่อสินค้าเหล็กโครงสร้าง H-Beam ส่งออกจากโปแลนด์เป็นไปตามข้อกำหนดของประกาศ กระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษ ซึ่งสินค้านำเข้าเพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน พ.ศ. 2539 ซึ่งมีความสอดคล้องกับความตกลงว่าด้วยมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ขององค์การการค้าโลกทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับการ แจ้งให้โปแลนด์ทราบล่วงหน้าก่อนที่กระทรวงพาณิชย์จะประกาศเริ่มการ ไต่สวนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดในเดือนพฤศจิกายน 2539 หรือการคำนวน ความเสียหายต่ออุตสาหกรรมเหล็กภายใน ประเทศและการคำนวนอัตราส่วนเหลื่อมการทุ่มตลาดก็ตาม คณะผู้แทนไทยยังได้ยืนยันต่อข้อซักถามของฝ่ายโปแลนด์ว่า การใช้ มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดนี้มิได้กระทำไปเพื่อปกป้องผู้ผลิตสินค้า เหล็กภายในประเทศ แต่เป็นการใช้มาตรการเพื่อให้เกิดความ เป็นธรรมทางการค้าไม่ให้มีการนำเข้าสินค้าในราคาที่ถือว่าเป็น การทุ่มตลาด อันเป็นผลเสียต่ออุตสาหกรรมและตลาดภายใน ประเทศโดยรวม และยังเป็นการรักษาสภาวะการแข่งขันที่ ยุติธรรมในตลาดสินค้าเหล็กภายในประเทศอีกด้วยภายใต้ ความตกลงว่าด้วยมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดขององค์การ การค้าโลกประเทศสมาชิกสามารถใช้มาตรการ ตอบโต้การทุ่มตลาดกับสินค้านำเข้า ที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ผลิตภาย ในประเทศว่า สินค้านั้นๆ ได้ถูกนำเข้าสู่ตลาดในราคาที่ต่ำกว่าราคาอัน เหมาะสมซึ่งสามารถวัดได้จากการเปรียบเทียบกับราคาสินค้าชนิดเดียวกัน ที่ขายภายในประเทศผู้ส่งออกหรือเปรียบเทียบกับราคาต้นทุน ทั้งนี การทุ่มตลาด ดังกล่าวต้องมีผลทำให้อุตสาหกรรมภายในประเทศได้ รับความเสียหายประกอบกัน จึงจะถือว่าเป็นการทุ่มตลาดที่สามารถ ทำการไต่สวนได้ในการพิจารณาความเหมาะสมของคำร้องเรียนจาก อุตสาหกรรมภายในประเทศก่อนเริ่มการไต่สวน ผู้ผลิตภายใน ประเทศต้องยื่นคำร้องและให้หลักฐานข้อมูลอย่างเพียงพอกับ กระทรวงพาณิชย์ที่จะใช้ในการพิจารณาและหลังจากที่หน่วยงานของรัฐ ได้รับเอกสารหลักฐานข้อมูลพร้อมแล้ว ความตกลงว่าด้วยมาตรการ ตอบโต้การทุ่มตลาดขององค์การการค้าโลกระบุให้หน่วยงานดังกล่าว ตรวจสอบสถานะของผู้ผลิตภายในประเทศว่ามีสัดส่วนมากพอที่จะ เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมภายในประเทศและแจ้งให้รัฐบาลของผู้ส่งออก ทราบอย่างเป็นทางการว่า ได้รับการร้องเรียนพร้อมทั้งเอกสารที่ สมบูรณ์จากอุตสาหกรรมภายในประเทศให้ดำเนินการไต่สวนการทุ่มตลาด สินค้านั้นๆ จากผลการหารือในวันที่ 29 พฤษภาคม รัฐบาลโปแลนด์ ยังยืนยันที่จะดำเนินการ ตามขั้นตอนของกระบวนการระงับ ข้อพิพาทต่อไป ดังนั้น คณะผู้แทนถาวรไทยฯ คาดว่า รัฐบาลโปแลนด์จะนำกรณีพิพาทดังกล่าวเข้าสู่การประชุมองค์กร ระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement Body) ขององค์การการค้าโลก ในเดือนมิถุนายน ศกนี้ เพื่อขอให้มีการตั้งคณะพิจารณา (panel) ขึ้นเพื่อรับฟังข้อพิพาทดังกล่าวและพิจารณาข้อโต้แย้งจากทั้งสองฝ่าย ก่อนที่จะมีข้อสรุปและข้อเสนอแนะภายในระยะเวลาประมาณหนึ่งปี ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน E-mail mailto:thai(WTO)@lprolink.ch หรือ http://www.dbe.moc.go.th/MOCOff/Oversea/OverSeaPart.html More Information Contact to The Permanent Mission of Thailand to the World Trade Organization (WTO)
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กุมภาพันธ์ 2543--
-ปส-
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กุมภาพันธ์ 2543--
-ปส-