แท็ก
อังกฤษ
ลักษณะของตลาดอาหารของสหราชอาณาจักร
รสนิยมและตลาด สังคมอังกฤษเป็นสังคมแบบพหุนิยม ประกอบด้วยกลุ่มคนหลายเชื้อชาติ สมัยก่อนช่วงทศวรรษ 1960 ชาวอังกฤษนิยมบริโภคเฉพาะอาหารพื้นบ้านของตน ในปัจจุบันชาวอังกฤษเปลี่ยนทัศนคติและรสนิยมารับประทานอาหารของชาติอื่น ๆ มากขึ้น ตลาดอาหารในสหราชอาณาจักรในปัจจุบันจึงเปิดกว้างแก่อาหารต่างชาติ ตลาดอาหารในปัจจุบันสามารถแบ่งอาหารออกเป็น 3 สาขาใหญ่ ได้แก่
1. อาหารพื้นบ้านของชาวอังกฤษ
2. อาหารนานาชาติ ซึ่งมีอาหารฝรั่งเศสและอิตาเลียนเป็นผู้นำในตลาด ตามด้วยอาหารของชนเชื้อชาติต่าง ๆ ที่มาอาศัย ในสหราชอาณาจักร
3. อาหารเพื่อสุขภาพ
โดยใน 3 สาขานี้ อาหารประเภทแช่แข็ง และประเภทแช่เย็น มีส่วนแบ่งในตลาดสูงสุด
พฤติกรรมการบริโภค
ในปัจจุบันและในอนาคต ชาวอังกฤษนิยมอาหารประเภทสำเร็จรูป กึ่งสำเร็จรูป อาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด อาหารที่ใช้เวลาเตรียมน้อย รวมทั้ง การรับประทานอาหารนอกบ้านและการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
ปัจจัยเสริมพฤติกรรมการบริโภคดังกล่าว ได้แก่
1. สหราชอาณาจักรมีสัดส่วนของสตรีที่สมรสแล้วออกมาทำงานนอกบ้านมากกว่าชาติอื่น
2. การที่ชาวอังกฤษ (ชาย-หญิง) ใช้เวลาในที่ทำงานมากกว่าชาวยุโรอื่น ๆ
3. ชีวิตที่มีกิจกรรมสำคัญรัดตัวทำให้มีเวลาในการจับจ่ายและปรุงอาหารน้อยลง
4. การให้ความสำคัญกับเวลาพักผ่อนและกิจกรรมเพื่อหย่อนใจอย่างสูง
5. การขยายตัวของการมีและการใช้ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและเครื่องอุ่นอาหารไมโครเวฟ
ผลที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการบริโภคข้างต้น ได้แก่
- ตลาดอาหารประเภทรับประทานได้ทันที ขยายตัวถึงร้อยละ 27 นับตั้งแต่ปี 2536 โดยมีมูลค่าถึง 1,254 ล้านปอนด์
ในปี 2540 หรือประมาณ 340,000 ตัน
- ตลาดสินค้าประเภทดังกล่าวของสหราชอาณาจักรมีมูลค่าและการแข่งขันสูงสุดและมีพัฒนาการมากที่สุดในยุโรป
- ทำให้มีการนำเสนอตำราการประกอบอาหาร และรูปอาหารสำเร็จรูปในรูปแบบต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างหลากหลาย
อาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนแบ่งในตลาดสูงสุด ได้แก่
1. อาหารประเภทแช่แข็ง (Frozen Food)
2. อาหารประเภทแช่เย็น (Chilled Food)
ในตลาดอาหารประเภทแช่แข็งนั้น อาหารนานาชาติแช่แข็งมีส่วนแบ่งตลาดและอัตราการขยายตัวสูงสุดถึงราวร้อยละ 25 นับตั้งแต่ปี 2538 โดยมีพาสต้า สาขานญ่าเนื้อสัตว์ และอาหารพื้นบ้านของอินเดีย เป็นที่นิยมสูงสุด อาหารประเภทปลาขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 32 นับตั้งแต่ปี 2539 อาหารจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 26 ส่วนอาหารพื้นบ้านของอังกฤษมีอัตราการขยายตัวน้อย (ประมาณร้อยละ 2)
สำหรับตลาดอาหารประเภทแช่เย็น ในขณะนี้กำลังได้รับความนิยมมากกว่าอาหารประเภทแช่แข็ง เนื่องจากอาหารประเภทแช่เย็นมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และผู้บริโภคมองว่าอาหาร (กึ่ง) สำเร็จรูปประเภทแช่เย็นมีคุณภาพและคุณค่าทางอาหารสูงกว่าอาหารแช่แข็ง การเตรียมอาหารสะดวกกว่า และมีสิ่งแปลกใหม่ให้เลือกมากกว่าอาหารแช่แข็งที่บรรจุในกระป๋องหรืออาหารแห้ง อาหารประเภทแช่เย็นขยายตัวในอัตราร้อยละ 35 ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และคาดว่ายังจะขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อไป อาหารแช่เย็นที่ขายจะเป็นอาหารระดับที่มีบริการในภัตตาคาร
นอกจากนี้ ความต้องการอาหารสำหรับเด็กและอาหารของชาติอื่น ๆ อาทิ ไทย ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศส อิตาเลียน มาเลเซีย กำลังเพิ่มขึ้น และมีวางขายในห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป อาทิ Mark and Spencer, Tesco, Waitrose ฯลฯ โดยส่วนใหญ่มีบริษัทในสหราชอาณาจักรเป็นผู้ผลิตตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้งนี้ ความต้องการอาหารต่างชาติส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้บริโภคสนใจที่จะลองลิ้มอาหารที่มีรสแปลกใหม่ในตระกูลอาหารที่เป็นที่ชื่นชอบ
โอกาสของอาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพมีอาหารประเภท orgnic และอาหารปราศจากไขมัน เป็นอาหารที่มีศักยภาพในการขยายส่วนแบ่งตลาดมากกว่าในอดีต ส่วนอาหารฝรั่งประเภท potato-topped fish dishes และผักมีลู่ทางค่อนข้างดีเนื่องจากยังไม่มีผู้ผลิตมาจำหน่ายมากนัก สำหรับอาหารประเภทมังวิรัติมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37 นับตั้งแต่ปี 2538 อาหารที่เป็นที่สนใจขอตลาดส่วนใหญ่เป็นอาหารอิตาเลียน อาทิ Roasted Vegetable Lasagna, Mushroom Risotto, Pasta a la Crme, Chili Bean with Coriander Cream เป็นต้น
กลยุทธ์ที่สำคัญของการประสบความสำเร็จในทางการตลาดเคล็บลับที่สำคัญ ได้แก่
1. การผลิตอาหารเหล่านั้นจะต้องมีรสชาดชวนลิ้มลอง แปลกใหม่น่ารับประทาน
2. มีขั้นตอนก่อนนำมารับประทานน้อยและง่ายที่สุด
3. ต้องเป็นอาหารที่มีคุณภาพสูง (ต้องไม่แห้งแต่อร่อยและคงคุณค่าอาหารไว้แม้จะต้องผ่านความร้อนเย็นแล้วก็ตาม)
4. สะอาดถูกสุขอนามัยตามมาตรฐานของประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลและผู้บริโภคให้ความสำคัญในประการที่ 3-4 และเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวอย่างยิ่ง ทั้งในแง่ของการตลาดและการเมือง
พฤติกรรมการบริโภคของชาวอังกฤษในปัจจุบัน ทำให้มีความต้องการอาหารสำเร็จรูปขนาดบรรจุที่รับประทานได้ทั้งครอบครัว (large servings) ควบคู่ไปกับขนาดที่พอทานสำหรับ 1-2 คน (single or double servings) ซึ่งบรรจุในภาชนะที่เปิดแล้วทานได้ทันที หากเป็นอาหารที่ต้องอบก็ควรจะใส่อยู่ในกล่องอลูมิเนียน (aluminium foil) ในปัจจุบันและอนาคตอาหาร (กึ่ง) สำเร็จรูปจะต้องเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ เพื่อตอบรับการแข่งขันจากอาหารประเภทห่อกลับบ้าน และบริการส่งถึงบ้าน ร้านอาหาร/ภัตตาคารด้วย
ข้อควรคำนึงในการค้าอาหารกับสหราชอาณาจักร
สำหรับประเด็นที่จะมีผลต่อตลาดอาหารและเป็นประเด็นทางด้านเศรษฐกิจการค้าระดับระหว่างประเทศ ในขณะนี้คือ ความไว้วางใจของผู้บริโภคในอาหารที่วางขายในท้องตลาด อันเกิดจากความห่วงกังวลของรัฐบาลสหราชอาณาจักรและผู้บริโภคในเรื่องของอาหารที่มีส่วนประกอบของอินทรีย์สารที่มีการปรับเปลี่ยนพันธุกรรม (Genetically Modified Organism-GMOs)
ตลาดอาหารในสหราชอาณาจักร ยังเปิดกว้างสำหรับผู้ส่งออกไทยอีกมาก หากไทยสามารถปฎิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด สามารถผลิตอาหารที่มีอายุในการวางจำหน่ายบนชั้นวาง (shelf life) ได้นาน หากเป็นอาหารพวกผักผลไม้ จะต้องคำนึงถึงราคาและความสดของผักผลไม้ รวมทั้ง การปฏิบัติตามกฎระเบียบเกี่ยวกับสุขอนามัยพืชของสหภาพยุโรป เป็นต้น และที่สำคัญ คือ การขายแข่งกับผู้ผลิตอาหารนานาชาติในสหราชอาณาจักรเอง ซึ่งในประการนี้ จะต้องมีกลวิธีในชักจูงให้ผู้นำเข้าหรือผู้ขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ หันมานำเข้าจากไทยมากกว่าซื้อจากผู้ผลิตชาวอังกฤษเอง สำหรับความจำเป็นในการประชาสัมพันธ์อาหารไทยคงมีไม่มากนัก เนื่องจากมีร้านอาหารไทยในสหราชอาณาจักรกว่า 300 ร้าน และอาหารไทยเป็นที่นิยมของผู้บริโภค หากมีการหารือร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและใข้ร้านค้าเหล่านี้เป็นจุดกระจายสินค้าย่อยร่วมกับการขายผ่านซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ก็จะทำให้สินค้าอาหารของไทยขยายตัวได้มากขึ้น ทั้งนี้ ควรจะมีการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างผู้ส่งออกอาหารและเจ้าของร้านอาหารไทยเกี่ยวกับการดำเนินบทบาทเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์ร่วมกันในอนาคตและขจัดความรู้สึกของการเป็นคู่แข่งออกไป เพื่อให้การส่งออกอาหารไทยประสบความสำเร็จในระยะยาว
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน
--วารสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 22/30 พฤศจิกายน 2542--
รสนิยมและตลาด สังคมอังกฤษเป็นสังคมแบบพหุนิยม ประกอบด้วยกลุ่มคนหลายเชื้อชาติ สมัยก่อนช่วงทศวรรษ 1960 ชาวอังกฤษนิยมบริโภคเฉพาะอาหารพื้นบ้านของตน ในปัจจุบันชาวอังกฤษเปลี่ยนทัศนคติและรสนิยมารับประทานอาหารของชาติอื่น ๆ มากขึ้น ตลาดอาหารในสหราชอาณาจักรในปัจจุบันจึงเปิดกว้างแก่อาหารต่างชาติ ตลาดอาหารในปัจจุบันสามารถแบ่งอาหารออกเป็น 3 สาขาใหญ่ ได้แก่
1. อาหารพื้นบ้านของชาวอังกฤษ
2. อาหารนานาชาติ ซึ่งมีอาหารฝรั่งเศสและอิตาเลียนเป็นผู้นำในตลาด ตามด้วยอาหารของชนเชื้อชาติต่าง ๆ ที่มาอาศัย ในสหราชอาณาจักร
3. อาหารเพื่อสุขภาพ
โดยใน 3 สาขานี้ อาหารประเภทแช่แข็ง และประเภทแช่เย็น มีส่วนแบ่งในตลาดสูงสุด
พฤติกรรมการบริโภค
ในปัจจุบันและในอนาคต ชาวอังกฤษนิยมอาหารประเภทสำเร็จรูป กึ่งสำเร็จรูป อาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด อาหารที่ใช้เวลาเตรียมน้อย รวมทั้ง การรับประทานอาหารนอกบ้านและการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
ปัจจัยเสริมพฤติกรรมการบริโภคดังกล่าว ได้แก่
1. สหราชอาณาจักรมีสัดส่วนของสตรีที่สมรสแล้วออกมาทำงานนอกบ้านมากกว่าชาติอื่น
2. การที่ชาวอังกฤษ (ชาย-หญิง) ใช้เวลาในที่ทำงานมากกว่าชาวยุโรอื่น ๆ
3. ชีวิตที่มีกิจกรรมสำคัญรัดตัวทำให้มีเวลาในการจับจ่ายและปรุงอาหารน้อยลง
4. การให้ความสำคัญกับเวลาพักผ่อนและกิจกรรมเพื่อหย่อนใจอย่างสูง
5. การขยายตัวของการมีและการใช้ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและเครื่องอุ่นอาหารไมโครเวฟ
ผลที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการบริโภคข้างต้น ได้แก่
- ตลาดอาหารประเภทรับประทานได้ทันที ขยายตัวถึงร้อยละ 27 นับตั้งแต่ปี 2536 โดยมีมูลค่าถึง 1,254 ล้านปอนด์
ในปี 2540 หรือประมาณ 340,000 ตัน
- ตลาดสินค้าประเภทดังกล่าวของสหราชอาณาจักรมีมูลค่าและการแข่งขันสูงสุดและมีพัฒนาการมากที่สุดในยุโรป
- ทำให้มีการนำเสนอตำราการประกอบอาหาร และรูปอาหารสำเร็จรูปในรูปแบบต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างหลากหลาย
อาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนแบ่งในตลาดสูงสุด ได้แก่
1. อาหารประเภทแช่แข็ง (Frozen Food)
2. อาหารประเภทแช่เย็น (Chilled Food)
ในตลาดอาหารประเภทแช่แข็งนั้น อาหารนานาชาติแช่แข็งมีส่วนแบ่งตลาดและอัตราการขยายตัวสูงสุดถึงราวร้อยละ 25 นับตั้งแต่ปี 2538 โดยมีพาสต้า สาขานญ่าเนื้อสัตว์ และอาหารพื้นบ้านของอินเดีย เป็นที่นิยมสูงสุด อาหารประเภทปลาขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 32 นับตั้งแต่ปี 2539 อาหารจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 26 ส่วนอาหารพื้นบ้านของอังกฤษมีอัตราการขยายตัวน้อย (ประมาณร้อยละ 2)
สำหรับตลาดอาหารประเภทแช่เย็น ในขณะนี้กำลังได้รับความนิยมมากกว่าอาหารประเภทแช่แข็ง เนื่องจากอาหารประเภทแช่เย็นมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และผู้บริโภคมองว่าอาหาร (กึ่ง) สำเร็จรูปประเภทแช่เย็นมีคุณภาพและคุณค่าทางอาหารสูงกว่าอาหารแช่แข็ง การเตรียมอาหารสะดวกกว่า และมีสิ่งแปลกใหม่ให้เลือกมากกว่าอาหารแช่แข็งที่บรรจุในกระป๋องหรืออาหารแห้ง อาหารประเภทแช่เย็นขยายตัวในอัตราร้อยละ 35 ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และคาดว่ายังจะขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อไป อาหารแช่เย็นที่ขายจะเป็นอาหารระดับที่มีบริการในภัตตาคาร
นอกจากนี้ ความต้องการอาหารสำหรับเด็กและอาหารของชาติอื่น ๆ อาทิ ไทย ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศส อิตาเลียน มาเลเซีย กำลังเพิ่มขึ้น และมีวางขายในห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป อาทิ Mark and Spencer, Tesco, Waitrose ฯลฯ โดยส่วนใหญ่มีบริษัทในสหราชอาณาจักรเป็นผู้ผลิตตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้งนี้ ความต้องการอาหารต่างชาติส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้บริโภคสนใจที่จะลองลิ้มอาหารที่มีรสแปลกใหม่ในตระกูลอาหารที่เป็นที่ชื่นชอบ
โอกาสของอาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพมีอาหารประเภท orgnic และอาหารปราศจากไขมัน เป็นอาหารที่มีศักยภาพในการขยายส่วนแบ่งตลาดมากกว่าในอดีต ส่วนอาหารฝรั่งประเภท potato-topped fish dishes และผักมีลู่ทางค่อนข้างดีเนื่องจากยังไม่มีผู้ผลิตมาจำหน่ายมากนัก สำหรับอาหารประเภทมังวิรัติมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37 นับตั้งแต่ปี 2538 อาหารที่เป็นที่สนใจขอตลาดส่วนใหญ่เป็นอาหารอิตาเลียน อาทิ Roasted Vegetable Lasagna, Mushroom Risotto, Pasta a la Crme, Chili Bean with Coriander Cream เป็นต้น
กลยุทธ์ที่สำคัญของการประสบความสำเร็จในทางการตลาดเคล็บลับที่สำคัญ ได้แก่
1. การผลิตอาหารเหล่านั้นจะต้องมีรสชาดชวนลิ้มลอง แปลกใหม่น่ารับประทาน
2. มีขั้นตอนก่อนนำมารับประทานน้อยและง่ายที่สุด
3. ต้องเป็นอาหารที่มีคุณภาพสูง (ต้องไม่แห้งแต่อร่อยและคงคุณค่าอาหารไว้แม้จะต้องผ่านความร้อนเย็นแล้วก็ตาม)
4. สะอาดถูกสุขอนามัยตามมาตรฐานของประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลและผู้บริโภคให้ความสำคัญในประการที่ 3-4 และเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวอย่างยิ่ง ทั้งในแง่ของการตลาดและการเมือง
พฤติกรรมการบริโภคของชาวอังกฤษในปัจจุบัน ทำให้มีความต้องการอาหารสำเร็จรูปขนาดบรรจุที่รับประทานได้ทั้งครอบครัว (large servings) ควบคู่ไปกับขนาดที่พอทานสำหรับ 1-2 คน (single or double servings) ซึ่งบรรจุในภาชนะที่เปิดแล้วทานได้ทันที หากเป็นอาหารที่ต้องอบก็ควรจะใส่อยู่ในกล่องอลูมิเนียน (aluminium foil) ในปัจจุบันและอนาคตอาหาร (กึ่ง) สำเร็จรูปจะต้องเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ เพื่อตอบรับการแข่งขันจากอาหารประเภทห่อกลับบ้าน และบริการส่งถึงบ้าน ร้านอาหาร/ภัตตาคารด้วย
ข้อควรคำนึงในการค้าอาหารกับสหราชอาณาจักร
สำหรับประเด็นที่จะมีผลต่อตลาดอาหารและเป็นประเด็นทางด้านเศรษฐกิจการค้าระดับระหว่างประเทศ ในขณะนี้คือ ความไว้วางใจของผู้บริโภคในอาหารที่วางขายในท้องตลาด อันเกิดจากความห่วงกังวลของรัฐบาลสหราชอาณาจักรและผู้บริโภคในเรื่องของอาหารที่มีส่วนประกอบของอินทรีย์สารที่มีการปรับเปลี่ยนพันธุกรรม (Genetically Modified Organism-GMOs)
ตลาดอาหารในสหราชอาณาจักร ยังเปิดกว้างสำหรับผู้ส่งออกไทยอีกมาก หากไทยสามารถปฎิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด สามารถผลิตอาหารที่มีอายุในการวางจำหน่ายบนชั้นวาง (shelf life) ได้นาน หากเป็นอาหารพวกผักผลไม้ จะต้องคำนึงถึงราคาและความสดของผักผลไม้ รวมทั้ง การปฏิบัติตามกฎระเบียบเกี่ยวกับสุขอนามัยพืชของสหภาพยุโรป เป็นต้น และที่สำคัญ คือ การขายแข่งกับผู้ผลิตอาหารนานาชาติในสหราชอาณาจักรเอง ซึ่งในประการนี้ จะต้องมีกลวิธีในชักจูงให้ผู้นำเข้าหรือผู้ขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ หันมานำเข้าจากไทยมากกว่าซื้อจากผู้ผลิตชาวอังกฤษเอง สำหรับความจำเป็นในการประชาสัมพันธ์อาหารไทยคงมีไม่มากนัก เนื่องจากมีร้านอาหารไทยในสหราชอาณาจักรกว่า 300 ร้าน และอาหารไทยเป็นที่นิยมของผู้บริโภค หากมีการหารือร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและใข้ร้านค้าเหล่านี้เป็นจุดกระจายสินค้าย่อยร่วมกับการขายผ่านซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ก็จะทำให้สินค้าอาหารของไทยขยายตัวได้มากขึ้น ทั้งนี้ ควรจะมีการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างผู้ส่งออกอาหารและเจ้าของร้านอาหารไทยเกี่ยวกับการดำเนินบทบาทเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์ร่วมกันในอนาคตและขจัดความรู้สึกของการเป็นคู่แข่งออกไป เพื่อให้การส่งออกอาหารไทยประสบความสำเร็จในระยะยาว
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน
--วารสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 22/30 พฤศจิกายน 2542--