กรุงเทพ--23 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2543 เรือขนส่งสินค้าของบริษัทชื่อแสงไทย ทรานสปอร์ต เรือขนส่งสินค้าของบริษัทชื่อ "Sang Thai Radium" กำลังเดินทางจากประเทศไทยไปฮ่องกง ได้เจอคลื่นลมแรง จึงได้แวะหลบพายุและจอดทอดสมอชั่วคราวที่ Dao Phu Qui ในเขต จ. บิ่นห์ ถ่วน เวียดนาม โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของเวียดนามทราบเนื่องจากในขณะนั้นอุปกรณ์สื่อสารใช้การไม่ได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชายฝั่งเวียดนามได้เข้าตรวจค้นเรือลำดังกล่าว ได้ยึดเอกสารสำคัญเกี่ยวกับการเดินเรือจากกัปตันเรือไปสอบสวนถึงสาเหตุที่ล่วงล้ำเข้ามาในเขตน่านน้ำเวียดนามโดยมิได้รับอนุญาต บริษัทฯ จึงได้แต่งตั้งให้ VOSA VUNG TAU (Vietnam Oversea Shipping Agency) เป็นตัวแทนในการเจรจาขอปล่อยเรือกับทางการเวียดนาม พร้อมทั้งขอความช่วยเหลือจากสถานกงสุลใหญ่ฯ ในการประสานกับทางการเวียดนามเพื่อให้ปล่อยเรือโดยเร็ว โดยบริษัทฯ ยินดีชำระค่าปรับ ทั้งนี้เพราะบริษัทฯ มีภาระจะต้องขนส่งสินค้าไปใช้ผู้รับสินค้าที่ฮ่องกงตามกำหนดเวลา
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2543 สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงได้มีหนังสือไปยังแผนกต่างประเทศ คณะกรรมการประชาชน จ. บิ่นห์ ถ่วน และกรมสัมพันธ์ต่างประเทศนครโฮจิมินห์ เพื่อขอให้เร่งรัดการปล่อยเรือลำดังกล่าวโดยเร็ว และต่อมาเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2543 คณะกรรมการประชาชน จ. บิ่นห์ ถ่วน ได้มีคำสั่งปรับและปล่อยเรือ Sang Thai Radium และคืนเอกสารประจำเรือพร้อมทั้งปล่อยกัปตันและต้นหนให้สามารถเดินทางต่อไปยังฮ่องกงได้ด้วยความเรียบร้อย ช่วยให้บริษัทแสงไทย ทรานสปอร์ต มิต้องชำระค่าปรับฐานส่งมอบสินค้าไม่ทันตามกำหนด
การดำเนินการช่วยเหลือเรือสินค้าไทย Sang Thai Radium ของสถานกงสุลใหญ่ฯ ครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 6 วัน เนื่องจากได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทางการท้องถิ่นของเวียดนาม ความช่วยเหลือดังกล่าวจึงเป็นการตอบสนองต่อความพยายามในการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่าง รัฐบาลไทยกับเวียดนาม อนึ่ง ก่อนหน้านี้ประเทศไทยได้แสดงไมตรีจิตอันดีต่อฝ่ายเวียดนาม โดยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2543 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษให้แก่ชาวประมงเวียดนามจำนวนถึง 102 คน ซึ่งได้เดินทางกลับเวียดนามโดยสวัสดิภาพ--จบ--
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2543 เรือขนส่งสินค้าของบริษัทชื่อแสงไทย ทรานสปอร์ต เรือขนส่งสินค้าของบริษัทชื่อ "Sang Thai Radium" กำลังเดินทางจากประเทศไทยไปฮ่องกง ได้เจอคลื่นลมแรง จึงได้แวะหลบพายุและจอดทอดสมอชั่วคราวที่ Dao Phu Qui ในเขต จ. บิ่นห์ ถ่วน เวียดนาม โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของเวียดนามทราบเนื่องจากในขณะนั้นอุปกรณ์สื่อสารใช้การไม่ได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชายฝั่งเวียดนามได้เข้าตรวจค้นเรือลำดังกล่าว ได้ยึดเอกสารสำคัญเกี่ยวกับการเดินเรือจากกัปตันเรือไปสอบสวนถึงสาเหตุที่ล่วงล้ำเข้ามาในเขตน่านน้ำเวียดนามโดยมิได้รับอนุญาต บริษัทฯ จึงได้แต่งตั้งให้ VOSA VUNG TAU (Vietnam Oversea Shipping Agency) เป็นตัวแทนในการเจรจาขอปล่อยเรือกับทางการเวียดนาม พร้อมทั้งขอความช่วยเหลือจากสถานกงสุลใหญ่ฯ ในการประสานกับทางการเวียดนามเพื่อให้ปล่อยเรือโดยเร็ว โดยบริษัทฯ ยินดีชำระค่าปรับ ทั้งนี้เพราะบริษัทฯ มีภาระจะต้องขนส่งสินค้าไปใช้ผู้รับสินค้าที่ฮ่องกงตามกำหนดเวลา
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2543 สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงได้มีหนังสือไปยังแผนกต่างประเทศ คณะกรรมการประชาชน จ. บิ่นห์ ถ่วน และกรมสัมพันธ์ต่างประเทศนครโฮจิมินห์ เพื่อขอให้เร่งรัดการปล่อยเรือลำดังกล่าวโดยเร็ว และต่อมาเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2543 คณะกรรมการประชาชน จ. บิ่นห์ ถ่วน ได้มีคำสั่งปรับและปล่อยเรือ Sang Thai Radium และคืนเอกสารประจำเรือพร้อมทั้งปล่อยกัปตันและต้นหนให้สามารถเดินทางต่อไปยังฮ่องกงได้ด้วยความเรียบร้อย ช่วยให้บริษัทแสงไทย ทรานสปอร์ต มิต้องชำระค่าปรับฐานส่งมอบสินค้าไม่ทันตามกำหนด
การดำเนินการช่วยเหลือเรือสินค้าไทย Sang Thai Radium ของสถานกงสุลใหญ่ฯ ครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 6 วัน เนื่องจากได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทางการท้องถิ่นของเวียดนาม ความช่วยเหลือดังกล่าวจึงเป็นการตอบสนองต่อความพยายามในการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่าง รัฐบาลไทยกับเวียดนาม อนึ่ง ก่อนหน้านี้ประเทศไทยได้แสดงไมตรีจิตอันดีต่อฝ่ายเวียดนาม โดยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2543 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษให้แก่ชาวประมงเวียดนามจำนวนถึง 102 คน ซึ่งได้เดินทางกลับเวียดนามโดยสวัสดิภาพ--จบ--