นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์การผลิตและส่งออกข้าวว่า ผลผลิตข้าวในประเทศที่มีปริมาณลดลงจากปีก่อน ประกอบกับสต็อกข้าวต่ำ จึงกำหนดเป้าหมายการส่งออกลดลงจากปีก่อนเพื่อให้สอดคล้องกับการผลิต พร้อมเพิ่มกลยุทธ์เร่งรัดผลักดันการส่งออกข้าว และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลก เพื่อยกระดับราคาข้าวให้สูงขึ้น
จากการที่ผลผลิตข้าวภายในประเทศปี 2547/48 คาดว่ามีปริมาณ 23.86 ล้านตันข้าวเปลือกลดลงจากปีก่อนร้อยละ 12.4 เนื่องจากประสบภาวะความแห้งแล้งในหลายพื้นที่ ในขณะที่ปริมาณสต็อกข้าวในประเทศอยู่ในระดับต่ำมากประมาณ 700,000 ตัน ซึ่งปกติควรมีประมาณ 2 ล้านตัน และเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการผลิตจึงได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าวปี 2548 ไว้ 8.5 ล้านตันมูลค่า 2,510 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จนถึงขณะนี้(ม.ค.- มี.ค.48) สามารถส่งออกข้าวได้แล้ว 1.91 ล้านตัน มูลค่า 585 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(22,633 ล้านบาท) ปริมาณลดลงจากระยะเดียวของปีก่อนร้อยละ 7.8 แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.5 ของปริมาณเป้าหมายการส่งออก และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับร้อยละ 20.4 แต่ราคาข้าวอยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก โดยราคาข้าวส่งออกเฉลี่ยในปี 2548 (ม.ค. — มี.ค.48) อยู่ที่ระดับตันละ 306 เหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่ตันละ 268 เหรียญสหรัฐฯ หรือสูงขึ้นร้อยละ 14.0
การที่จะผลักดันส่งออกข้าวให้มีการขยายตัวอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ จะต้องมีปริมาณข้าวภายในประเทศเหลือส่งออกมากเพียงพอต่อความต้องการข้าวของตลาดโลก ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพที่สามารถเพิ่มผลผลิตข้าวได้อีกมาก โดยการบริหารจัดการที่ดีทั้งก่อนเก็บเกี่ยวและหลังเก็บเกี่ยว รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องจักรกลการเกษตร ตลอดจนถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทย และรักษาเสถียรภาพราคา รวมทั้งเพิ่มมูลค่าส่งออกข้าวไทยให้สูงขึ้นอีก จึงต้องจัดทำแผนการส่งออกข้าวแบบบูรณาการ พร้อมทั้งสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมอาทิ การร่วมมือกับประเทศผู้ส่งออกข้าวเพื่อร่วมทุนให้มีความมั่นคงทางด้านการส่งออกไทย-เวียดนาม ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาข้าวให้สูงขึ้น สนับสนุนการสร้างแบรนด์ (Brand) ข้าวหอมมะลิไทย โดยให้ผู้ค้าข้าวในประเทศ มีแบรนด์เป็นของตนเองจนเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ รวมทั้งการสนับสนุนการค้ำประกันการส่งออก(Trade Finance)สำหรับตลาดมีศักยภาพการนำเข้าข้าวสูงเช่นในแอฟริกาเป็นต้น ซึ่งจะทำให้การส่งออกข้าวในปี 2548 เป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
จากการที่ผลผลิตข้าวภายในประเทศปี 2547/48 คาดว่ามีปริมาณ 23.86 ล้านตันข้าวเปลือกลดลงจากปีก่อนร้อยละ 12.4 เนื่องจากประสบภาวะความแห้งแล้งในหลายพื้นที่ ในขณะที่ปริมาณสต็อกข้าวในประเทศอยู่ในระดับต่ำมากประมาณ 700,000 ตัน ซึ่งปกติควรมีประมาณ 2 ล้านตัน และเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการผลิตจึงได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าวปี 2548 ไว้ 8.5 ล้านตันมูลค่า 2,510 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จนถึงขณะนี้(ม.ค.- มี.ค.48) สามารถส่งออกข้าวได้แล้ว 1.91 ล้านตัน มูลค่า 585 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(22,633 ล้านบาท) ปริมาณลดลงจากระยะเดียวของปีก่อนร้อยละ 7.8 แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.5 ของปริมาณเป้าหมายการส่งออก และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับร้อยละ 20.4 แต่ราคาข้าวอยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก โดยราคาข้าวส่งออกเฉลี่ยในปี 2548 (ม.ค. — มี.ค.48) อยู่ที่ระดับตันละ 306 เหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่ตันละ 268 เหรียญสหรัฐฯ หรือสูงขึ้นร้อยละ 14.0
การที่จะผลักดันส่งออกข้าวให้มีการขยายตัวอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ จะต้องมีปริมาณข้าวภายในประเทศเหลือส่งออกมากเพียงพอต่อความต้องการข้าวของตลาดโลก ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพที่สามารถเพิ่มผลผลิตข้าวได้อีกมาก โดยการบริหารจัดการที่ดีทั้งก่อนเก็บเกี่ยวและหลังเก็บเกี่ยว รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องจักรกลการเกษตร ตลอดจนถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทย และรักษาเสถียรภาพราคา รวมทั้งเพิ่มมูลค่าส่งออกข้าวไทยให้สูงขึ้นอีก จึงต้องจัดทำแผนการส่งออกข้าวแบบบูรณาการ พร้อมทั้งสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมอาทิ การร่วมมือกับประเทศผู้ส่งออกข้าวเพื่อร่วมทุนให้มีความมั่นคงทางด้านการส่งออกไทย-เวียดนาม ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาข้าวให้สูงขึ้น สนับสนุนการสร้างแบรนด์ (Brand) ข้าวหอมมะลิไทย โดยให้ผู้ค้าข้าวในประเทศ มีแบรนด์เป็นของตนเองจนเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ รวมทั้งการสนับสนุนการค้ำประกันการส่งออก(Trade Finance)สำหรับตลาดมีศักยภาพการนำเข้าข้าวสูงเช่นในแอฟริกาเป็นต้น ซึ่งจะทำให้การส่งออกข้าวในปี 2548 เป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-