การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนพฤศจิกายน มีมูลค่า 2,082.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม ปี 2548 ร้อยละ 3.7 และคาดว่าเดือนธันวาคม จะส่งออกได้ประมาณ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์
การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ในช่วง 11 เดือน(ม.ค.-พ.ย.)ของปี 2548 มีมูลค่า 20,210 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพื่อจูงใจให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและประกอบเพื่อส่งออกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้มีบริษัทแม่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนหรือขยายการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นทำการผลิตและส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า และ Hard Disk Drive (HDD) กลับไปยังประเทศต่างๆตามนโยบายบริษัทแม่ โดยเฉพาะการผลิต HDD ในอนาตคอันใกล้นี้ประเทศไทยจะเป็นผู้ผลิตมากที่สุดในโลกแทนที่สิงคโปร์
รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนและจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในอาเซียน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาครัฐจะลดภาษีนำเข้าในหมวดวัตถุดิบขั้นต้น เคมีภัณฑ์ขั้นต้น เหล็กขั้นต้น เครื่องมือเครื่องจักรให้เหลือ ศูนย์ ในปี 2553 พร้อมทั้งได้ปรับวิธีการให้สิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมการลงทุนให้จูงใจยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน ที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูง (Value Creation Investment) ซึ่งจากเดิมให้สิทธิประโยชน์เป็นรายโครงการปรับเป็นให้สิทธิประโยชน์เป็น package รวมทุกโครงการของบริษัทสินค้าส่งออกที่มีสัดส่วนมูลค่าส่งออกมาก 3 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ร้อยละ 53.0 แผงวงจรไฟฟ้าร้อยละ 24.5 และวงจรพิมพ์ ร้อยละ 6.0
คู่แข่งขันสำคัญได้แก่ สิงคโปร์และจีน ซึ่งเป็นทั้งตลาดส่งออกสำคัญที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องและขณะเดียวกันก็เป็นคู่แข่งขันในการผลิตและส่งออกชิ้นส่วน HDD โดยเฉพาะจีนกำลังไล่ตามประเทศไทยมาติด ๆ
เป้าหมายการส่งออกปี 2548:
คาดว่าจะมีมูลค่า 24,112 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.0
ที่มา: http://www.depthai.go.th