ธนาคารแห่งประเทศไทยขอรายงานสรุป NPL ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2543 ดังนี้
1. ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2543 ระบบสถาบันการเงินมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 1,618.0 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.01 ของสินเชื่อรวม ลดลงสุทธิ 290.3 พันล้านบาท หรือร้อยละ 15.21 จากสิ้นเดือนก่อน เนื่องจากการตัดหนี้สูญของธนาคารเอกชนเป็นสำคัญ
2.การเปลี่ยนแปลงของ NPL ในเดือนมิถุนายน 2543 สามารถแสดงรายละเอียดได้ดังนี้
พันล้านบาท
2.1 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2543 1,908.3
2.2 NPL ที่เพิ่มขึ้นในเดือน มิ.ย. 2543
2.2.1 จำนวนใหม่ 20.5
2.2.2 รายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 13.9 34.4
2.3 NPL ที่ลดลงในเดือน มิ.ย. 2543
2.3.1 ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (93.2)
2.3.2 เหตุผลอื่น (231.5) (324.7)
2.4 NPL ลดลงสุทธิในเดือน มิ.ย. 2543 (290.3)
2.5 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2543 1,618.0
3. การลดลงของ NPL กรณีเหตุผลอื่นตามข้อ 2.3.2 ประกอบด้วย
3.1 NPL ที่มาชำระหนี้จนค้างไม่ถึง 3 เดือนจำนวน 14.5 พันล้านบาท
3.2 การตัดหนี้สูญจากสินเชื่อจัดชั้นสูญและสงสัยจะสูญที่สำรองครบร้อยละ 100 แล้ว จำนวนประมาณ 191.8 พันล้านบาท
3.3 อื่น ๆ เช่น จำนวนเงินที่รับชำระหนี้ การตัดหนี้สูญเนื่องจากหมดสิทธิเรียกร้อง การขายหนี้ เป็นต้น รวมเป็นจำนวน 25.2 พันล้านบาท
4. ธนาคารเอกชนมี NPL คงค้าง 570.5 พันล้านบาท หรือร้อยละ 21.67 ของสินเชื่อรวม ลดลงสุทธิ 254.8 พันล้านบาท หรือร้อยละ 30.87 จากสิ้นเดือนก่อน เนื่องจากการตัดหนี้สูญของหนี้จัดชั้นสงสัยจะสูญและสูญที่กันเงินสำรองครบร้อยละ 100 แล้วและการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นจำนวนมาก
5. ธนาคารของรัฐมี NPL คงค้าง 940.9 พันล้านบาท หรือร้อยละ 56.42 ของสินเชื่อรวม ลดลงสุทธิ28.2 พันล้านบาท หรือร้อยละ 2.91 จากสิ้นเดือนก่อน
6. สาขาธนาคารต่างประเทศมี NPL คงค้าง 43.1 พันล้านบาท หรือร้อยละ 7.25 ของสินเชื่อรวม ลดลงสุทธิ 1.1 พันล้านบาท หรือร้อยละ 2.46 จากสิ้นเดือนก่อน
7. บริษัทเงินทุนมี NPL คงค้าง 63.5 พันล้านบาท หรือร้อยละ 39.71 ของสินเชื่อรวม ลดลงสุทธิ 6.2 พันล้านบาท หรือร้อยละ 8.92 จากสิ้นเดือนก่อน
8. ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2543 NPL คงค้างสูงสุด 3 อันดับแรกแยกตามประเภทธุรกิจอยู่ในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจการค้าส่งและค้าปลีก เป็นจำนวน 395.7 พันล้านบาท 295.9 พันล้านบาท และ 263.0 พันล้านบาท
9. ในเดือนมิถุนายน 2543 NPL ที่เพิ่มขึ้นรายใหม่จำนวน 20.5 พันล้านบาทนั้น อยู่ในภาคอุตสาหกรรม 6.7 พันล้านบาท รองลงไปคือ ธุรกิจการค้าส่งและค้าปลีก 3.2 พันล้านบาท และธุรกิจการนำสินค้าเข้า 2.0 พันล้านบาท
10. สำหรับรายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วกลับมาเป็น NPL อีกมีจำนวน 13.9 พันล้านบาทนั้น ในเดือนนี้อยู่ในภาคอุตสาหกรรม 2.9 พันล้านบาท ภาคการค้าส่งและค้าปลีก 2.4 พันล้านบาท และการบริการ 1.9 พันล้านบาท
11. การปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จที่เกิดขึ้นภายในเดือนมิถุนายน 2543 มีจำนวนทั้งสิ้น 138.9 พันล้านบาท เป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากหนี้ NPL จำนวน 93.2 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากหนี้ที่มีการค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยไม่เกิน 3 เดือน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2543 ระบบสถาบันการเงินมี NPL คงค้างทั้งสิ้น 1,618.0 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.01 ของสินเชื่อรวม ลดลงสุทธิ 290.3 พันล้านบาท หรือร้อยละ 15.21 จากสิ้นเดือนก่อน เนื่องจากการตัดหนี้สูญของธนาคารเอกชนเป็นสำคัญ
2.การเปลี่ยนแปลงของ NPL ในเดือนมิถุนายน 2543 สามารถแสดงรายละเอียดได้ดังนี้
พันล้านบาท
2.1 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2543 1,908.3
2.2 NPL ที่เพิ่มขึ้นในเดือน มิ.ย. 2543
2.2.1 จำนวนใหม่ 20.5
2.2.2 รายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 13.9 34.4
2.3 NPL ที่ลดลงในเดือน มิ.ย. 2543
2.3.1 ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (93.2)
2.3.2 เหตุผลอื่น (231.5) (324.7)
2.4 NPL ลดลงสุทธิในเดือน มิ.ย. 2543 (290.3)
2.5 NPL คงค้าง ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2543 1,618.0
3. การลดลงของ NPL กรณีเหตุผลอื่นตามข้อ 2.3.2 ประกอบด้วย
3.1 NPL ที่มาชำระหนี้จนค้างไม่ถึง 3 เดือนจำนวน 14.5 พันล้านบาท
3.2 การตัดหนี้สูญจากสินเชื่อจัดชั้นสูญและสงสัยจะสูญที่สำรองครบร้อยละ 100 แล้ว จำนวนประมาณ 191.8 พันล้านบาท
3.3 อื่น ๆ เช่น จำนวนเงินที่รับชำระหนี้ การตัดหนี้สูญเนื่องจากหมดสิทธิเรียกร้อง การขายหนี้ เป็นต้น รวมเป็นจำนวน 25.2 พันล้านบาท
4. ธนาคารเอกชนมี NPL คงค้าง 570.5 พันล้านบาท หรือร้อยละ 21.67 ของสินเชื่อรวม ลดลงสุทธิ 254.8 พันล้านบาท หรือร้อยละ 30.87 จากสิ้นเดือนก่อน เนื่องจากการตัดหนี้สูญของหนี้จัดชั้นสงสัยจะสูญและสูญที่กันเงินสำรองครบร้อยละ 100 แล้วและการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นจำนวนมาก
5. ธนาคารของรัฐมี NPL คงค้าง 940.9 พันล้านบาท หรือร้อยละ 56.42 ของสินเชื่อรวม ลดลงสุทธิ28.2 พันล้านบาท หรือร้อยละ 2.91 จากสิ้นเดือนก่อน
6. สาขาธนาคารต่างประเทศมี NPL คงค้าง 43.1 พันล้านบาท หรือร้อยละ 7.25 ของสินเชื่อรวม ลดลงสุทธิ 1.1 พันล้านบาท หรือร้อยละ 2.46 จากสิ้นเดือนก่อน
7. บริษัทเงินทุนมี NPL คงค้าง 63.5 พันล้านบาท หรือร้อยละ 39.71 ของสินเชื่อรวม ลดลงสุทธิ 6.2 พันล้านบาท หรือร้อยละ 8.92 จากสิ้นเดือนก่อน
8. ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2543 NPL คงค้างสูงสุด 3 อันดับแรกแยกตามประเภทธุรกิจอยู่ในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจการค้าส่งและค้าปลีก เป็นจำนวน 395.7 พันล้านบาท 295.9 พันล้านบาท และ 263.0 พันล้านบาท
9. ในเดือนมิถุนายน 2543 NPL ที่เพิ่มขึ้นรายใหม่จำนวน 20.5 พันล้านบาทนั้น อยู่ในภาคอุตสาหกรรม 6.7 พันล้านบาท รองลงไปคือ ธุรกิจการค้าส่งและค้าปลีก 3.2 พันล้านบาท และธุรกิจการนำสินค้าเข้า 2.0 พันล้านบาท
10. สำหรับรายที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วกลับมาเป็น NPL อีกมีจำนวน 13.9 พันล้านบาทนั้น ในเดือนนี้อยู่ในภาคอุตสาหกรรม 2.9 พันล้านบาท ภาคการค้าส่งและค้าปลีก 2.4 พันล้านบาท และการบริการ 1.9 พันล้านบาท
11. การปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จที่เกิดขึ้นภายในเดือนมิถุนายน 2543 มีจำนวนทั้งสิ้น 138.9 พันล้านบาท เป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากหนี้ NPL จำนวน 93.2 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากหนี้ที่มีการค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยไม่เกิน 3 เดือน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-