กระทรวงศุลกากรและสรรพากรแคนาดา (CCRA) ได้ประกาศไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กรีดร้อนชนิด Flat Hot Rolled Carbon and Alloy Steel Sheet and Strip ที่มีแหล่งกำเนิดหรือส่งออกจากประเทศ บราซิล บัลแกเรีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน เกาหลี เมซีโดเนีย นิวซีแลนด์ ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ ไทย ยูเครน และยูโกสลาเวีย และสินค้าประเภทเดียวกันที่นำเข้าจากอินเดียซึ่งถูกกล่าวหาว่าได้รับการอุดหนุน เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2544 ตามคำร้องเรียนของอุตสาหกรรมภายในโดยบริษัท Algoma Steel Inc. โดยกล่าวหาว่าการนำเข้าของสินค้าดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายในของประเทศแคนาดา
นายการุณ กิตติสถาพร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ก่อนการเปิดการไต่สวนอย่างเป็นทางการ ฝ่ายไทยได้เข้าหารือและทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงต่อ CCRA เนื่องจากไทยมีการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปแคนาดาน้อยมาก ดังนั้นไม่น่าที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายในได้ และที่สำคัญที่สุดไม่มีการขายในลักษณะทุ่มตลาดเกิดขึ้น
CCRA ได้ประกาศยุติการไต่สวนการทุ่มตลาดของสินค้าดังกล่าวจากประเทศไทยหลังจากได้จัดส่งชุดเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบหลักฐานและเอกสาร เพื่อประกอบการพิจารณาร่วมกับข้อเท็จจริงและคำโต้แย้งแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ส่งออกไทยได้ยื่นให้กับฝ่ายแคนาดาไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2544 เนื่องจากพบว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะระบุว่าสินค้าเหล็กของไทยทุ่มตลาดแคนาดาตามคำร้องเรียน
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าภาวะการแข่งขันในตลาดสินค้าดังกล่าวในขณะนี้มีสูงมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่มีกำลังซื้อสูง แต่ในขณะเดียวกันประเทศเหล่านั้นก็พยายามปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศอันเนื่องมาจากการทุ่มตลาดทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น อย่างเช่นในปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้ดำเนินมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนต่อประเทศผู้ส่งออกกว่า 10 ประเทศในโลก เช่น บราซิล เกาหลี ญี่ปุ่น รัฐเซีย คาซัคสถาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ ยูเครน อินเดีย เป็นต้น เป็นเหตุให้ประเทศเหล่านี้ขาดตลาดสำคัญในการรองรับสินค้า ทำให้ต้องหันเป้าหมายการส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่น
สำหรับมูลค่าการส่งออกเหล็กชนิดดังกล่าวของไทยไปแคนาดาก่อนหน้านี้เริ่มมีการส่งออกเล็กน้อย แต่ในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2543 มีมูลค่า 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐและเป็นช่วงเดียวกับที่แคนาดาเปิดการไต่สวนขึ้น
การยุติการไต่สวนครั้งนี้เป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าไทยชนิดดังกล่าวไปแคนาดา แต่อยากเตือนให้ผู้ส่งออกไทยได้ตระหนักและติดตามปริมาณและราคาส่งออกของตนเองไว้ด้วย เพราะแคนาดาจะเปิดการไต่สวนได้อีกหากผู้ผลิตภายในร้องเรียนและมีหลักฐานเพียงพอ
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษภาคม 2544--
-อน-
นายการุณ กิตติสถาพร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ก่อนการเปิดการไต่สวนอย่างเป็นทางการ ฝ่ายไทยได้เข้าหารือและทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงต่อ CCRA เนื่องจากไทยมีการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปแคนาดาน้อยมาก ดังนั้นไม่น่าที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายในได้ และที่สำคัญที่สุดไม่มีการขายในลักษณะทุ่มตลาดเกิดขึ้น
CCRA ได้ประกาศยุติการไต่สวนการทุ่มตลาดของสินค้าดังกล่าวจากประเทศไทยหลังจากได้จัดส่งชุดเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบหลักฐานและเอกสาร เพื่อประกอบการพิจารณาร่วมกับข้อเท็จจริงและคำโต้แย้งแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ส่งออกไทยได้ยื่นให้กับฝ่ายแคนาดาไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2544 เนื่องจากพบว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะระบุว่าสินค้าเหล็กของไทยทุ่มตลาดแคนาดาตามคำร้องเรียน
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าภาวะการแข่งขันในตลาดสินค้าดังกล่าวในขณะนี้มีสูงมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่มีกำลังซื้อสูง แต่ในขณะเดียวกันประเทศเหล่านั้นก็พยายามปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศอันเนื่องมาจากการทุ่มตลาดทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น อย่างเช่นในปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้ดำเนินมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนต่อประเทศผู้ส่งออกกว่า 10 ประเทศในโลก เช่น บราซิล เกาหลี ญี่ปุ่น รัฐเซีย คาซัคสถาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ ยูเครน อินเดีย เป็นต้น เป็นเหตุให้ประเทศเหล่านี้ขาดตลาดสำคัญในการรองรับสินค้า ทำให้ต้องหันเป้าหมายการส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่น
สำหรับมูลค่าการส่งออกเหล็กชนิดดังกล่าวของไทยไปแคนาดาก่อนหน้านี้เริ่มมีการส่งออกเล็กน้อย แต่ในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2543 มีมูลค่า 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐและเป็นช่วงเดียวกับที่แคนาดาเปิดการไต่สวนขึ้น
การยุติการไต่สวนครั้งนี้เป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าไทยชนิดดังกล่าวไปแคนาดา แต่อยากเตือนให้ผู้ส่งออกไทยได้ตระหนักและติดตามปริมาณและราคาส่งออกของตนเองไว้ด้วย เพราะแคนาดาจะเปิดการไต่สวนได้อีกหากผู้ผลิตภายในร้องเรียนและมีหลักฐานเพียงพอ
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษภาคม 2544--
-อน-