พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 2 - 8 พ.ย. พ.ศ. 2548

ข่าวทั่วไป Wednesday November 2, 2005 14:02 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วัน พุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 131 /2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 2- 8 พฤศจิกายน 2548
พายุโซนร้อน “ไคตั๊ก” ในทะเลจีนใต้บริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนจะอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชั่น และหย่อมความกดอากาศต่ำในวันที่ 3 พ.ย. ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนและมีลมแรง อนึ่ง วันที่ 3 พ.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนเข้าใกล้ปลายแหลมญวนประมาณวันที่ 5 พ.ย. ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกเพิ่มและมีฝนหนักบางแห่ง และคลื่นในอ่าวไทยมีกำลังแรง
ข้อควรระวัง
ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. ในภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายจากสภาวะ ดังกล่าวไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-10 องศา และ มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10-30%ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# สำหรับข้าวนาปีที่กำลังตั้งท้องและออกรวง ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชโดยเฉพาะ หนอนกระทู้คอรวง ส่วนผู้ที่ปลูกลิ้นจี่ในระยะนี้ควรกำจัดวัชพืชและให้ปุ๋ยทางใบเพื่อบำรุงต้นให้มีความสมบูรณ์ รวมทั้ง ควรงดให้น้ำเพื่อกระตุ้นการสร้างตาดอก
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า ส่วนบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศา ในช่วงวันที่ 2-3 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ 20-30% ของพื้นที่และมีลมแรงทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# เนื่องจากในช่วงวันที่ 2-3 พ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองและมีลมแรงทางตอนบนของภาค เกษตรกรในพื้นที่ควรหลีกเลี่ยง การตากผลผลิตไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าว ส่วนผู้ที่ปลูกอ้อยควรระวังและป้องกันการระบาดของหนอนกอไว้ด้วย
กลาง
ลักษณะอากาศ
# อากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10%ของพื้นที่ทางตะวันตกของภาค สำหรับในช่วงวันที่ 5 พ.ย.เป็นต้นไป มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูหนาว เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง ส่วนชาวสวนส้มเขียวหวานควรระวังและป้องกันการระบาดของหนอนชอนใบและด้วงงวงกัดกินใบ
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10% ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. สำหรับในช่วงวันที่ 5 พ.ย. เป็นต้นไป มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย 30-50 % ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงที่มีฝนตกน้อยโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่กำลังเจริญเติบโต ส่วนผู้ที่ปลูกข้าวนาปีควรระวังการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงและนำโรคใบหงิกมาสู่ต้นข้าวด้วย
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. สำหรับในช่วงวันที่ 5 พ.ย. เป็นต้นไป มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 70-80% ของพื้นที่และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม.
# ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะนี้ยังคงมีฝนตกชุก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังในที่ลุ่มบางพื้นที่ได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากแปลงเพาะปลูก สำหรับมังคุดที่กำลังแตกใบอ่อน ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช เช่น หนอนชอนใบและโรคใบจุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ