ผลการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงการคลังในกลุ่มประเทศเอเซียตะวันออก

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 28, 2005 16:43 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นายนริศ ชัยสูตร เปิดเผยถึงผลการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูของกระทรวงการคลังในกลุ่มประเทศอาเซียนตะวันออก 15 ประเทศ ในหัวข้อเรื่องนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในภูมิภาคเอเซียตะวันออก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2548 ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยสรุปความเห็นของที่ประชุมได้ ดังนี้
1. กลุ่มภูมิภาคเอเซียตะวันออกกำลังเผชิญความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ 4 ประการคือ การขาดดุล บัญชีเดินสะพัดและบัญชีดุลการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว ปัญหาราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ปัญหาแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และปัญหาการขยายตัวที่ลดลงของเศรษฐกิจจีน ทั้งนี้ไทยได้เสนอความเห็นในที่ประชุมว่าประเทศในกลุ่มเอเซียตะวันออกควรมีความร่วมมือทางการค้า การเงิน รวมถึงความร่วมมือในการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเซียร่วมกันให้มากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
2. นาย Richard Hemming ผู้แทนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เสนอให้มีการนำกฎนโยบายการคลังมาใช้เป็นเป้าหมายในการดำเนินนโยบายการคลัง เช่นเดียวกับที่ธนาคารกลางในหลายประเทศมีการกำหนดอัตราเงินเฟ้อเพื่อเป็นเป้าหมายในการดำเนินนโยบายการเงิน เพื่อสร้างเสถียรภาพของทั้งสองนโยบายให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงควรมีการดำเนินนโยบายของทั้งสองด้านอย่างใกล้ชิด
นายนริศ ชัยสูตร ในฐานะผู้อภิปรายนำได้แสดงความเห็นว่า การนำกฎนโยบายการคลังมาใช้จะทำได้ยากกว่าการนำกฎนโยบายการเงินมาใช้ เนื่องจากนโยบายการคลังมีหลายเป้าหมาย ในขณะที่นโยบายการเงินมักจะมีเป้าหมายเดียวคือการรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน
ประเด็นวิเคราะห์
เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันมีการขยายตัวอย่างสูงและมีการเก็บรายได้เกินเป้าหมายค่อนข้างมาก ทำให้ฐานะทางการคลังของประเทศมีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยไทยได้มีการกำหนดกรอบความยังยืนทางการคลังมาใช้ประกอบการดำเนินนโยบายการคลัง ซึ่งมีเป้าหมายให้งบประมาณจะต้องเกิดความสมดุลในปี 2550
ที่มา: http://www.depthai.go.th
-ดท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ