อุตสาหกรรมน้ำตาลไทยรับอานิสงส์ ไต้หวันเปิดเสรีการนำเข้าน้ำตาลทราย

          อุตสาหกรรมน้ำตาลไทย เตรียมเฮ หลังกระทรวงการคลังไต้หวันแก้ไขพิกัดศุลกากรขาเข้า และยกเลิกระบบโควตาภาษีน้ำตาลทราย ส่งผลให้เกิดการแข่งขันโดยเสรี นอกจากนี้ยังลดอัตราภาษีน้ำตาลทรายดิบจากร้อยละ 12.5 เหลือร้อยละ 6.25 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ศกนี้ 
          นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังไต้หวันได้ดำเนินการแก้ไขพิกัดศุลกากรขาเข้า และมีการยกเลิกระบบโควตาภาษีน้ำตาลทรายในไต้หวันเป็นไปโดยเสรี ไม่มีการจำกับปริมาณนำเข้า และผู้นำเข้าไม่ต้องประมูล นอกจากนี้ยังได้ลดอัตราภาษีน้ำตาลทรายดิบจากร้อนละ 12.5 เหลือร้อยละ 6.25 ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ยังเก็บภาษีในอัตราเดิมคือร้อยละ 17.5 ทั้งนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2548 เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ผลิตและผู้ประกอบการส่งออกน้ำตาลทรายของไทย เนื่องจากปัจจุบันไทยครองส่วนแบ่งการนำเข้าน้ำตาลทรายดิบของไต้หวันเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งไทยได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ เพราะตั้งอยู่ใกล้ไต้หวันกว่าประเทศคู่แข่งอื่นๆ จึงทำให้มีต้นทุนการขนส่งต่ำกว่า แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าอาหารแปรรูปจากไทยที่มีน้ำตาลทรายเป็นส่วนประกอบบ้างเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตในไต้หวันก็จะลดลง
          “ไต้หวันมีการบริโภคน้ำตาลปีละประมาณ 600,000 ตัน ที่ผ่านมาไต้หวันเปิดให้มีการนำเข้าในระบบโควตาภาษีปริมาณ 205,000 ตัน ซึ่งหลังไต้หวันเปิดให้นำเข้าน้ำตาลทรายโดยเสรีแล้ว ในเบื้องต้นคาดว่าปริมาณการนำเข้าน้ำตาลทรายในแต่ละปีจะไม่ต่ำกว่า 300,000 ตัน” นางอภิรดี กล่าว
          สำหรับความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการอาหารอื่นๆ ในไต้หวัน ได้มีการวางแผนรวมตัวกัน เพื่อการจัดซื้อร่วม ซึ่งจะเป็นการสร้างอำนาจต่อรองกับผู้ผลิต และผู้ส่งออกน้ำตาลในต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการอาหารต้องการให้สมาคมพัฒนาอาหารของไต้หวันเป็นตัวกลางในการจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อประเมินความเป็นไปได้ และจะมีการประชุมเพื่อตัดสิน โดยแนวโน้มว่าอาจจะมีการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ เพื่อทำหน้าที่ในการจัดซื้อ หรืออาจจะให้อำนาจแก่คณะทำงานเป็นผู้จัดซื้อในช่วงต้นไต้หวันจะอาศัยการจัดซื้อร่วม เพื่อเป็นการลดต้นทุนการนำเข้า แต่ในระยะยาวอาจจะผลักดันให้รัฐบาลลดภาษีการนำเข้าให้ต่ำลง และได้คาดการณ์ว่าเมื่อเปิดเสรีการนำเข้าน้ำตาลทรายแล้วจะทำให้ราคามีความผันผวนขึ้นลง แต่ก็ทำให้ผู้ผลิตอาหารในไต้หวันมีช่องทางการจัดซื้อมากขึ้น เป็นการลดความเสี่ยงทางธุรกิจ และจะทำให้สินค้าอาหารที่ทำจากน้ำตาลทรายมีการปรับราคาลงด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคในไต้หวัน นอกจากนี้ผู้ประกอบการ น้ำตาลในไต้หวันส่วนใหญ่ไม่มีโรงงานแปรรูปน้ำตาลทรายให้บริสุทธิ์  มีเพียงบริษัท ไต้หวัน ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (Taiwan Sugar Corporation) เท่านั้นที่มีโรงงาน จึงมีแนวโน้มว่าการนำเข้าน้ำตาลทรายส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าน้ำทรายบริสุทธิ์ เพื่อการบริโภคหรือแปรรูปเป็นอาหาร
          บริษัทข้ามชาติที่เป็นผู้ค้าน้ำตาลทรายของอังกฤษ และญี่ปุ่นต่างเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจและเริ่มรุกเข้าสู่ตลาดไต้หวัน บริษัทท้องถิ่นของไต้หวันคือ Vedan Enterprise Corp. ก็วางแผนแข่งขันในตลาดเช่นกัน โดยอาศัยพื้นฐานที่มีการจัดซื้อเดิมในระบบโควตา 200,000 ตันต่อปี รวมทั้ง ได้เปรียบในฐานะบริษัทท้องถิ่นที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการอาหารในไต้หวันอยู่แล้ว นอกจากนี้ Vedan Enterprise Corp. ยังเป็นผู้ผลิตผงชูรสในไต้หวัน ซึ่งได้ย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยังเวียดนาม และจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากอุตสาหกรรมผงชูรสใช้น้ำตาลทรายเป็นปริมาณมาก บริษัทจึงได้ซื้อน้ำตาลทรายจำนวนมาก เพื่อป้อนโรงงานทั้งในไต้หวันและต่างประเทศ โดยระยะแรกวางเป้าหมายนำเข้าประมาณ 200,000 ตันต่อปี และจะขยายการนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 400,000 ตันต่อปี โดยมุ่งเจาะตลาดป้อนสินค่าให้แก่ผู้ผลิตอาหารที่สำคัญในไต้หวัน
          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-