ข่าวในประเทศ
1. ธปท. ชี้แจงพร้อมดูแลระบบอัตราแลกเปลี่ยนในขณะที่ค่าเงินบาทผันผวนในปัจจุบัน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะโฆษก ธปท. เปิดเผยว่า ภายใต้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่าเงินบาทผันผวนอย่างรวดเร็วในปัจจุบันตามภาวะตลาดเนื่องจากมีปัจจัยภายนอกมากระทบในขณะนี้นั้น หน้าที่ของ ธปท. พร้อมดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้เคลื่อนไหวตามกลไกตลาดอย่างมีเสถียรภาพและไม่ให้มีความผันผวนมากเกินไป และหากอัตราแลกเปลี่ยนมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธปท. สามารถใช้เครื่องมือในการดำเนินการได้หลายทาง ซึ่งการทำธุรกรรมในตลาดเงินตราระหว่างประเทศไม่ว่าในตลาดซื้อขายทันที (Spot) และตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Swap) ก็เป็นเครื่องมือหนึ่ง สำหรับการแทรกแซงค่าเงินบาทนั้น ในฐานะ ธ.กลางไม่สามารถส่งสัญญาณได้อย่างชัดเจน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการดำเนินมาตรการ(โลกวันนี้, กรุงเทพธุรกิจ 5)
2. ก.คลังจัดตั้งคณะกรรมการติดตามและประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ รมว.คลังเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการติดตามและประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจว่า จัดตั้งคณะกรรมการฯ ดังกล่าวขึ้นมาเพื่อให้ร่วมระดมความเห็นและประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจล่วงหน้าทุก 3 เดือน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้ข้อมูลของทุกหน่วยงานมีความชัดเจนและตรงกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการรับทราบปัญหาเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและหาแนวทางแก้ไข โดยได้มอบหมายให้นายโอฬาร ไชยประวัติ ไปทำการศึกษา ประเมิน และเสนอแนะนโยบายที่น่าจะดำเนินการหรือเป็นประเด็นสำคัญ และรายงานครั้งแรกต่อ ก.คลังในเดือน พ.ค.44 ทั้งนี้ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลสนับสนุนทางด้านการเงิน กรมการค้าต่างประเทศให้ข้อมูลด้านการค้า และ ก.คลังให้ข้อมูลด้านการคลัง (ข่าวสด 5)
3. ความคืบหน้าการจัดตั้งทีเอเอ็มซี รมว.คลังเปิดเผยความคืบหน้าการจัดตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (ทีเอเอ็มซี) ว่า จะมีการตั้งคณะติดตามปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ทั้งประเทศ ซึ่งจะเป็นคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อควบคุมดูแลในส่วนของเอ็นพีแอลทั้งหมด มีคณะทำงานประมาณ 11-12 คน โดยคณะติดตามเอ็นพีแอลจะต้องมีอำนาจสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ ในวันที่ 5 เม.ย.44 จะมีการประชุมในเรื่องความคืบหน้าของการจัดตั้งทีเอเอ็มซีอีกครั้ง พร้อมทั้งรับฟังรายงานการทำงานของคณะทำงาน 4 ชุด ซึ่งประกอบด้วย 1)คณะทำงานการจัดการทั่วไป 2)คณะทำงานการบริหารสินทรัพย์ทั้งหมด 3)คณะทำงานจัดระบบการชำระหนี้และระบบการตั้งราคา และ 4)คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย(เดลินิวส์ 5)
ข่าวต่างประเทศ
1. ดัชนี NAPM นอกภาคอุตสาหกรรมการผลิตของ สรอ. ลดลงในเดือน มี.ค.44 รายงานจากอริโซน่าเมื่อ 4 เม.ย.44 National Association of Purchasing Management (NAPM) รายงานว่า ดัชนีนอกภาคอุตสาหกรรมการผลิตโดยรวม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดธุรกรรมทางเศรษฐกิจในภาคบริการของ สรอ. และคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 80 ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ลดลงอยู่ที่ระดับ 50.3 ในเดือน มี.ค.44 จากระดับ 51.7 ในเดือน ก.พ. 44 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์เคยคาดไว้ว่า จะลดลงอยู่ที่ระดับ 51.5 โดยส่วนประกอบของดัชนีฯ ในเดือน มี.ค.ที่ลดลงจากเดือน ก.พ.ได้แก่ คำสั่งซื้อสินค้าใหม่เพื่อการส่งออก, ดัชนีราคา (price index), การจ้างงาน, การส่งมอบสินค้า อยู่ที่ระดับ 49.5, 59.5, 49.4 และ 50.5 เทียบกับเดือน ก.พ.ที่อยู่ที่ระดับ 53.5, 60.5, 50.3 และ 51.5 ตามลำดับ ทั้งนี้ เดือน มี.ค.44 นับเป็นเดือนแรกของการสำรวจที่ NAPM ได้ดำเนินการมาในรอบสามปีครึ่งที่ดัชนีการจ้างงานในภาคบริการลดลงต่ำกว่าระดับ 50 ส่วนดัชนีสินค้าคงคลังในเดือน มี.ค. 44 อยู่ที่ระดับ 49 จากระดับ 47 ในเดือน ก.พ.44 นับเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 (รอยเตอร์ 4)
2. มาเลเซียเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นสูงสุดในเดือน ก.พ. 44 รายงานจากกัวลาลัมเปอร์เมื่อ 4 เม.ย. 44 สำนักงาน สถิติของมาเลเซีย เปิดเผยว่า เดือน ก.พ. 44 มาเลเซียเกินดุลการค้ามูลค่า 6.5 ล. ริงกิต ซึ่งสูงสุดในรอบ11 เดือน และเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า จากเดือน ม.ค. 44 ที่เกินดุลมูลค่า 3.1 พัน ล. ริงกิต (1.7พัน ล. ดอลลาร์ สรอ.) และเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 33 จากระยะเดียวกันของปี 43 ที่เกินดุล 4.9 พัน ล. ริงกิต นอกจากนั้นยังเกินดุลสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะมีมูลค่าประมาณ 3 พัน ล. ริงกิต โดยในเดือน ก.พ. 44 การส่งออกมีมูลค่า 28.5 พัน ล. ริงกิต เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 จากเดือน ม.ค. 44 แต่การนำเข้า ลดลงถึงร้อยละ 11.6 อยู่ที่มูลค่า 22.1 พัน ล. ริงกิต อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า การที่มาเลเซียนำเข้าสินค้าลดลงอย่างมากในเดือน ก.พ. 44 ส่งผลให้เกินดุลการค้ามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ และสนับสนุนแนวคิดที่คาดว่าภาคอุตสาหกรรมกำลังชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าของโลกที่ลดลง ทั้งนี้ คาดว่า การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย และคิดเป็นร้อยละ 60 ของยอดส่งออกโดยรวม จะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 9.4 ในปี 44 ลดลงจากที่เติบโตถึงร้อยละ 44.8 ในปี 43 (รอยเตอร์4)
3. อินโดนีเซียอาจขาดดุล งปม. ในปี 44 เกินร้อยละ 5 ของจีดีพี รายงานจากจาการ์ตาเมื่อ 4 เม.ย. 44 รมว. เศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ในปี 44 อินโดนีเซียอาจขาดดุล งปม. มากกว่าร้อยละ 5 ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) หากว่ารัฐบาลไม่เพิ่มภาษีรายได้และสนับสนุนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ ตามประมาณการเดิม คาดว่า อินโดนีเซีย จะขาดดุล งปม. ร้อยละ 3.2 ของจีดีพี(รอยเตอร์4) อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 4 เม.ย.44 45.351 (45.161)อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 4 เม.ย. 44ซื้อ 45.0902 (44.9388) ขาย 45.3920 (45.2260)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 23.21 (23.03)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.09 (16.09) ดีเซลหมุนเร็ว 13.34 (13.34)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท. ชี้แจงพร้อมดูแลระบบอัตราแลกเปลี่ยนในขณะที่ค่าเงินบาทผันผวนในปัจจุบัน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะโฆษก ธปท. เปิดเผยว่า ภายใต้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่าเงินบาทผันผวนอย่างรวดเร็วในปัจจุบันตามภาวะตลาดเนื่องจากมีปัจจัยภายนอกมากระทบในขณะนี้นั้น หน้าที่ของ ธปท. พร้อมดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้เคลื่อนไหวตามกลไกตลาดอย่างมีเสถียรภาพและไม่ให้มีความผันผวนมากเกินไป และหากอัตราแลกเปลี่ยนมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธปท. สามารถใช้เครื่องมือในการดำเนินการได้หลายทาง ซึ่งการทำธุรกรรมในตลาดเงินตราระหว่างประเทศไม่ว่าในตลาดซื้อขายทันที (Spot) และตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Swap) ก็เป็นเครื่องมือหนึ่ง สำหรับการแทรกแซงค่าเงินบาทนั้น ในฐานะ ธ.กลางไม่สามารถส่งสัญญาณได้อย่างชัดเจน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการดำเนินมาตรการ(โลกวันนี้, กรุงเทพธุรกิจ 5)
2. ก.คลังจัดตั้งคณะกรรมการติดตามและประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ รมว.คลังเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการติดตามและประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจว่า จัดตั้งคณะกรรมการฯ ดังกล่าวขึ้นมาเพื่อให้ร่วมระดมความเห็นและประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจล่วงหน้าทุก 3 เดือน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้ข้อมูลของทุกหน่วยงานมีความชัดเจนและตรงกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการรับทราบปัญหาเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและหาแนวทางแก้ไข โดยได้มอบหมายให้นายโอฬาร ไชยประวัติ ไปทำการศึกษา ประเมิน และเสนอแนะนโยบายที่น่าจะดำเนินการหรือเป็นประเด็นสำคัญ และรายงานครั้งแรกต่อ ก.คลังในเดือน พ.ค.44 ทั้งนี้ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลสนับสนุนทางด้านการเงิน กรมการค้าต่างประเทศให้ข้อมูลด้านการค้า และ ก.คลังให้ข้อมูลด้านการคลัง (ข่าวสด 5)
3. ความคืบหน้าการจัดตั้งทีเอเอ็มซี รมว.คลังเปิดเผยความคืบหน้าการจัดตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (ทีเอเอ็มซี) ว่า จะมีการตั้งคณะติดตามปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ทั้งประเทศ ซึ่งจะเป็นคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อควบคุมดูแลในส่วนของเอ็นพีแอลทั้งหมด มีคณะทำงานประมาณ 11-12 คน โดยคณะติดตามเอ็นพีแอลจะต้องมีอำนาจสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ ในวันที่ 5 เม.ย.44 จะมีการประชุมในเรื่องความคืบหน้าของการจัดตั้งทีเอเอ็มซีอีกครั้ง พร้อมทั้งรับฟังรายงานการทำงานของคณะทำงาน 4 ชุด ซึ่งประกอบด้วย 1)คณะทำงานการจัดการทั่วไป 2)คณะทำงานการบริหารสินทรัพย์ทั้งหมด 3)คณะทำงานจัดระบบการชำระหนี้และระบบการตั้งราคา และ 4)คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย(เดลินิวส์ 5)
ข่าวต่างประเทศ
1. ดัชนี NAPM นอกภาคอุตสาหกรรมการผลิตของ สรอ. ลดลงในเดือน มี.ค.44 รายงานจากอริโซน่าเมื่อ 4 เม.ย.44 National Association of Purchasing Management (NAPM) รายงานว่า ดัชนีนอกภาคอุตสาหกรรมการผลิตโดยรวม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดธุรกรรมทางเศรษฐกิจในภาคบริการของ สรอ. และคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 80 ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ลดลงอยู่ที่ระดับ 50.3 ในเดือน มี.ค.44 จากระดับ 51.7 ในเดือน ก.พ. 44 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์เคยคาดไว้ว่า จะลดลงอยู่ที่ระดับ 51.5 โดยส่วนประกอบของดัชนีฯ ในเดือน มี.ค.ที่ลดลงจากเดือน ก.พ.ได้แก่ คำสั่งซื้อสินค้าใหม่เพื่อการส่งออก, ดัชนีราคา (price index), การจ้างงาน, การส่งมอบสินค้า อยู่ที่ระดับ 49.5, 59.5, 49.4 และ 50.5 เทียบกับเดือน ก.พ.ที่อยู่ที่ระดับ 53.5, 60.5, 50.3 และ 51.5 ตามลำดับ ทั้งนี้ เดือน มี.ค.44 นับเป็นเดือนแรกของการสำรวจที่ NAPM ได้ดำเนินการมาในรอบสามปีครึ่งที่ดัชนีการจ้างงานในภาคบริการลดลงต่ำกว่าระดับ 50 ส่วนดัชนีสินค้าคงคลังในเดือน มี.ค. 44 อยู่ที่ระดับ 49 จากระดับ 47 ในเดือน ก.พ.44 นับเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 (รอยเตอร์ 4)
2. มาเลเซียเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นสูงสุดในเดือน ก.พ. 44 รายงานจากกัวลาลัมเปอร์เมื่อ 4 เม.ย. 44 สำนักงาน สถิติของมาเลเซีย เปิดเผยว่า เดือน ก.พ. 44 มาเลเซียเกินดุลการค้ามูลค่า 6.5 ล. ริงกิต ซึ่งสูงสุดในรอบ11 เดือน และเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า จากเดือน ม.ค. 44 ที่เกินดุลมูลค่า 3.1 พัน ล. ริงกิต (1.7พัน ล. ดอลลาร์ สรอ.) และเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 33 จากระยะเดียวกันของปี 43 ที่เกินดุล 4.9 พัน ล. ริงกิต นอกจากนั้นยังเกินดุลสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะมีมูลค่าประมาณ 3 พัน ล. ริงกิต โดยในเดือน ก.พ. 44 การส่งออกมีมูลค่า 28.5 พัน ล. ริงกิต เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 จากเดือน ม.ค. 44 แต่การนำเข้า ลดลงถึงร้อยละ 11.6 อยู่ที่มูลค่า 22.1 พัน ล. ริงกิต อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า การที่มาเลเซียนำเข้าสินค้าลดลงอย่างมากในเดือน ก.พ. 44 ส่งผลให้เกินดุลการค้ามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ และสนับสนุนแนวคิดที่คาดว่าภาคอุตสาหกรรมกำลังชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าของโลกที่ลดลง ทั้งนี้ คาดว่า การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย และคิดเป็นร้อยละ 60 ของยอดส่งออกโดยรวม จะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 9.4 ในปี 44 ลดลงจากที่เติบโตถึงร้อยละ 44.8 ในปี 43 (รอยเตอร์4)
3. อินโดนีเซียอาจขาดดุล งปม. ในปี 44 เกินร้อยละ 5 ของจีดีพี รายงานจากจาการ์ตาเมื่อ 4 เม.ย. 44 รมว. เศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ในปี 44 อินโดนีเซียอาจขาดดุล งปม. มากกว่าร้อยละ 5 ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) หากว่ารัฐบาลไม่เพิ่มภาษีรายได้และสนับสนุนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ ตามประมาณการเดิม คาดว่า อินโดนีเซีย จะขาดดุล งปม. ร้อยละ 3.2 ของจีดีพี(รอยเตอร์4) อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 4 เม.ย.44 45.351 (45.161)อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 4 เม.ย. 44ซื้อ 45.0902 (44.9388) ขาย 45.3920 (45.2260)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 23.21 (23.03)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.09 (16.09) ดีเซลหมุนเร็ว 13.34 (13.34)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-