พืชผล ผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 เทียบกับ ช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานในปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเกิดจากการเลื่อนระยะเวลาการ เก็บเกี่ยวของเกษตรกรในปีก่อน ส่งผลให้ผลผลิตข้าว อ้อย และข้าวโพด เพิ่มขึ้นมาก
ราคาพืชผลในเดือนนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามราคามันสำปะหลัง ข้าวโพด ผักและผลไม้ ทำให้รายได้ของเกษตรกรจากการขายพืชผลสำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สำหรับช่วง 10 เดือนแรกของปี 2544 ผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากช่วงเดียวกัน ปีก่อน ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพาราและพืชตระกูลถั่ว ขณะที่ราคาพืชผลปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ราคาพืชผลสำคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนสนใจ นำเข้ามันเส้นจากไทยเป็นจำนวนมาก และราคาอ้อยปี 2543/44 ที่สูงขึ้นตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก
รายได้จากการขายพืชผลสำคัญของเกษตรกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของราคา พืชผลเป็นสำคัญ
ราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 จากเดือนก่อนและช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาพืชผล (+0.2%) และ ปศุสัตว์ (+9.3%) ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกไก่สด แช่แข็งที่เพิ่มขึ้นมากและอุปทานสุกรมีชีวิตที่เข้าสู่ตลาดลดลง ส่วนราคาสินค้าในหมวดปลาและสัตว์น้ำลดลง (-7.2%) โดยเฉพาะกุ้ง ราคาลดลงถึงร้อยละ 18.4
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2544 ราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากความต้องการไก่เนื้อและ มันสำปะหลังในต่างประเทศยังคงมีต่อเนื่อง
ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก (เฉพาะสินค้า 12 ชนิดที่มีผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรของไทย) ลดลงร้อยละ 10.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ข้าว กุ้ง ยางพาราและน้ำตาล เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2544 ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกลดลงร้อยละ 2.6 เป็นผลจากอุปสงค์ที่ลดลงของสินค้าเกษตรในตลาดโลก โดยเฉพาะราคากุ้ง ลดลงร้อยละ 13.7 ยางพาราลดลงร้อยละ 17.5 และข้าว ลดลงร้อยละ 8.9 กอปรกับเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวของประเทศไทยกำลังออกสู่ตลาด ส่วนราคาน้ำตาลลดลงถึงร้อยละ 36.8 เนื่องจากบราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาล รายใหญ่ของโลก หันมาผลิตน้ำตาลแทนการผลิต เอทานอลมากขึ้น เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง นอกจากนี้ การที่ค่าเงินรีอัลของบราซิลอ่อนตัวอย่างมาก ทำให้ถูกต่อรองราคาจากประเทศผู้ซื้อ ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำตาลในตลาดโลก
ประมง ปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าในเดือนกันยายน 2544 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้นทุนของชาวประมง ลดลง อย่างไรก็ตาม ปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2544 ยังคงลดลงร้อยละ 6.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงและความเข้มงวดในการเข้าไปทำประมงในประเทศเพื่อนบ้านในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ได้เดินทางไปเจรจากับประเทศเมียนมาร์เพื่อขอให้เปิดสัมปทานให้ไทยเข้าไปทำประมง หลังจากที่ได้ยกเลิกสัมปทานตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2542 เป็นต้นมา ซึ่งหากการเจรจาประสบความสำเร็จ จะทำให้ปริมาณผลผลิตสัตว์น้ำของไทยเพิ่มขึ้น
การบริการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดลงร้อยละ 5.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้อัตราการเข้าพักลดลงเหลือร้อยละ 54 (เทียบกับร้อยละ 58.5 ในช่วงเดียวกันปีก่อน) เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมในสหรัฐฯ ซึ่งการตอบโต้กันระหว่างสหรัฐฯ และอัฟกานิสถานยังคงยืดเยื้อ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน โดยตลาดสำคัญที่ลดลงมาก ได้แก่ ญี่ปุ่น (-27.2%) สหรัฐ ฯ (-21.6%) สิงคโปร์ (-20.2%)
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2544 นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศชะลอลง โดยขยายตัวเพียงร้อยละ 6.0 สำหรับแนวโน้มในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี คาดว่านักท่องเที่ยวจะลดลงประมาณร้อยละ 10 ส่งผลให้ คาดว่ารวมทั้งปีจะขยายตัวเพียงร้อยละ 2 - 3
ภาคเหมืองแร่ การผลิตแร่ลดลงตามการผลิตก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากในช่วงเดียวกันปีก่อนแหล่งบงกชให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นหลังจากซ่อมแซมหลุมผลิต
สำหรับในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2544 การผลิตแร่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ตามการเพิ่มขึ้นของแร่ที่สำคัญ ได้แก่ ลิกไนต์ น้ำมันดิบ รวมทั้งการขยายตัวของแร่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ เช่น หินปูนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมซีเมนต์ แกรนิต ดีบุก สังกะสี
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
ราคาพืชผลในเดือนนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามราคามันสำปะหลัง ข้าวโพด ผักและผลไม้ ทำให้รายได้ของเกษตรกรจากการขายพืชผลสำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สำหรับช่วง 10 เดือนแรกของปี 2544 ผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากช่วงเดียวกัน ปีก่อน ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพาราและพืชตระกูลถั่ว ขณะที่ราคาพืชผลปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ราคาพืชผลสำคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนสนใจ นำเข้ามันเส้นจากไทยเป็นจำนวนมาก และราคาอ้อยปี 2543/44 ที่สูงขึ้นตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก
รายได้จากการขายพืชผลสำคัญของเกษตรกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของราคา พืชผลเป็นสำคัญ
ราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 จากเดือนก่อนและช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาพืชผล (+0.2%) และ ปศุสัตว์ (+9.3%) ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกไก่สด แช่แข็งที่เพิ่มขึ้นมากและอุปทานสุกรมีชีวิตที่เข้าสู่ตลาดลดลง ส่วนราคาสินค้าในหมวดปลาและสัตว์น้ำลดลง (-7.2%) โดยเฉพาะกุ้ง ราคาลดลงถึงร้อยละ 18.4
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2544 ราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากความต้องการไก่เนื้อและ มันสำปะหลังในต่างประเทศยังคงมีต่อเนื่อง
ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก (เฉพาะสินค้า 12 ชนิดที่มีผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรของไทย) ลดลงร้อยละ 10.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ข้าว กุ้ง ยางพาราและน้ำตาล เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2544 ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกลดลงร้อยละ 2.6 เป็นผลจากอุปสงค์ที่ลดลงของสินค้าเกษตรในตลาดโลก โดยเฉพาะราคากุ้ง ลดลงร้อยละ 13.7 ยางพาราลดลงร้อยละ 17.5 และข้าว ลดลงร้อยละ 8.9 กอปรกับเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวของประเทศไทยกำลังออกสู่ตลาด ส่วนราคาน้ำตาลลดลงถึงร้อยละ 36.8 เนื่องจากบราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาล รายใหญ่ของโลก หันมาผลิตน้ำตาลแทนการผลิต เอทานอลมากขึ้น เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง นอกจากนี้ การที่ค่าเงินรีอัลของบราซิลอ่อนตัวอย่างมาก ทำให้ถูกต่อรองราคาจากประเทศผู้ซื้อ ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำตาลในตลาดโลก
ประมง ปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าในเดือนกันยายน 2544 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้นทุนของชาวประมง ลดลง อย่างไรก็ตาม ปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2544 ยังคงลดลงร้อยละ 6.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงและความเข้มงวดในการเข้าไปทำประมงในประเทศเพื่อนบ้านในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ได้เดินทางไปเจรจากับประเทศเมียนมาร์เพื่อขอให้เปิดสัมปทานให้ไทยเข้าไปทำประมง หลังจากที่ได้ยกเลิกสัมปทานตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2542 เป็นต้นมา ซึ่งหากการเจรจาประสบความสำเร็จ จะทำให้ปริมาณผลผลิตสัตว์น้ำของไทยเพิ่มขึ้น
การบริการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดลงร้อยละ 5.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้อัตราการเข้าพักลดลงเหลือร้อยละ 54 (เทียบกับร้อยละ 58.5 ในช่วงเดียวกันปีก่อน) เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมในสหรัฐฯ ซึ่งการตอบโต้กันระหว่างสหรัฐฯ และอัฟกานิสถานยังคงยืดเยื้อ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน โดยตลาดสำคัญที่ลดลงมาก ได้แก่ ญี่ปุ่น (-27.2%) สหรัฐ ฯ (-21.6%) สิงคโปร์ (-20.2%)
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2544 นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศชะลอลง โดยขยายตัวเพียงร้อยละ 6.0 สำหรับแนวโน้มในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี คาดว่านักท่องเที่ยวจะลดลงประมาณร้อยละ 10 ส่งผลให้ คาดว่ารวมทั้งปีจะขยายตัวเพียงร้อยละ 2 - 3
ภาคเหมืองแร่ การผลิตแร่ลดลงตามการผลิตก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากในช่วงเดียวกันปีก่อนแหล่งบงกชให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นหลังจากซ่อมแซมหลุมผลิต
สำหรับในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2544 การผลิตแร่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ตามการเพิ่มขึ้นของแร่ที่สำคัญ ได้แก่ ลิกไนต์ น้ำมันดิบ รวมทั้งการขยายตัวของแร่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ เช่น หินปูนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมซีเมนต์ แกรนิต ดีบุก สังกะสี
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-