กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--พรรคประชาธิปัตย์
นายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนพัฒนาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มปี 2543-2549 ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
กำหนดไห้ปลูกปาล์มในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ประมาณ 2 ล้านไร่ เมื่อสิ้นสุดปี 2549 โดยจะดำเนินการลดพื้นที่ปลูกนอกเขตเหมาะสมปลูกปาล์มน้ำมันจำนวน157,00 ไร่ ปลูกปาล์มพันธุ์ดีทดแทนปาล์มเก่าที่หมดอายุขัย จำนวน 200,000 ไร่ ปลูกแทนปาล์มคุณภาพต่ำ 400,000 ไร่ โดยปัจจุบันข้อมูลพื้นที่ปลูกปาล์มปี 2542 คาดว่า ประมาณ 1.369 ล้านไร่
นายอาคมฯ กล่าวว่า ระยะเวลา 6ปี จะใช้งบประมาณ 4,161 ล้านบาท โดยงบประมาณจะเป็นค่าพันธุ์ปาล์มและปุ๋ยเคมีสำหรับปลูกแทนสวนปาล์มคุณภาพต่ำ และส่วนปาล์มเก่าไร่ละ 4,100 บาท รวม 600,000 ไร่ จำนวนเงิน 2,460 ล้านบาท โรงงานสกัด 300 ล้านบาท ระบบน้ำ 105 ล้านบาท ฯลฯ ส่งเสริมปลูกไม้ผลแทนปลุกปาล์มในพื้นที่ไม่เหมาะสม 157,000 ไร่ ๆ ละ 2,000 บาท เป็นเงิน 314 ล้านบาท ค่าปุ๋ยเคมีฟื้นฟูสวนเก่า 480 ล้านบาท งบประมาณดำเนินการ 491 ล้านบาท
นายอาคมฯ กล่าวว่าภายใต้แผนปาล์มฯ จะมีองค์กรปาล์มที่รับผิดชอบการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันครบวงจรตั้งแต่ การผลิต ปาล์มพันธุ์ดี ศูนย์วิจัยและพัฒนาปาล์มน้ำมัน คณะกรรมการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย ซึ่งจะทำให้การบริหารปาล์มน้ำมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คือ ผลผลิตต่อไร่สูง ต้นทุนการผลิต สามารถแข่งขันกับประเทศผู้ปลูกปาล์มรายใหญ่ของโลกได้ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และการเปิดเสรีการนำเข้าน้ำมันปาล์ม และลดอัตราภาษีเหลือร้อยละ 5 ราคาผลปาล์ม จะลดลงเหลือกิโลกรัมละ 145 บาท (อัตราน้ำมันร้อยละ 19) รายได้ที่เกษตรกรได้รับต่อไร่ดังนี้
- ภายใต้สภาพการผลิตขณะนี้ หากไม่มีการปรับปรุงการผลิตปาล์มน้ำมันคาดว่าผลผลิตต่อไร่จะอยู่ในเกณฑ์ 2.20 ตัน/ไร่/ปี ณ ปี 2549 ดังนั้นรายได้ที่เกษตรกรได้รับเฉลี่ยไร่ละ 3,190 บาท หรือคิดเป็นขาดทุนสุทธิต่อไร่-1,084 บาท (3,190-4,272 บาท/ไร่)
- ภายใต้แผนพัฒนาการผลิตปาล์มน้ำมัน คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ตัน/ไร่/ปี ดังนั้นรายได้เกษตรกรได้รับเฉลี่ยไร่ละ 4,350 บาท/ไร่ รายได้สุทธิ ต่อไร่ 512 บาท
ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบรายได้สุทธิของเกษตรกร กรณีไม่มีแผนพัฒนากับมีแผนพัฒนาเกษตรกรจะมีรายได้สุทธิหลังจากเปิดเสรีการค้า AFTA จากเดิมขาดทุนไร่ละ -1084 บาท เป็นมีรายได้ไร่ละ 512 บาท ซึ่งความเป็นจริงเกษตรกรที่ปลูกปาล์มในพื้นที่ที่เหมาะสมมีน้ำเพียงพอบางพื้นที่ให้ผลผลิตสูงถึงไร่ละ 5 ตัน โดยเกิดจากภูมิปัญญาของเกษตรกรเองด้วยเชื่อมั่นว่าการปรับตัวของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มจะทำให้ผลผลิตเพิ่มสูงกว่าไร่ละ 3 ตัน/ปี และมีรายได้มากกว่าไร่ละ 512 บาท
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินงานจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทยโดยการลงนามของนายกรัฐมนตรีต่อไป.--จบ--
-วว-
นายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนพัฒนาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มปี 2543-2549 ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
กำหนดไห้ปลูกปาล์มในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ประมาณ 2 ล้านไร่ เมื่อสิ้นสุดปี 2549 โดยจะดำเนินการลดพื้นที่ปลูกนอกเขตเหมาะสมปลูกปาล์มน้ำมันจำนวน157,00 ไร่ ปลูกปาล์มพันธุ์ดีทดแทนปาล์มเก่าที่หมดอายุขัย จำนวน 200,000 ไร่ ปลูกแทนปาล์มคุณภาพต่ำ 400,000 ไร่ โดยปัจจุบันข้อมูลพื้นที่ปลูกปาล์มปี 2542 คาดว่า ประมาณ 1.369 ล้านไร่
นายอาคมฯ กล่าวว่า ระยะเวลา 6ปี จะใช้งบประมาณ 4,161 ล้านบาท โดยงบประมาณจะเป็นค่าพันธุ์ปาล์มและปุ๋ยเคมีสำหรับปลูกแทนสวนปาล์มคุณภาพต่ำ และส่วนปาล์มเก่าไร่ละ 4,100 บาท รวม 600,000 ไร่ จำนวนเงิน 2,460 ล้านบาท โรงงานสกัด 300 ล้านบาท ระบบน้ำ 105 ล้านบาท ฯลฯ ส่งเสริมปลูกไม้ผลแทนปลุกปาล์มในพื้นที่ไม่เหมาะสม 157,000 ไร่ ๆ ละ 2,000 บาท เป็นเงิน 314 ล้านบาท ค่าปุ๋ยเคมีฟื้นฟูสวนเก่า 480 ล้านบาท งบประมาณดำเนินการ 491 ล้านบาท
นายอาคมฯ กล่าวว่าภายใต้แผนปาล์มฯ จะมีองค์กรปาล์มที่รับผิดชอบการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันครบวงจรตั้งแต่ การผลิต ปาล์มพันธุ์ดี ศูนย์วิจัยและพัฒนาปาล์มน้ำมัน คณะกรรมการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย ซึ่งจะทำให้การบริหารปาล์มน้ำมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คือ ผลผลิตต่อไร่สูง ต้นทุนการผลิต สามารถแข่งขันกับประเทศผู้ปลูกปาล์มรายใหญ่ของโลกได้ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และการเปิดเสรีการนำเข้าน้ำมันปาล์ม และลดอัตราภาษีเหลือร้อยละ 5 ราคาผลปาล์ม จะลดลงเหลือกิโลกรัมละ 145 บาท (อัตราน้ำมันร้อยละ 19) รายได้ที่เกษตรกรได้รับต่อไร่ดังนี้
- ภายใต้สภาพการผลิตขณะนี้ หากไม่มีการปรับปรุงการผลิตปาล์มน้ำมันคาดว่าผลผลิตต่อไร่จะอยู่ในเกณฑ์ 2.20 ตัน/ไร่/ปี ณ ปี 2549 ดังนั้นรายได้ที่เกษตรกรได้รับเฉลี่ยไร่ละ 3,190 บาท หรือคิดเป็นขาดทุนสุทธิต่อไร่-1,084 บาท (3,190-4,272 บาท/ไร่)
- ภายใต้แผนพัฒนาการผลิตปาล์มน้ำมัน คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ตัน/ไร่/ปี ดังนั้นรายได้เกษตรกรได้รับเฉลี่ยไร่ละ 4,350 บาท/ไร่ รายได้สุทธิ ต่อไร่ 512 บาท
ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบรายได้สุทธิของเกษตรกร กรณีไม่มีแผนพัฒนากับมีแผนพัฒนาเกษตรกรจะมีรายได้สุทธิหลังจากเปิดเสรีการค้า AFTA จากเดิมขาดทุนไร่ละ -1084 บาท เป็นมีรายได้ไร่ละ 512 บาท ซึ่งความเป็นจริงเกษตรกรที่ปลูกปาล์มในพื้นที่ที่เหมาะสมมีน้ำเพียงพอบางพื้นที่ให้ผลผลิตสูงถึงไร่ละ 5 ตัน โดยเกิดจากภูมิปัญญาของเกษตรกรเองด้วยเชื่อมั่นว่าการปรับตัวของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มจะทำให้ผลผลิตเพิ่มสูงกว่าไร่ละ 3 ตัน/ปี และมีรายได้มากกว่าไร่ละ 512 บาท
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินงานจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทยโดยการลงนามของนายกรัฐมนตรีต่อไป.--จบ--
-วว-