ข่าวในประเทศ
1. ธปท.ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการบัตรเครดิต ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการบัตรเครดิตของ ธพ. โดยลดอัตราเงินเดือนขั้นต่ำของผู้ทำบัตรเครดิตเหลือ 15,000 บาท/เดือน หรือไม่ต่ำกว่า 180,000 บาท/ปี จากเดิม 20,000 บาท/เดือน หรือ 240,000 บาท/ปี และลดอายุผู้ถือบัตรเสริมเป็นไม่ต่ำกว่า 18 ปี จากเดิมที่กำหนดไว้ 22 ปี ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.43 พร้อมกับผ่อนผันให้ผู้ถือบัตรรายเก่าที่สมัครก่อนวันที่ 1 ม.ค.41 ผ่อนชำระในอัตราร้อยละ 5 ต่อเดือนของยอดคงค้างได้ต่อไปอีก 1 ปี และให้เริ่มชำระขั้นต่ำร้อยละ 10 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.45 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากชมรมบัตรเครดิตกล่าว การผ่อนผันของ ธปท.จะช่วยกระตุ้นการให้บริการบัตรเครดิตของ ธพ.กระเตื้องขึ้นได้อย่างแน่นอน แม้จะดำเนินการช้าไปบ้าง ปัจจุบันยอดการใช้บัตรเครดิตของ ธพ.มีจำนน 1.68 ล้านใบ จากช่วงก่อนเกิดวิกฤตที่มีจำนวน 2 ล้านใบ ซึ่งเท่ากับไม่มีอัตราการเติบโตเลย ขณะที่ยอดการใช้บัตรของผู้ให้บริการที่มิใช่สถาบันการเงินมีอัตราเติบโตกว่าร้อยละ 100 (ไทยโพสต์,เดลินิวส์ 30)
2. ธปท.ไม่ต่ออายุมาตรการสกัดนักเก็งกำไร ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารมวลชน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธปท.ได้ออกหนังสือเวียนถึงแนวทางปฏิบัติในการรับซื้อเงินตราต่างประเทศและเงินบาทจากผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศที่มีกำหนดส่งมอบในวันเดียวเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.นั้น ธปท.จะไม่ขยายเวลาของมาตรการออกไปอีก เนื่องจากขณะนี้สภาพการโอนเงินผ่านระบบการชำระเงินได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.43 ไม่มีรายการโอนเงินในระบบการชำระเงินคงค้างเหมือนวันที่ 27 เชื่อว่าในวันที่ 30 การโอนเงินจะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในอนาคตหากมีปัญหาเกิดขึ้นอีกคงต้องพิจารณาต่อไปว่าจะมีมาตรการชั่วคราวออกมาอีกหรือไม่ ขณะเดียวกันนักบริหารเงินจาก ธพ.กล่าวว่า ค่าเงินบาท/ดอลลาร์ เมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) ปิดตลาดที่ 43.75-43.80 อ่อนค่าลงจากช่วงเปิดตลาดที่ระดับ 43.65-43.70 บาท/ดอลลาร์ ปริมาณการซื้อขายน้อยและค่อนข้างเงียบ นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเนื่องจากมาตรการของ ธปท.ดังกล่าว รวมทั้งเป็นช่วงใกล้สิ้นปี ซึ่งเป็นภาวะปกติของตลาดที่จะไม่มีการทำธุรกรรมการซื้อขายมากนัก (ผู้จัดการรายวัน 30)
3. ก.พาณิชย์คาดการณ์เงินเฟ้อปี 44 นายศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธปท. เตรียมศึกษาข้อมูลเพื่อกำหนดกรอบตัวเลขเงินเฟ้อใหม่ในวันที่ 6 ธ.ค.43 ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้ที่ร้อยละ 0-3.5 นั้น อาจเป็นตัวเลขที่ต่ำเกินไป เพราะปัจจุบันมีหลายปัจจัยเข้ามากระทบ ทั้งปัญหาการอ่อนค่าลงของค่าเงินบาท และราคาน้ำมันแพง ในส่วนของ ก.พาณิชย์ยังเชื่อมั่นว่าตัวเลขเงินเฟ้อตลอดปี 43 จะขยายตัวประมาณร้อยละ 2 ตามที่กรมการค้าภายในเคยคาดการณ์ไว้ สำหรับปี 44 ตัวเลขเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นไม่เกินร้อยละ 3 เพราะปัจจัยที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งเรื่องของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลก และปัญหาความผันผวนของค่าเงินบาท ได้ส่งผลฯ อย่างชัดเจนในปี 43 แล้ว ดังนั้น สถานการณ์ต่างๆ ดังกล่าวคงเริ่มคลี่คลายในปี 44 (เดลินิวส์ 30)
ข่าวต่างประเทศ
1. ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ในเดือน ต.ค.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 29 พ.ย.43 ก.การค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (MITI) รายงานว่า เดือน ต.ค.43 ผลผลิตอุตสาหกรรม ที่ปรับฤดูกาลของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 3.4 ในเดือน ก.ย.43 แต่เป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 และนับเป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำกว่าความคาดหมายของรัฐบาลญี่ปุ่นจากที่ได้ประมาณการผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในข้อมูลของผลผลิตฯ ว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 ในเดือน ต.ค.43 นับเป็นสัญญาณที่แสดงว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ทั้งนี้ MITI กล่าวว่า ผลผลิตฯ มีแนวโน้มจะชะลอตัวต่อเนื่องในเดือน พ.ย.43 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 0.4 ส่วนในเดือน ธ.ค.43 คาดว่า ผลผลิตฯ จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 (รอยเตอร์ 29)
2. ไตรมาสที่ 3 ปี 43 เศรษฐกิจ สรอ. เติบโตต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของ สรอ. เติบโตร้อยละ 2.4 ต่อปี ปรับตัวลดลงจากร้อยละ 2.7 ที่ประมาณการไว้เมื่อเดือน ต.ค. 43 และลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งจากไตรมาสที่ 2 ปี 43 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.6 นับเป็นการลดลงต่ำที่สุดตั้งแต่เคยเติบโตร้อยละ 2 ในไตรมาสที่ 3 ปี 39 สำหรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคในไตรมาสที่ 3 ปี 43 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 จากร้อยละ 3.1 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 ส่วนการนำเข้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4 มากกว่าที่ประมาณไว้ก่อนหน้านี้ ที่ร้อยละ 13.8 ขณะที่การส่งออก เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 ลดลงจากที่ประมาณการไว้ที่ร้อยละ 16.2 ขณะเดียวกัน ในไตรมาสที่ 3 ปี 43 ธุรกิจต่างๆ ได้เพิ่มสินค้าคงคลังในอัตราที่ชะลอตัวลงอยู่ที่มูลค่า 73.5 พัน ล. ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ที่มูลค่า 79.9 พัน ล. ดอลลาร์ และต่ำกว่าไตรมาสที่ 2 ปี 43 ที่มูลค่า78.6 พัน ล.ดอลลาร์ จากรายงานครั้งนี้ สะท้อนถึงการค้าของ สรอ. กำลังอยู่ในภาวะที่ไม่แจ่มใส (รอยเตอร์ 29)
3. สินเชื่อผู้บริโภคของอังกฤษเพิ่มขึ้นในเดือน ต.ค. 43 รายงานจากลอนดอนเมื่อ 29 พ.ย. 43 ธ.กลางของอังกฤษรายงานว่า เดือน ต.ค. 43 สินเชื่อผู้บริโภคสุทธิของอังกฤษเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.5 พัน ล.ปอนด์ ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่เดือน พ.ค. 43 และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.3 พัน ล.ปอนด์ โดยสินเชื่อผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้นจาก 1.1 พัน ล.ปอนด์ และ 577 ล. ปอนด์ในเดือน ก.ย. 43 และเดือน ส.ค.43 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม คาดว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (Monetary Policy Committee) จะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 6 นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 43 เนื่องจากระดับเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ระดับร้อยละ 2.5 (รอยเตอร์ 29)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 29 พ.ย. 43 43.814 (43.586)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 29 พ.ย. 43
ซื้อ 43.5914 (43.3388) ขาย 43.9056 (43.6585)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 28.86 (27.99)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 17.09 (17.09) ดีเซลหมุนเร็ว 15.04 (15.04)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการบัตรเครดิต ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการบัตรเครดิตของ ธพ. โดยลดอัตราเงินเดือนขั้นต่ำของผู้ทำบัตรเครดิตเหลือ 15,000 บาท/เดือน หรือไม่ต่ำกว่า 180,000 บาท/ปี จากเดิม 20,000 บาท/เดือน หรือ 240,000 บาท/ปี และลดอายุผู้ถือบัตรเสริมเป็นไม่ต่ำกว่า 18 ปี จากเดิมที่กำหนดไว้ 22 ปี ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.43 พร้อมกับผ่อนผันให้ผู้ถือบัตรรายเก่าที่สมัครก่อนวันที่ 1 ม.ค.41 ผ่อนชำระในอัตราร้อยละ 5 ต่อเดือนของยอดคงค้างได้ต่อไปอีก 1 ปี และให้เริ่มชำระขั้นต่ำร้อยละ 10 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.45 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากชมรมบัตรเครดิตกล่าว การผ่อนผันของ ธปท.จะช่วยกระตุ้นการให้บริการบัตรเครดิตของ ธพ.กระเตื้องขึ้นได้อย่างแน่นอน แม้จะดำเนินการช้าไปบ้าง ปัจจุบันยอดการใช้บัตรเครดิตของ ธพ.มีจำนน 1.68 ล้านใบ จากช่วงก่อนเกิดวิกฤตที่มีจำนวน 2 ล้านใบ ซึ่งเท่ากับไม่มีอัตราการเติบโตเลย ขณะที่ยอดการใช้บัตรของผู้ให้บริการที่มิใช่สถาบันการเงินมีอัตราเติบโตกว่าร้อยละ 100 (ไทยโพสต์,เดลินิวส์ 30)
2. ธปท.ไม่ต่ออายุมาตรการสกัดนักเก็งกำไร ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารมวลชน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธปท.ได้ออกหนังสือเวียนถึงแนวทางปฏิบัติในการรับซื้อเงินตราต่างประเทศและเงินบาทจากผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศที่มีกำหนดส่งมอบในวันเดียวเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.นั้น ธปท.จะไม่ขยายเวลาของมาตรการออกไปอีก เนื่องจากขณะนี้สภาพการโอนเงินผ่านระบบการชำระเงินได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.43 ไม่มีรายการโอนเงินในระบบการชำระเงินคงค้างเหมือนวันที่ 27 เชื่อว่าในวันที่ 30 การโอนเงินจะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในอนาคตหากมีปัญหาเกิดขึ้นอีกคงต้องพิจารณาต่อไปว่าจะมีมาตรการชั่วคราวออกมาอีกหรือไม่ ขณะเดียวกันนักบริหารเงินจาก ธพ.กล่าวว่า ค่าเงินบาท/ดอลลาร์ เมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) ปิดตลาดที่ 43.75-43.80 อ่อนค่าลงจากช่วงเปิดตลาดที่ระดับ 43.65-43.70 บาท/ดอลลาร์ ปริมาณการซื้อขายน้อยและค่อนข้างเงียบ นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเนื่องจากมาตรการของ ธปท.ดังกล่าว รวมทั้งเป็นช่วงใกล้สิ้นปี ซึ่งเป็นภาวะปกติของตลาดที่จะไม่มีการทำธุรกรรมการซื้อขายมากนัก (ผู้จัดการรายวัน 30)
3. ก.พาณิชย์คาดการณ์เงินเฟ้อปี 44 นายศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธปท. เตรียมศึกษาข้อมูลเพื่อกำหนดกรอบตัวเลขเงินเฟ้อใหม่ในวันที่ 6 ธ.ค.43 ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้ที่ร้อยละ 0-3.5 นั้น อาจเป็นตัวเลขที่ต่ำเกินไป เพราะปัจจุบันมีหลายปัจจัยเข้ามากระทบ ทั้งปัญหาการอ่อนค่าลงของค่าเงินบาท และราคาน้ำมันแพง ในส่วนของ ก.พาณิชย์ยังเชื่อมั่นว่าตัวเลขเงินเฟ้อตลอดปี 43 จะขยายตัวประมาณร้อยละ 2 ตามที่กรมการค้าภายในเคยคาดการณ์ไว้ สำหรับปี 44 ตัวเลขเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นไม่เกินร้อยละ 3 เพราะปัจจัยที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งเรื่องของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลก และปัญหาความผันผวนของค่าเงินบาท ได้ส่งผลฯ อย่างชัดเจนในปี 43 แล้ว ดังนั้น สถานการณ์ต่างๆ ดังกล่าวคงเริ่มคลี่คลายในปี 44 (เดลินิวส์ 30)
ข่าวต่างประเทศ
1. ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ในเดือน ต.ค.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 29 พ.ย.43 ก.การค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (MITI) รายงานว่า เดือน ต.ค.43 ผลผลิตอุตสาหกรรม ที่ปรับฤดูกาลของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 3.4 ในเดือน ก.ย.43 แต่เป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 และนับเป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำกว่าความคาดหมายของรัฐบาลญี่ปุ่นจากที่ได้ประมาณการผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในข้อมูลของผลผลิตฯ ว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 ในเดือน ต.ค.43 นับเป็นสัญญาณที่แสดงว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ทั้งนี้ MITI กล่าวว่า ผลผลิตฯ มีแนวโน้มจะชะลอตัวต่อเนื่องในเดือน พ.ย.43 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 0.4 ส่วนในเดือน ธ.ค.43 คาดว่า ผลผลิตฯ จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 (รอยเตอร์ 29)
2. ไตรมาสที่ 3 ปี 43 เศรษฐกิจ สรอ. เติบโตต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของ สรอ. เติบโตร้อยละ 2.4 ต่อปี ปรับตัวลดลงจากร้อยละ 2.7 ที่ประมาณการไว้เมื่อเดือน ต.ค. 43 และลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งจากไตรมาสที่ 2 ปี 43 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.6 นับเป็นการลดลงต่ำที่สุดตั้งแต่เคยเติบโตร้อยละ 2 ในไตรมาสที่ 3 ปี 39 สำหรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคในไตรมาสที่ 3 ปี 43 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 จากร้อยละ 3.1 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 ส่วนการนำเข้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4 มากกว่าที่ประมาณไว้ก่อนหน้านี้ ที่ร้อยละ 13.8 ขณะที่การส่งออก เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 ลดลงจากที่ประมาณการไว้ที่ร้อยละ 16.2 ขณะเดียวกัน ในไตรมาสที่ 3 ปี 43 ธุรกิจต่างๆ ได้เพิ่มสินค้าคงคลังในอัตราที่ชะลอตัวลงอยู่ที่มูลค่า 73.5 พัน ล. ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ที่มูลค่า 79.9 พัน ล. ดอลลาร์ และต่ำกว่าไตรมาสที่ 2 ปี 43 ที่มูลค่า78.6 พัน ล.ดอลลาร์ จากรายงานครั้งนี้ สะท้อนถึงการค้าของ สรอ. กำลังอยู่ในภาวะที่ไม่แจ่มใส (รอยเตอร์ 29)
3. สินเชื่อผู้บริโภคของอังกฤษเพิ่มขึ้นในเดือน ต.ค. 43 รายงานจากลอนดอนเมื่อ 29 พ.ย. 43 ธ.กลางของอังกฤษรายงานว่า เดือน ต.ค. 43 สินเชื่อผู้บริโภคสุทธิของอังกฤษเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.5 พัน ล.ปอนด์ ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่เดือน พ.ค. 43 และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.3 พัน ล.ปอนด์ โดยสินเชื่อผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้นจาก 1.1 พัน ล.ปอนด์ และ 577 ล. ปอนด์ในเดือน ก.ย. 43 และเดือน ส.ค.43 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม คาดว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (Monetary Policy Committee) จะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 6 นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 43 เนื่องจากระดับเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ระดับร้อยละ 2.5 (รอยเตอร์ 29)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 29 พ.ย. 43 43.814 (43.586)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 29 พ.ย. 43
ซื้อ 43.5914 (43.3388) ขาย 43.9056 (43.6585)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,500 (5,500) ขาย 5,600 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 28.86 (27.99)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 17.09 (17.09) ดีเซลหมุนเร็ว 15.04 (15.04)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-