ข่าวในประเทศ
1. ก.คลังกำลังเร่งดำเนินการเกี่ยวกับระบบศูนย์เตือนภัยทางเศรษฐกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า การตั้งศูนย์เตือนภัยทางเศรษฐกิจตามแนวคิดของรัฐบาลใหม่นั้น สศค.ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการศูนย์ฯ ดังกล่าวอยู่แล้ว และกำลังทดสอบระบบทุกสัปดาห์ว่าใช้ได้หรือไม่ โดยขณะนี้มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 50 และกำลังเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ซึ่งรูปแบบของระบบสัญญาณเตือนภัยทางเศรษฐกิจที่ สศค.ดำเนินอยู่นั้น จะนำดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญๆ 4 ด้านมาใส่ไว้ในแบบจำลองที่จัดทำขึ้น ประกอบด้วย ตัวเลขด้านการคลัง การเงิน ทุนสำรองระหว่างประเทศ และภาวะเศรษฐกิจของต่างประเทศ ทั้งนี้ เชื่อว่าระบบที่ สศค.ทำขึ้นจะทำให้รู้ถึงภาวะเศรษฐกิจในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร และควรระมัดระวังเรื่องอะไรบ้าง (ผู้จัดการรายวัน 5)
2. จำนวนเอ็นพีแอลทั้งระบบมีจำนวน 1.7 ล้านล้านบาท รายงานข่าวจาก ธปท.เปิดเผยจำนวนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ทั้งระบบว่ามีจำนวน 1.7 ล้านล้านบาท เป็นเอ็นพีแอลส่วนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาประมาณ 3 แสน ล.บาท อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการศาลประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท ธพ.กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาประมาณ 2-3 แสน ล.บาท และอยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างหนี้ประมาณ 60,000 ล.บาท สำหรับการปรับโครงสร้างหนี้ในระยะต่อไป มูลหนี้จะน้อยลงแต่จำนวนรายมากขึ้น เนื่องจากเป็นลูกหนี้ที่มีปัญหามาก โดยส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้รายย่อย เอสเอ็มอี หนี้บุคคลและบัตรเครดิต สำหรับกลุ่มลูกหนี้รายใหญ่ปัจจุบันมีจำนวน 240 ราย มีมูลหนี้ประมาณ 50,000 ล.บาท คาดว่าจะใช้เวลาในการปรับโครงสร้างประมาณ 2-3 เดือน (วัฏจักร 5)
3. รายละเอียดการออก พธบ.ออมทรัพย์ในปีงบประมาณ 44 แหล่งข่าวจาก ก.คลังเปิดเผยว่า คณะกรรมการตราสารหนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดและกำหนดรูปแบบการออก พธบ.ออมทรัพย์สำหรับจำหน่ายประชาชนทั่วไปวงเงิน 20,000 ล.บาท คาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้ภายในเดือน มี.ค.44 สำหรับปัจจัยที่คณะกรรมการฯ พิจารณาประกอบการออก พธบ.คือ ภาวะตลาด อัตราดอกเบี้ย ปริมาณเงินคงคลัง และอื่นๆ สำหรับรายละเอียดแผนการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล งปม.44 จำนวน 105,000 ล.บาท แบ่งเป็น การออก พธบ.รัฐบาลรวมทั้งตั๋วเงินคลังวงเงิน 70,000 ล.บาท ที่ผ่านมา ก.คลังได้ออก พธบ.จำหน่ายสถาบันการเงินไปแล้วจำนวน 60,000 ล.บาท จึงเหลือวงเงินจำนวนเพียง 10,000 ล.บาท ซึ่งสามารถดึงวงเงินจากส่วนอื่นมารวมเพื่อให้สามารถออก พธบ.ออมทรัพย์จำนวน 20,000 ล.บาทได้ สำหรับการออก พธบ.ออมทรัพย์ดังกล่าวอาจมีวงเงินต่ำกว่าที่กำหนดขึ้นอยู่กับฐานะการคลังเป็นหลัง (วัฏจักร 5)
4. ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมสะท้อนว่าประชาชนยังไม่มั่นใจการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แหล่งข่าวจาก ธปท. กล่าวว่า ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน ธ.ค.43 ที่ขยายตัวลดลงสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังไม่มั่นใจในภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะผลผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยตัวเลขเฉลี่ยตลอดปี 43 อยู่ที่ร้อยละ 25.6 ปรับตัวลดลงจากร้อยละ 79.1 ในปี 42 และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์อยู่ที่ระดับร้อยละ -13.1 ลดลงจากร้อยละ 8.6 ในเดือน พ.ย.43 สำหรับปี 44 สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ได้คาดการณ์ว่ายอดการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์จะขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ 20 จากยอดการผลิตเดิม 2.6 แสนคันในปี 43 (แนวหน้า,มติชน, 5)
ข่าวต่างประเทศ
1. การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมและอัตราการว่างงานของ สรอ. เพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 2 ก. พ. 44 ก. แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ม.ค. 44 การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม เพิ่มขึ้นจำนวน 268,000 แสนคน เทียบกับตัวเลขที่ปรับฤดูกาล เพิ่มขึ้น 19,000 คนในเดือน ธ.ค. 43 ซึ่งถูกปรับลดลงมากจากตัวเลขเบื้องต้นที่เพิ่มขึ้น 105,000 คน ขณะเดียวกัน ในเดือน ม.ค. 44 อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.2 จากร้อยละ 4 ในเดือน ธ.ค. 43 นับเป็นอัตราสูงสุดในรอบมากกว่า 1 ปีตั้งแต่เดือน ก.ย. 42 ที่มีอัตราร้อยละ 4.2 เช่นกัน ส่วนค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมง อยู่ที่ 14.02 ดอลลาร์/ชั่วโมงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน ธ.ค. 43 ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์ เคยคาดหมายไว้ว่า ในเดือน ม.ค. 44 การจ้างงานฯจะเพิ่มขึ้น 83,000 คน ขณะที่การว่างงานจะมีอัตราเพียงร้อยละ 4.1 อย่างไรก็ตาม Dan Laufenberg นักเศรษฐศาสตร์ของ American Express Financial Advisors กล่าวว่า แม้อัตราการว่างงานของ สรอ. เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่มีปัจจัยอื่นๆจากรายงานครั้งนี้ สนับหนุนให้คาดหมายว่า สรอ. จะไม่เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยถอย(รอยเตอร์ 2)
2. คำสั่งซื้อสินค้าโรงงานของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือน ธ.ค.43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 2 ก.พ.44 ก.พาณิชย์ สรอ. รายงานว่า เดือน ธ.ค.43 คำสั่งซื้อสินค้าโรงงานปรับฤดูกาลของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 มาอยู่ที่มูลค่า 382.52 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 ในเดือน พ.ย.43 เพิ่มสูงกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์จากวอลล์สตรีทที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.6 โดยปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค.43 คือคำสั่งซื้อเครื่องบินใหม่ ซึ่งหากไม่รวมคำสั่งซื้อสินค้าประเภทการขนส่ง คำสั่งซื้อฯ ลดลงร้อยละ 0.8 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือน พ.ย.43 เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าในหมวดอุตสาหกรรมหลักอื่นๆ ต่างอ่อนตัวลง ที่สำคัญได้แก่ คำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 ในเดือน พ.ย.43 คำสั่งซื้อสินค้าประเภทเครื่องจักรกลและเครื่องมือซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์ ลดลงร้อยละ 3.6 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน พ.ย.43 คำสั่งซื้อสินค้าประเภทโลหะขั้นต้น ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมการผลิตอื่น ลดลงร้อยละ 3.9 จากที่ลดลงร้อยละ 2.7 ในเดือน พ.ย.43 และการส่งมอบสินค้าซึ่งใช้วัดความต้องการในปัจจุบัน ลดลงร้อยละ 0.2 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือน พ.ย.43 เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 (รอยเตอร์ 2)
3. ดัชนีวัดเงินเฟ้อในอนาคต (GFIG) ของเยอรมนีลดลงอยู่ที่ระดับ 90.5 ในเดือน ธ.ค. 43 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ตเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 44 สถาบันวิจัยวัฏจักรธุรกิจ (ECRI) ของเยอรมนีรายงานว่า เดือน ธ.ค. 43 ดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อในอนาคต (GFIG) รายเดือน ซึ่งใช้พยากรณ์วัฏจักรเงินเฟ้อของเยอรมนีลดลงอยู่ที่ระดับ 90.5 จาก 99.3 ในเดือน พ.ย. 43 ซึ่งเป็นการลดลงอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับแต่ปี 17 ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ เนื่องจากการชะลอตัวลงของราคาวัตถุดิบ รวมทั้งการขยายตัวของเงินสดหมุนเวียน ราคาสินค้านำเข้า และคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมการผลิตที่ลดลง (รอยเตอร์ 2)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 2 ก.พ. 44 42.292 (42.432)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 2 ก.พ. 44
ซื้อ 42.1150 (42.2993) ขาย 42.4216 (42.6050)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,350 (5,350) ขาย 5,450 (5,450)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 25.50 (24.50)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.29 (16.29) ดีเซลหมุนเร็ว 13.14 (13.14)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ก.คลังกำลังเร่งดำเนินการเกี่ยวกับระบบศูนย์เตือนภัยทางเศรษฐกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า การตั้งศูนย์เตือนภัยทางเศรษฐกิจตามแนวคิดของรัฐบาลใหม่นั้น สศค.ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการศูนย์ฯ ดังกล่าวอยู่แล้ว และกำลังทดสอบระบบทุกสัปดาห์ว่าใช้ได้หรือไม่ โดยขณะนี้มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 50 และกำลังเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ซึ่งรูปแบบของระบบสัญญาณเตือนภัยทางเศรษฐกิจที่ สศค.ดำเนินอยู่นั้น จะนำดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญๆ 4 ด้านมาใส่ไว้ในแบบจำลองที่จัดทำขึ้น ประกอบด้วย ตัวเลขด้านการคลัง การเงิน ทุนสำรองระหว่างประเทศ และภาวะเศรษฐกิจของต่างประเทศ ทั้งนี้ เชื่อว่าระบบที่ สศค.ทำขึ้นจะทำให้รู้ถึงภาวะเศรษฐกิจในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร และควรระมัดระวังเรื่องอะไรบ้าง (ผู้จัดการรายวัน 5)
2. จำนวนเอ็นพีแอลทั้งระบบมีจำนวน 1.7 ล้านล้านบาท รายงานข่าวจาก ธปท.เปิดเผยจำนวนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ทั้งระบบว่ามีจำนวน 1.7 ล้านล้านบาท เป็นเอ็นพีแอลส่วนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาประมาณ 3 แสน ล.บาท อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการศาลประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท ธพ.กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาประมาณ 2-3 แสน ล.บาท และอยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างหนี้ประมาณ 60,000 ล.บาท สำหรับการปรับโครงสร้างหนี้ในระยะต่อไป มูลหนี้จะน้อยลงแต่จำนวนรายมากขึ้น เนื่องจากเป็นลูกหนี้ที่มีปัญหามาก โดยส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้รายย่อย เอสเอ็มอี หนี้บุคคลและบัตรเครดิต สำหรับกลุ่มลูกหนี้รายใหญ่ปัจจุบันมีจำนวน 240 ราย มีมูลหนี้ประมาณ 50,000 ล.บาท คาดว่าจะใช้เวลาในการปรับโครงสร้างประมาณ 2-3 เดือน (วัฏจักร 5)
3. รายละเอียดการออก พธบ.ออมทรัพย์ในปีงบประมาณ 44 แหล่งข่าวจาก ก.คลังเปิดเผยว่า คณะกรรมการตราสารหนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดและกำหนดรูปแบบการออก พธบ.ออมทรัพย์สำหรับจำหน่ายประชาชนทั่วไปวงเงิน 20,000 ล.บาท คาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้ภายในเดือน มี.ค.44 สำหรับปัจจัยที่คณะกรรมการฯ พิจารณาประกอบการออก พธบ.คือ ภาวะตลาด อัตราดอกเบี้ย ปริมาณเงินคงคลัง และอื่นๆ สำหรับรายละเอียดแผนการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล งปม.44 จำนวน 105,000 ล.บาท แบ่งเป็น การออก พธบ.รัฐบาลรวมทั้งตั๋วเงินคลังวงเงิน 70,000 ล.บาท ที่ผ่านมา ก.คลังได้ออก พธบ.จำหน่ายสถาบันการเงินไปแล้วจำนวน 60,000 ล.บาท จึงเหลือวงเงินจำนวนเพียง 10,000 ล.บาท ซึ่งสามารถดึงวงเงินจากส่วนอื่นมารวมเพื่อให้สามารถออก พธบ.ออมทรัพย์จำนวน 20,000 ล.บาทได้ สำหรับการออก พธบ.ออมทรัพย์ดังกล่าวอาจมีวงเงินต่ำกว่าที่กำหนดขึ้นอยู่กับฐานะการคลังเป็นหลัง (วัฏจักร 5)
4. ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมสะท้อนว่าประชาชนยังไม่มั่นใจการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แหล่งข่าวจาก ธปท. กล่าวว่า ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน ธ.ค.43 ที่ขยายตัวลดลงสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังไม่มั่นใจในภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะผลผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยตัวเลขเฉลี่ยตลอดปี 43 อยู่ที่ร้อยละ 25.6 ปรับตัวลดลงจากร้อยละ 79.1 ในปี 42 และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์อยู่ที่ระดับร้อยละ -13.1 ลดลงจากร้อยละ 8.6 ในเดือน พ.ย.43 สำหรับปี 44 สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ได้คาดการณ์ว่ายอดการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์จะขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ 20 จากยอดการผลิตเดิม 2.6 แสนคันในปี 43 (แนวหน้า,มติชน, 5)
ข่าวต่างประเทศ
1. การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมและอัตราการว่างงานของ สรอ. เพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 2 ก. พ. 44 ก. แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ม.ค. 44 การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม เพิ่มขึ้นจำนวน 268,000 แสนคน เทียบกับตัวเลขที่ปรับฤดูกาล เพิ่มขึ้น 19,000 คนในเดือน ธ.ค. 43 ซึ่งถูกปรับลดลงมากจากตัวเลขเบื้องต้นที่เพิ่มขึ้น 105,000 คน ขณะเดียวกัน ในเดือน ม.ค. 44 อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.2 จากร้อยละ 4 ในเดือน ธ.ค. 43 นับเป็นอัตราสูงสุดในรอบมากกว่า 1 ปีตั้งแต่เดือน ก.ย. 42 ที่มีอัตราร้อยละ 4.2 เช่นกัน ส่วนค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมง อยู่ที่ 14.02 ดอลลาร์/ชั่วโมงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน ธ.ค. 43 ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์ เคยคาดหมายไว้ว่า ในเดือน ม.ค. 44 การจ้างงานฯจะเพิ่มขึ้น 83,000 คน ขณะที่การว่างงานจะมีอัตราเพียงร้อยละ 4.1 อย่างไรก็ตาม Dan Laufenberg นักเศรษฐศาสตร์ของ American Express Financial Advisors กล่าวว่า แม้อัตราการว่างงานของ สรอ. เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่มีปัจจัยอื่นๆจากรายงานครั้งนี้ สนับหนุนให้คาดหมายว่า สรอ. จะไม่เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยถอย(รอยเตอร์ 2)
2. คำสั่งซื้อสินค้าโรงงานของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือน ธ.ค.43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 2 ก.พ.44 ก.พาณิชย์ สรอ. รายงานว่า เดือน ธ.ค.43 คำสั่งซื้อสินค้าโรงงานปรับฤดูกาลของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 มาอยู่ที่มูลค่า 382.52 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 ในเดือน พ.ย.43 เพิ่มสูงกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์จากวอลล์สตรีทที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.6 โดยปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค.43 คือคำสั่งซื้อเครื่องบินใหม่ ซึ่งหากไม่รวมคำสั่งซื้อสินค้าประเภทการขนส่ง คำสั่งซื้อฯ ลดลงร้อยละ 0.8 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือน พ.ย.43 เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าในหมวดอุตสาหกรรมหลักอื่นๆ ต่างอ่อนตัวลง ที่สำคัญได้แก่ คำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 ในเดือน พ.ย.43 คำสั่งซื้อสินค้าประเภทเครื่องจักรกลและเครื่องมือซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์ ลดลงร้อยละ 3.6 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน พ.ย.43 คำสั่งซื้อสินค้าประเภทโลหะขั้นต้น ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมการผลิตอื่น ลดลงร้อยละ 3.9 จากที่ลดลงร้อยละ 2.7 ในเดือน พ.ย.43 และการส่งมอบสินค้าซึ่งใช้วัดความต้องการในปัจจุบัน ลดลงร้อยละ 0.2 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือน พ.ย.43 เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 (รอยเตอร์ 2)
3. ดัชนีวัดเงินเฟ้อในอนาคต (GFIG) ของเยอรมนีลดลงอยู่ที่ระดับ 90.5 ในเดือน ธ.ค. 43 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ตเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 44 สถาบันวิจัยวัฏจักรธุรกิจ (ECRI) ของเยอรมนีรายงานว่า เดือน ธ.ค. 43 ดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อในอนาคต (GFIG) รายเดือน ซึ่งใช้พยากรณ์วัฏจักรเงินเฟ้อของเยอรมนีลดลงอยู่ที่ระดับ 90.5 จาก 99.3 ในเดือน พ.ย. 43 ซึ่งเป็นการลดลงอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับแต่ปี 17 ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ เนื่องจากการชะลอตัวลงของราคาวัตถุดิบ รวมทั้งการขยายตัวของเงินสดหมุนเวียน ราคาสินค้านำเข้า และคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมการผลิตที่ลดลง (รอยเตอร์ 2)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 2 ก.พ. 44 42.292 (42.432)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 2 ก.พ. 44
ซื้อ 42.1150 (42.2993) ขาย 42.4216 (42.6050)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,350 (5,350) ขาย 5,450 (5,450)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 25.50 (24.50)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.29 (16.29) ดีเซลหมุนเร็ว 13.14 (13.14)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-