อภิสิทธิ์’ เชื่อ การอภิปรายของ ส.ว.ที่อาจเกิดขึ้นก่อน จะไม่ส่งผลกระทบ มั่นใจประชาชนจะยังติดตามฝ่ายค้านซักฟอก ‘สุริยะ’ พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ เข้าฟังการอภิปรายฯ จะได้รู้ข้อเท็จจริง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปคณะรัฐมนตรีว่า ในส่วนของ ส.ว.เป็นการอภิปรายในเรื่องทั่วไป ไม่ได้เจาะจงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งถือเป็นคนละส่วนกับการอภิปรายของฝ่ายค้าน ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่า ส.ว.จะเปิดอภิปรายทั่วไปได้หรือไม่ เพราะขณะนี้เหลือเวลาเพียง 7-8 วัน จากนั้นก็จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน อีกทั้งการรวบรวมรายชื่อ ส.ว. ก็ยังดำเนินการไม่เรียบร้อย
สำหรับการอภิปรายทั่วไปของ ส.ว.จะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านลดความน่าสนใจลงหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า คิดว่าการอภิปรายของ ส.ว.ที่เกิดขึ้นก่อน ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร เนื่องจากเชื่อว่าประชาชนจะยังคงติดตามการอภิปรายของฝ่ายค้าน ในเรื่องการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของประชาชนจำนวนมากที่ยังไม่เห็นความกระจ่าง จึงต้องการทราบว่าที่จริงแล้วมีสิ่งใดเกิดขึ้น และมีเอกสารหลักฐานในเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง อีกทั้งข้อมูลที่เรารวบรวมได้นั้นมีความชัดเจนในสิ่งที่เราจะนำเสนอ โดยฝ่ายค้านจะลำดับให้เห็นถึงกระบวนการของโครงการนี้ทั้งหมด ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงสิ่งที่ถูกเปิดเผยในประเทศสหรัฐอเมริกา และย้อนกลับมาดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในไทยกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสหรัฐฯ ตรงกันในส่วนใด และมีข้อสังเกตอะไรบ้าง ทำไมรัฐบาลถึงไม่ดำเนินการ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม พยายามบอกว่าทราบเรื่องการทุจริตในการจัดซื้อดังกล่าวตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และได้ไปตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีอะไร แต่เมื่อมีข้อเท็จจริงมาปรากฏออกมา รัฐบาลจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งก็ไม่ได้ทำหน้าที่ชี้ให้เห็นว่าผิดหรือถูก ขณะเดียวกันรัฐบาลก็พยายามบอกว่าไม่ต้องสอบสวนอีกต่อไป และจงใจมองข้อมูลเพียงด้านเดียว ซึ่งฝ่ายค้านจะนำสิ่งเหล่านี้มาประกอบกันในการอภิปราย เพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้งหมดทำให้เกิดความไม่ชอบมาพากล
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯ แสดงความมั่นใจในตัวของ รมว.คมนาคม ว่าจะสามารถชี้แจงข้อมูลได้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า เห็นว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะที่ผ่านมา นายกฯ มักจะระบุว่าขอฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่ายก่อนที่จะตัดสินใจ แต่ครั้งนี้นายกฯ กลับมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษที่จะบอกว่ารัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้ และพยายามชี้นำการลงมติ โดยจะต้องไปดูว่านายกฯ มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายกฯ จึงออกมาแสดงท่าทีเช่นนี้ ซึ่งการออกมาบอกล่วงหน้าในลักษณะดังกล่าว ตนคิดว่าไม่มีความเหมาะสมเท่าไรนัก
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่าการอภิปรายในสภาฯ มีปัญหาของการไม่ฟังซึ่งกันและกัน ใครอยากจะพูดก็พูด เมื่อพูดไปโดยไม่สนใจคนอื่น คนฟังไม่มี มีแต่คนพูดนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริง การอภิปรายหรือการถกเถียงในสภาฯ คือการเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาหักล้างกันด้วยเหตุผล แต่มีเพียงรัฐบาลชุดนี้ที่พยายามไม่ให้มีการอภิปรายหักล้างกัน ซึ่งนายกฯ ไม่มาตอบกระทู้ แต่ใช้วิธีพูดข้างเดียวผ่านรายการวิทยุ โดยที่ไม่มีใครสามารถซักถามนายกฯ ได้เลย จึงอยากให้นายกฯ มาฟังการอภิปรายฯ ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ เพื่อจะได้ทราบว่าข้อมูลที่แท้จริงในเรื่องนี้เป็นอย่างไร และมีใครที่เกี่ยวข้องบ้าง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 มิ.ย. 2548--จบ--
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปคณะรัฐมนตรีว่า ในส่วนของ ส.ว.เป็นการอภิปรายในเรื่องทั่วไป ไม่ได้เจาะจงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งถือเป็นคนละส่วนกับการอภิปรายของฝ่ายค้าน ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่า ส.ว.จะเปิดอภิปรายทั่วไปได้หรือไม่ เพราะขณะนี้เหลือเวลาเพียง 7-8 วัน จากนั้นก็จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน อีกทั้งการรวบรวมรายชื่อ ส.ว. ก็ยังดำเนินการไม่เรียบร้อย
สำหรับการอภิปรายทั่วไปของ ส.ว.จะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านลดความน่าสนใจลงหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า คิดว่าการอภิปรายของ ส.ว.ที่เกิดขึ้นก่อน ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร เนื่องจากเชื่อว่าประชาชนจะยังคงติดตามการอภิปรายของฝ่ายค้าน ในเรื่องการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของประชาชนจำนวนมากที่ยังไม่เห็นความกระจ่าง จึงต้องการทราบว่าที่จริงแล้วมีสิ่งใดเกิดขึ้น และมีเอกสารหลักฐานในเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง อีกทั้งข้อมูลที่เรารวบรวมได้นั้นมีความชัดเจนในสิ่งที่เราจะนำเสนอ โดยฝ่ายค้านจะลำดับให้เห็นถึงกระบวนการของโครงการนี้ทั้งหมด ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงสิ่งที่ถูกเปิดเผยในประเทศสหรัฐอเมริกา และย้อนกลับมาดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในไทยกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสหรัฐฯ ตรงกันในส่วนใด และมีข้อสังเกตอะไรบ้าง ทำไมรัฐบาลถึงไม่ดำเนินการ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม พยายามบอกว่าทราบเรื่องการทุจริตในการจัดซื้อดังกล่าวตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และได้ไปตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีอะไร แต่เมื่อมีข้อเท็จจริงมาปรากฏออกมา รัฐบาลจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งก็ไม่ได้ทำหน้าที่ชี้ให้เห็นว่าผิดหรือถูก ขณะเดียวกันรัฐบาลก็พยายามบอกว่าไม่ต้องสอบสวนอีกต่อไป และจงใจมองข้อมูลเพียงด้านเดียว ซึ่งฝ่ายค้านจะนำสิ่งเหล่านี้มาประกอบกันในการอภิปราย เพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้งหมดทำให้เกิดความไม่ชอบมาพากล
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯ แสดงความมั่นใจในตัวของ รมว.คมนาคม ว่าจะสามารถชี้แจงข้อมูลได้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า เห็นว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะที่ผ่านมา นายกฯ มักจะระบุว่าขอฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่ายก่อนที่จะตัดสินใจ แต่ครั้งนี้นายกฯ กลับมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษที่จะบอกว่ารัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้ และพยายามชี้นำการลงมติ โดยจะต้องไปดูว่านายกฯ มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายกฯ จึงออกมาแสดงท่าทีเช่นนี้ ซึ่งการออกมาบอกล่วงหน้าในลักษณะดังกล่าว ตนคิดว่าไม่มีความเหมาะสมเท่าไรนัก
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่าการอภิปรายในสภาฯ มีปัญหาของการไม่ฟังซึ่งกันและกัน ใครอยากจะพูดก็พูด เมื่อพูดไปโดยไม่สนใจคนอื่น คนฟังไม่มี มีแต่คนพูดนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริง การอภิปรายหรือการถกเถียงในสภาฯ คือการเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาหักล้างกันด้วยเหตุผล แต่มีเพียงรัฐบาลชุดนี้ที่พยายามไม่ให้มีการอภิปรายหักล้างกัน ซึ่งนายกฯ ไม่มาตอบกระทู้ แต่ใช้วิธีพูดข้างเดียวผ่านรายการวิทยุ โดยที่ไม่มีใครสามารถซักถามนายกฯ ได้เลย จึงอยากให้นายกฯ มาฟังการอภิปรายฯ ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ เพื่อจะได้ทราบว่าข้อมูลที่แท้จริงในเรื่องนี้เป็นอย่างไร และมีใครที่เกี่ยวข้องบ้าง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 มิ.ย. 2548--จบ--