สรุปสถานการณ์:
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เสนอรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2548 สามารถสรุปได้ดังนี้
1. คาดว่าเศรษฐกิจของโลกในปี 2548 จะขยายตัวประมาณ 4.3 และปี 2549 ได้ปรับลงเหลือร้อยละ 4.3 จากที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ร้อยละ 4.4 เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องราคาน้ำมัน การขาดแคลนเงินออมในหลายประเทศ ภัยธรรมชาติ และปัญหาโรคระบาด ตลอดจนความไร้สมดุลของดุลบัญชีเดินสะพัดทั่วโลก และการที่ภูมิภาคต่างๆ มีการเจริญเติบโตที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน ความวิตกกังวลว่ากำลังการผลิตน้ำมันที่จำกัดมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่องส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกสูงขึ้น
2. ไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐลงจากร้อยละ 3.6 เป็นร้อยละ 3.5 ในปี 2548 และในปี 2549 จากร้อยละ 3.6 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.3 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวินาศภัยและราคาน้ำมัน
3. เศรษฐกิจในแถบยุโรปโซนยังคงซบเซาเนื่องจากความต้องการภายในประเทศที่อ่อนแอและขาดการปฎิรูปโครงสร้างรวมทั้งปัญหาการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้นจึงคาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้จะขยายตัวร้อยละ 1.2 ในปี 2548
4. สำหรับประเทศจีนและอินเดีย ไอเอ็มเอฟ ได้ปรับคำทำนายการเติบโตโดยจีนเพิ่มเป็นร้อยละ 9 จาก 8.5 ในปี 2548 และในปี 2549 จะขยายตัวร้อยละ 8.2 จากเดิมร้อยละ 8 เนื่องจากการลงทุนในประเทศจีนยังแข็งแกร่ง ส่วนอินเดียเพิ่มจากร้อยละ 6.7 เป็น 7.1 ในปี 2548
5. เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถกลับฟื้นตัวขึ้นได้แล้ว คาดว่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 2 ทั้งปี 2548 และปี 2549
6. เศรษฐกิจของอาเซียน ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขการเจริญเติบโตลง 4 ประเทศ ประกอบด้วยด้วย ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ลงร้อยละ 0.5 ในปี 2548 และ 0.4 ในปี 2549 ส่วนเศรษฐกิจของประเทศไทย ไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดลงจากร้อยละ 5.6 เป็นร้อยละ 3.5 ในปี 2548 เนื่องจากมีผลกระทบจากราคาน้ำมัน
ประเด็นวิเคราะห์:
ในสภาวะปัจจุบันนี้เศรษฐกิจของโลกยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยด้านต่างๆ เช่น การที่รัฐบาลของหลายประเทศขาดแคลนเงินออม การไม่สมดุลของดุลบัญชีเดินสะพัด การเติบโตที่ผิดสัดส่วนของภูมิภาคต่างๆ และราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้นโดยจะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อโดยรวมและจะผลักดันอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกให้สูงขึ้นตาม ในขณะที่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะมีผลต่ออัตราการเติบโตของประเทศภูมิภาคเอเซีย เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย แต่สำหรับเศรษฐกิจโดยรวมของเอเซียได้มีการคาดการณ์ว่าในปีนี้จะเติบโตถึง 7.3% และ 6.9% ในปี 2549 ปัจจัยหลักจะอยู่ที่ความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีน
ที่มา: http://www.depthai.go.th