ไม่หวั่นน้ำมันทะยานต่อ ภาพรวมอุตฯ กระทบไม่มาก โรงงานปรับตัวก่อนหน้า แต่ต้องเตรียมรับสถานการณ์ เร่งสร้างโครงข่ายเชื่อมโยงการขนส่ง
นางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้น 3 บาทต่อลิตร ซึ่งส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 18.19 บาทต่อลิตรและมีแนวโน้มว่าอาจจะมีการปรับขึ้นไปอีก โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยที่ส่งกระทบต่อภาพเศรษฐกิจและจิตวิทยาการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม แต่สำหรับภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมไทยทั่วไปสามารถแข่งขันได้ต่อไป เนื่องจากมีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลทั้งระบบโดยตรงค่อนข้างน้อย จะใช้เพียงภาคการขนส่งเท่านั้น ซึ่งมีการคาดการณ์กันล่วงหน้าบ้างแล้ว โดย สศอ.ได้มีส่วนผลักดันให้ผู้ประกอบการได้มีการปรับตัว และเตรียมพร้อมรับความผันผวนด้านต้นทุน ซึ่งผู้ประกอบการก็ได้ลดการใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต และหันมาใช้พลังงานจาก ถ่านหิน น้ำมันเตา ไฟฟ้า และพลังงานทดแทนซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า
“เรานำเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ ไปให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการถึงโรงงานหลายแห่ง อย่างที่ผ่านมา เราได้หาทางออกให้กลุ่มผู้ประกอบการผลิตหม้อน้ำ ซึ่งก่อนหน้านั้นใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต แต่เมื่อนำผลการศึกษาการใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิง ทดแทนน้ำมันดีเซลจะเป็นการลดต้นทุน ซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นผลการศึกษาที่ดีและปฏิบัติได้จริงเขาจึงปรับระบบมาใช้น้ำมันเตา ทำให้ลดต้นทุนได้มากตามผลการศึกษา”
สถานการณ์ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ถึงแม้จะไม่มีผลกระทบโดยตรง เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ มีอัตราการใช้พลังงานน้ำมันดีเซลเพียงเล็กน้อย ซึ่งสัดส่วนการใช้พลังงานในอุตสาหกรรมนั้นจะเป็น การใช้พลังงานจากถ่านหินร้อยละ 26.1 น้ำมันเตาร้อยละ 22.7 ไฟฟ้าร้อยละ 20.4 พลังงานหมุนเวียนร้อยละ 21.5 และก๊าชธรรมชาติร้อยละ 9.3 แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าราคาน้ำมันดีเซลที่พุ่งสูงขึ้นนี้ ผู้ประกอบการจะไม่ได้ผลกระทบ สศอ.จึงได้ส่งสัญญาณเตือนและแนะผู้ประกอบการอย่างเป็นระยะตลอดมา ซึ่งผู้ประกอบการได้มีการรวมกลุ่มกันสร้างโครงข่ายการขนส่งหรือลอจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนทางการขนส่งอยู่แล้ว แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งน้ำมันแพงและภัยแล้ง ยังเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง สศอ.จะได้เร่งส่งสัญญาณเตือนความเสี่ยง ให้ภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบเกิดการตื่นตัว และพร้อมรับทุกความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมกล่าว
ที่มา : ฝ่ายช่วยอำนวยการและประชาสัมพันธ์ โทร 0-2202-4274
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
นางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้น 3 บาทต่อลิตร ซึ่งส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 18.19 บาทต่อลิตรและมีแนวโน้มว่าอาจจะมีการปรับขึ้นไปอีก โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยที่ส่งกระทบต่อภาพเศรษฐกิจและจิตวิทยาการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม แต่สำหรับภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมไทยทั่วไปสามารถแข่งขันได้ต่อไป เนื่องจากมีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลทั้งระบบโดยตรงค่อนข้างน้อย จะใช้เพียงภาคการขนส่งเท่านั้น ซึ่งมีการคาดการณ์กันล่วงหน้าบ้างแล้ว โดย สศอ.ได้มีส่วนผลักดันให้ผู้ประกอบการได้มีการปรับตัว และเตรียมพร้อมรับความผันผวนด้านต้นทุน ซึ่งผู้ประกอบการก็ได้ลดการใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต และหันมาใช้พลังงานจาก ถ่านหิน น้ำมันเตา ไฟฟ้า และพลังงานทดแทนซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า
“เรานำเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ ไปให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการถึงโรงงานหลายแห่ง อย่างที่ผ่านมา เราได้หาทางออกให้กลุ่มผู้ประกอบการผลิตหม้อน้ำ ซึ่งก่อนหน้านั้นใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต แต่เมื่อนำผลการศึกษาการใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิง ทดแทนน้ำมันดีเซลจะเป็นการลดต้นทุน ซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นผลการศึกษาที่ดีและปฏิบัติได้จริงเขาจึงปรับระบบมาใช้น้ำมันเตา ทำให้ลดต้นทุนได้มากตามผลการศึกษา”
สถานการณ์ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ถึงแม้จะไม่มีผลกระทบโดยตรง เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ มีอัตราการใช้พลังงานน้ำมันดีเซลเพียงเล็กน้อย ซึ่งสัดส่วนการใช้พลังงานในอุตสาหกรรมนั้นจะเป็น การใช้พลังงานจากถ่านหินร้อยละ 26.1 น้ำมันเตาร้อยละ 22.7 ไฟฟ้าร้อยละ 20.4 พลังงานหมุนเวียนร้อยละ 21.5 และก๊าชธรรมชาติร้อยละ 9.3 แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าราคาน้ำมันดีเซลที่พุ่งสูงขึ้นนี้ ผู้ประกอบการจะไม่ได้ผลกระทบ สศอ.จึงได้ส่งสัญญาณเตือนและแนะผู้ประกอบการอย่างเป็นระยะตลอดมา ซึ่งผู้ประกอบการได้มีการรวมกลุ่มกันสร้างโครงข่ายการขนส่งหรือลอจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนทางการขนส่งอยู่แล้ว แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งน้ำมันแพงและภัยแล้ง ยังเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง สศอ.จะได้เร่งส่งสัญญาณเตือนความเสี่ยง ให้ภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบเกิดการตื่นตัว และพร้อมรับทุกความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมกล่าว
ที่มา : ฝ่ายช่วยอำนวยการและประชาสัมพันธ์ โทร 0-2202-4274
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-