นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2548 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาต ตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่องสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) เพื่อให้การประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลมีการดำเนินธุรกิจอยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และควบคุมมิให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงินของประเทศ สาระสำคัญของประกาศกระทรวงการคลัง มีดังต่อไปนี้
1. กำหนดให้การประกอบสินเชื่อส่วนบุคคลเฉพาะที่ไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกัน รวมถึงสินเชื่อที่เกิดจากการให้เช่าซื้อ และการให้เช่าซื้อแบบลีสซิ่งในสินค้าที่ผู้ประกอบธุรกิจมิได้จำหน่ายเป็นทางการค้าปกติ ยกเว้นในสินค้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงสินเชื่อเพื่อการศึกษา สินเชื่อเพื่อการเดินทางไปทำงาน ในต่างประเทศ สินเชื่อเพื่อรักษาพยาบาล สินเชื่อสวัสดิการพนักงานที่หน่วยงานต้นสังกัดได้มีการทำสัญญากับผู้ประกอบธุรกิจ และสินเชื่อตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด เป็นกิจการที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมตามประกาศฉบับนี้
2. กำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ สรุปได้ดังนี้
2.1 กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับต้องขออนุญาตประกอบกิจการ โดยยื่นคำขอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด
2.2 ผู้ประกอบธุรกิจต้องมีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
2.3 ผู้ประกอบธุรกิจต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการดำเนินงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด เช่น อัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใดๆ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บต้องไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยอัตราสูงสุดของดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใดๆ ดังกล่าวรวมกันแล้วต้องไม่เกินกว่าอัตราที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดและผู้ประกอบธุรกิจต้องระบุรายละเอียดค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายต่างๆ อันเนื่องจากสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ให้ชัดเจนครบถ้วนในเอกสารชี้ชวน ใบสมัคร และสัญญาตามแบบที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
3. สำหรับผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่ฝ่าฝืนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข หรือมีฐานะการเงินหรือดำเนินงานที่อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ของประชาชนอย่างร้ายแรง ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจนั้น แก้ไขการฝ่าฝืน หรือแก้ไขฐานะการเงิน หรือ การดำเนินงานให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด และให้รายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทราบโดยเร็ว
4. กำหนดบทเฉพาะกาลให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับอยู่ในวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ ถ้าประสงค์จะประกอบกิจการต่อไป ให้ยื่นขอรับอนุญาตภายใน 60 วัน และในกรณีผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วต่ำกว่า 50 ล้านบาท จะต้องเพิ่มทุนให้ครบภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 41/2548 10 มิถุนายน 48--
1. กำหนดให้การประกอบสินเชื่อส่วนบุคคลเฉพาะที่ไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกัน รวมถึงสินเชื่อที่เกิดจากการให้เช่าซื้อ และการให้เช่าซื้อแบบลีสซิ่งในสินค้าที่ผู้ประกอบธุรกิจมิได้จำหน่ายเป็นทางการค้าปกติ ยกเว้นในสินค้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงสินเชื่อเพื่อการศึกษา สินเชื่อเพื่อการเดินทางไปทำงาน ในต่างประเทศ สินเชื่อเพื่อรักษาพยาบาล สินเชื่อสวัสดิการพนักงานที่หน่วยงานต้นสังกัดได้มีการทำสัญญากับผู้ประกอบธุรกิจ และสินเชื่อตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด เป็นกิจการที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมตามประกาศฉบับนี้
2. กำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ สรุปได้ดังนี้
2.1 กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับต้องขออนุญาตประกอบกิจการ โดยยื่นคำขอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด
2.2 ผู้ประกอบธุรกิจต้องมีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
2.3 ผู้ประกอบธุรกิจต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการดำเนินงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด เช่น อัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใดๆ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บต้องไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยอัตราสูงสุดของดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใดๆ ดังกล่าวรวมกันแล้วต้องไม่เกินกว่าอัตราที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดและผู้ประกอบธุรกิจต้องระบุรายละเอียดค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายต่างๆ อันเนื่องจากสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ให้ชัดเจนครบถ้วนในเอกสารชี้ชวน ใบสมัคร และสัญญาตามแบบที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
3. สำหรับผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่ฝ่าฝืนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข หรือมีฐานะการเงินหรือดำเนินงานที่อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ของประชาชนอย่างร้ายแรง ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจนั้น แก้ไขการฝ่าฝืน หรือแก้ไขฐานะการเงิน หรือ การดำเนินงานให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด และให้รายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทราบโดยเร็ว
4. กำหนดบทเฉพาะกาลให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับอยู่ในวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ ถ้าประสงค์จะประกอบกิจการต่อไป ให้ยื่นขอรับอนุญาตภายใน 60 วัน และในกรณีผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วต่ำกว่า 50 ล้านบาท จะต้องเพิ่มทุนให้ครบภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 41/2548 10 มิถุนายน 48--