วันนี้(28 ธ.ค.48) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวผ่านรายการผู้นำฝ่ายค้านคุยกับประชาชนว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปดูสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ เพื่อไปไปช่วยเหลือและประสานงาน เพราะปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ 8 จังหวัด เป็นปัญหาภัยธรรมชาติปัญหาน้ำท่วมซึ่งหนักหนาสาหัสพอสมควร จากการที่ได้พบปะพูดคุยกับประชาชนในหลายพื้นที่ ต่างตอบตรงกันว่าค่อนข้างจะตรงกันว่าน้ำท่วมครั้งนี้หนักหนาสาหัสมาก
แล้วก็ผมเรียนให้พี่น้องประชาชนได้ทราบเลยว่าปัญหาก็ยังไม่หมดนะครับ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังคือจะเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเลหรือทะเลสาบ ก็จะมีปัญหาน้ำท่วมขังไปอีกเป็นนับ 10 วันครับ เพราะฉะนั้นในวันพรุ่งนี้ผมก็จะได้เดินทางไปอีกนะครับ คราวนี้ก็จะไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา และจังหวัดพัทลุงนะครับ โดยภาพรวมก็อยากจะเรียนครับว่าที่ได้เดินทางไปก็ยังมีประชาชนนะครับยังประสบกับปัญหาก็คือว่าน้ำท่วมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ต้องมานอนกันบนเต้นท์ซึ่งกางตามถนนหนทางต่าง ๆ ตามเส้นทางที่ผมเดินทางไปนี่แหละครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จัดโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและในหลายพื้นที่น้ำที่มาในลักษณะของน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาก็ทำให้เกิดความเสียหายค่อนข้างรุนแรงนะครับ ถนนหลายสายที่เราไปเนี่ยขาด หรือว่ามีสะพานขาด แม่น้ำลำคลองเปลี่ยนเส้นทางไปเลยนะครับหลังจากที่น้ำบนเขาไหลลงมานะครับ แล้วก็ในบางพื้นที่ที่ถูกตัดขาดด้วย มีโคลนหรือมีทรายมาถมทับบ้านเรือนต่าง ๆ ประชาชนก็มีความยากลำบากทีเดียวนะครับ ในช่วงที่ผมไปนั้นตอนนั้นก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าท่านนายกรัฐมนตรีไม่ได้บอกว่าอาจจะไม่ได้ไปตรวจเยี่ยมแต่ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องที่ดีครับที่ท่านนายกได้ตัดสินใจเปลี่ยนใจลงไปเพื่อพบปะพี่น้องประชาชนเพื่อพบเห็นด้วยตนเองนะครับ เพราะว่าผมก็สังเกตจากก่อนหน้าที่ท่านนายกฯ ลงไปเนี่ยว่าการรายงานของราชการจะไปเน้นหนักในที่ตัวเมืองหาดใหญ่นะครับแล้วก็อาจจะพื้นที่รอบ ๆ พูดถึงจังหวัดสงขลาบ้างแต่จริง ๆ อีกหลาย ๆ จังหวัดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นนครศรีธรรมราช พัทลุง ไม่ว่าจะเป็นปัตตานี วันที่ผมไปน้ำยังท่วมขังสูงมากในตัวเมืองเลย ก็มักจะไม่ได้มีการพูดกันหรือที่ยะลา ที่บันนังสตา มีโคลนทรายลงมาทับถมบ้านเรือนอะไรต่าง ๆ นะครับเพราะฉะนั้นเมื่อนายกลงไปก็ดูว่ามีการสั่งการ ดูว่ามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามความช่วยเหลือนั้นเนี่ยผมอยากเรียนให้ทราบว่าก็ยังคงจะมีประเด็นปัญหาในเชิงนโยบายที่อยากจะให้รัฐบาลได้ติดตามอย่างต่อเนื่องนะครับ เช่นการช่วยเหลือชดเชยความเสียหายต่าง ๆ ตามระเบียบซึ่งผมเข้าใจว่าใช้มาเกือบ 20 ปีแล้ว อัตราการชดเชยมันไม่เพียงพอกับความเสียหายที่เกิดขึ้นนะครับ เพราะฉะนั้นผมยกตัวอย่างเช่นพี่น้องประชาชนที่บ้านเรือนถูกซัดหายไปเลย เสียไปเลยเนี่ยจะได้รับชดเชยเพียงแค่ 30,000 บาทอย่างนี้เป็นต้นนะครับ ก็อยากให้รัฐบาลเนี่ยได้ดำเนินการแก้ไขระเบียบต่าง ๆ นะครับ เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือต่าง ๆ อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครับเมื่อหลังจากที่น้ำเริ่มลดแล้วการกลับไปฟื้นฟูที่อยู่อาศัย ทั้งอาชีพ การดูแลโรคภัยไข้เจ็บหลังน้ำลดเนี่ย เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันดูแลให้ทางส่วนราชการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องจึงจะทำให้เราสามารถที่จะบรรเทาทุกข์บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนของพวกเราในภาคใต้ ซึ่งประสบกับปัญหามากมาย
มีประเด็นซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องแปลกใหม่ก็คือว่าทางรัฐบาลโดยเฉพาะท่านนายกฯ ก็ได้พูดถึงนโยบายของรัฐเกี่ยวกับเรื่องของการบริจาคโดยเมื่อวันอังคารที่แล้วในสัปดาห์ที่แล้วตอนแรกก็จะมีการจัดรายการ พี่น้องประชาชนคงนึกออกเมื่อก่อนนี้พอมีภัยพิบัติต่าง ๆ เขาก็มักจะจัดรายการพิเศษกันทางโทรทัศน์มีกิจกรรมต่าง ๆ แล้วก็ชักชวนให้คนบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ ปรากฎว่าครั้งนี้ทางรัฐบาลได้สั่งงด สั่งระงับ และต่อมาท่านนายกฯ เองก็ได้พูดว่ารัฐบาลจะไม่มีนโยบายทำเรื่องเหล่านี้ ที่จริงเหตุผลของทางรัฐบาลที่พูดว่าไม่อยากให้เกิดสภาพของการบังคับหรือไปกดดันอะไรต่าง ๆ ผมเข้าใจว่าจริง ๆ แล้วเราก็คงไม่อยากจะเห็นสภาพของการไปกดดันหรือไปบังคับนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะย้ำก็คือว่าเรื่องของการบริจาคเรื่องของการช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติในกรณีที่ประสบกับภัยพิบัติต่าง ๆ มันเป็นเรื่องของการแสดงน้ำใจ และก็จุดแข็งของสังคมไทย ของประเทศไทย ของคนไทยที่ได้รับการยอมรับกันทั่วโลกก็คือความมีน้ำใจของพี่น้องประชาชนที่มีให้แก่กัน แล้วก็การบริจาคเนี่ย เรียนตามตรงถ้าหากว่าทางรัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการประสานงานช่วยเหลือนะครับก็จะทำให้การระดมกำลังของภาคเอกชน หรือของประชาชนโดยทั่ว ๆ ไป สามารถไปถึงพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้กระทั่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผมเรียนให้ทราบว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เราตั้งศูนย์รับบริจาคอยู่ที่ที่ทำการพรรค พี่น้องประชาชนที่ยังอยากจะช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วมก็ยังสามารถที่จะติดต่อสอบถามแสดงความจำนงไปที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-2700036 นะครับ และผมก็ถือโอกาสนี้ขอบพระคุณพี่น้องประชาชนครับ ที่เป็นทั้งประชาชนทั่วไป บริษัท ห้างร้าน มูลนิธิ สมาคมต่าง ๆ ในช่วงสัปดาห์กว่า ๆ เกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมายังแสดงความจำนงในการที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง มีหลากหลายมากครับตั้งแต่เด็ก ๆ ที่มาบริจาคเงิน 200 — 300 ไปจนถึงมูลนิธิ สมาคมต่าง ๆ ซึ่งอาจจะให้เงินมาเป็นหลักแสน ซึ่งขณะนี้รวมกันแล้วก็เป็นเงินหลักล้านนะครับ แล้วก็เราก็ได้จัดรถในการขนส่งในช่วงต้นก็จะเป็นเรื่องของข้าวสารอาหารแห้ง ตอนนี้ก็จะเป็นเรื่องของหยูกยา ตามไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องขอขอบพระคุณและก็ชื่นชมพี่น้องประชาชนที่ได้ทำเรื่องนี้
เรียนให้ทราบว่าตอนที่ไปเยี่ยมแล้วผมคิดว่าตอนท่านนายกฯ ไปเยี่ยมจะเห็นได้ชัดครับเรื่องของกำลังใจ เรื่องของน้ำใจมันมีความสำคัญไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าข้าวของหรือวัตถุต่าง ๆ ที่ไปช่วย เพราะฉะนั้นจริง ๆ แล้วก็ยังอยากจะให้รัฐบาลได้ทบทวนท่าทีตรงนี้ด้วย เพราะว่าจริง ๆ แล้วถ้าหากว่าเราสามารถที่จะระดมกำลังกันประสานกันนะครับถึงแม้ราชการจะมีงบช่วยเหลือไปแล้วแต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประชาชนจะได้รับความช่วยเหลือได้รับความบรรเทาทุกข์ ได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น การระดมความช่วยเหลืออะไรต่าง ๆ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันบางพื้นที่โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดบางทีก็ยังเต็มไปด้วยความยากลำบากเพราะว่ารถราที่จะหาไปก็ไม่ง่าย แต่อย่างไรก็ตามอันนี้ก็เป็นเรื่องซึ่งอยากจะขอให้ทางรัฐบาลได้ทบทวนท่าที ก็พอดีในช่วยจังหวะนี้แหละครับก็เป็นช่วงที่เราก็ย้อนระลึกถึงกรณีของสึนามิ หรือธรณีพิบัติซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วนะครับ ในวันที่ 26 ธันวาคม ปีที่แล้ว ตอนนี้ก็ผ่านมาเป็นเวลา 1 ปี รัฐบาลก็ได้มีการจัดงานระลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งผมก็คิดว่าโอกาสครบ 1 ปีก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ร่วมรำลึกถึงทั้งความสูญเสีย แสดงความเสียใจกับครอบครัวกับผู้ที่ต้องสูญเสียบุคคลกับเหตุการณ์วันนั้น แล้วขณะเดียวกันก็เป็นการระลึกถึงสิ่งที่เป็นปรากฎการณ์ที่ชาวโลกยอมรับก็คือน้ำใจของพี่น้องไทย และความเสียสละของพี่น้องคนไทยและชาวต่างประเทศที่ได้มาช่วยในหลายด้านด้วยกัน อย่างไรก็ตามเรื่องของสึนามินั้นทางพรรคซึ่งมีทั้งส.ส.และผู้บริหารเช่นท่านรองหัวหน้าจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ก็ได้มีการติดตามในเรื่องของการฟื้นฟู หลังจากเกิดภัยพิบัติก็ยังมีประเด็นที่อยากจะให้รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเช่น การช่วยเหลือนั้นแม้กระทั่งปัญหาเรื่องของเงินชดเชย ก็ยังไม่ได้มีความราบรื่นเสียทั้งหมด มีปัญหาข้อโต้แย้งกันอยู่ว่าครอบคลุมทั่วถึงหรือยัง มีพี่น้องประชาชนที่ยังอยู่ในที่อยู่อาศัยที่เป็นบ้านชั่วคราว เพราะว่าที่พักอาศัยก็ยังก่อสร้างไม่เสร็จนะครับที่เสร็จแล้วหรือที่ยังไม่เสร็จก็ยังมีปัญหาในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน จะเป็นน้ำ ไฟ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ แน่นอนที่สุดครับเรื่องอาชีพ การฟื้นฟูเรื่องจิตใจ การฟื้นฟูเรื่องการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจังหวัดอื่นคือภูเก็ตกระเตื้องขึ้นมาบ้าง แต่ว่าพังงา กระบี่ก็ยังมีปัญหาอยู่มากทีเดียว เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องเร่งรัด รวมไปถึงระบบเตือนภัย ซึ่งก็เสร็จไปเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ยังเป็นภาระหน้าที่ที่สำคัญที่ทุกฝ่ายก็ยังคงต้องช่วยกันเร่งรัดติดตามให้เกิดขึ้น และก็เช่นเดียวกันนะครับเราจะเห็นว่าในโอกาสครบรอบ 1 ปี เราจะเห็นว่ามันมีองค์กรเอกชนทั่วโลกนะครับซึ่งเขาได้ระดมเงินบริจาคมาแต่ว่าเหมือนกรณีของประเทศไทยผลปรากฎว่าท่านนายกทักษิณ นั้นไปปฏิเสธความช่วยเหลือจากต่างชาติซึ่งความจริงน้ำใจและก็โอกาสที่พี่น้องที่ประสบภัยพึงจะได้รับก็จะไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่ประสบภัยจะเป็นอินโดนีเซีย หรือจะเป็นที่อื่น ๆ ก็มองดูแล้วก็อยากจะให้รัฐบาลทบทวนในเรื่องนี้ บางทีผมคิดว่าอาจจะไปเข้าใจผิดที่ได้บอกว่าไม่เปิดรับบริจาคจะเป็นภายในประเทศ หรือต่างประเทศก็ตาม เพื่อที่จะแสดงเพียงว่าเรามีเงินแล้วหรือว่ารัฐบาลมีงบประมาณจริง ๆ มันไม่ใช่นะครับ จริง ๆ แล้วผมคิดว่าในยุคสมัยนี้แม้แต่ประเทศที่เขาเจริญแล้วเป็นมหาอำนาจมากที่สุดเขาก็ไม่ปฏิเสธสิ่งเหล่านี้เพราะว่าส่วนหนึ่งแน่นอนครับถึงจะมีกลไกรัฐที่สมบูรณ์อย่างไรแต่ก็ยังขาดตกบกพร่องหรือไม่อาจช่วยเหลือได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว และก็ที่สำคัญไปกว่านั้นก็อย่างที่ผมบอกก็คือว่าเรื่องของคุณค่าของน้ำใจที่มีให้กันต่อกันยังเป็นสิ่งสำคัญในสังคมไทยและสังคมโลก
วันนี้จะเป็นวันที่ผมจะได้จัดรายการเป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้นะครับ เพราะฉะนั้นก็จะเป็นโอกาสดีเหมือนกันครับที่จะบอกว่า ทบทวน 1 ปีที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสมาทำหน้าที่ ได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรในเดือนเมษายน นะครับจนถึงวันนี้ก็ทำหน้าที่มาเกือบจะครบ 1 ปี อาจจะขาดไป 3 — 4 เดือน เอาว่ากว่าครึ่งปีก็ขอเรียนว่าได้เดินหน้าทำให้พรรคฝ่ายค้านและกลไกของการทำหน้าที่ของเสียงข้างน้อยในฝ่ายนิติบัญญัตินั้นเป็นกระบวนการที่ผมต้องการให้เห็นว่ามีคุณค่า มีคุณภาพ มีมาตรฐาน การตรวจสอบยืนอยู่บนหลักการของเหตุผลของข้อเท็จจริง การตรวจสอบควบคู่ไปกับการวิจารณ์การเสนอแนะ ขณะเดียวกันในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง ปีที่ผ่านมาก็เป็นปีที่เราได้เริ่มต้นในแนวทางซึ่งบ่งบอกถึงอนาคตของพรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดสมัชชาประชาชน ซึ่งจะมีการทำต่อเนื่องไปในปีหน้า เช่นเดียวกับการจัดตั้งสำนักกิจการเยาวชน ซึ่งจะมีกิจกรรมใหม่ ๆ ออกมาเพื่อระดมให้เยาวชน คนหนุ่ม คนสาว ได้หันมาสนใจเรื่องของส่วนรวม หรือเรื่องของการเมืองและทำกิจกรรมร่วมกันมากยิ่งขึ้น
ในปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกันขอเรียนว่า เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะได้กลับไปทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นในปี 2548 ที่ทำให้รัฐบาลซึ่งได้รับการเลือกตั้งมาด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นต้องมาเผชิญกับปัญหาการวิพากษ์วิจารณ์การเผชิญหน้ากับหลาย ๆ ฝ่ายของสังคมอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งผมก็เรียนว่าเมื่อมองไปข้างหน้าก็ได้แนะรัฐบาลแนะทางท่านนายกฯ ว่าถ้าอยากจะบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประสิทธิภาพสิ่งสำคัญก็คือเรื่องของความเชื่อถือ ความเชื่อมั่น ความยอมรับ เงื่อนไขสำคัญซึ่งสดับตรับฟังมาตลอดปี 48 ที่ยังเป็นปัญหาอยู่คือ
1. เรื่องของปัญหาเศรษฐกิจ เศรษฐกิจของชาวบ้านนี่แหละครับ ข้าวของแพง ปัญหาที่ 2. เรื่องของสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งเวลามีการปิดกั้น เวลามีการไปก้าวล้ำในส่วนของการทำหน้าที่ของสื่อ การปิดกั้นไม่ให้เกิดการวิจารณ์แล้วจะเห็นได้ว่าความอึดอัดในสังคม ความรุนแรง ขัดแย้งในสังคมมันจะมีมากขึ้น และก็แน่นอนที่สุดเงื่อนไขที่ 3 คือการทุจริตคอรัปชั่นซึ่งประชาชนอยากจะเห็นความเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลามีการกล่าวหาว่ามีความไม่ชอบมาพากลในโครงการต่าง ๆ แล้วเกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาลมีเอกสารมีหลักฐานอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่างกรณีของ CTX อยากเห็นรัฐบาลได้ขยับอย่างจริงจัง เดินหน้า ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องผ่านไปหรือหายไป ผมคิดว่าถ้าหากรัฐบาลและท่านนายกฯ พยายามที่จะคลายเงื่อนไขเหล่านี้ก็จะทำให้ปีหน้า ปี2549 จะเป็นปีที่หลายสิ่งหลายอย่างก็จะดีขึ้นมา ถ้าคลายเงื่อนไขเหล่านี้ได้
ในส่วนของผมครับ และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคฝ่ายค้าน ปี 2549 เป็นปีที่มีความหมายเป็นปีมงคลอย่างยิ่งของพี่น้องชาวไทย เพราะว่าเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปีเพราะฉะนั้นพวกผมก็ขอตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า สิ่งที่เป็นหน้าที่ของเราคือเสียงข้างน้อยฝ่ายตรวจสอบนั้น เราจะทำอย่างเข้มแข็ง เข้มข้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม ขณะเดียวกันงานที่เป็นงานที่ผมได้ริเริ่มไว้ในปีนี้มีการสานต่อ นอกจากนั้นครับฝ่ายค้านก็จะได้เดินหน้าในการแสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วสังคมมีทางเลือก 2549 ก็จะเป็นปีที่เราจะแสดงออกถึงทัศนะถึงมุมมองซึ่งก็รวมไปถึงเรื่องของนโยบายที่เป็นความแตกต่างระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้สังคมนั้นมองเห็นว่าในหลาย ๆ เรื่องนั้นมีทางเลือก ผมจะเริ่มต้นจากเรื่องของรัฐวิสาหกิจซึ่งก็จะมีการออกทั้งเอกสารที่พูดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปฏิรูปในปัจจุบันในรูปแบบที่เอา กฟผ. เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วก็ขณะเดียวกันก็จะมีอีกฉบับหนึ่งออกมาตามออกมาว่าแนวทางของการพัฒนารัฐวิสาหกิจเป็นอย่างไร ก็เรียนให้ทราบว่านั่นคือแนวทางที่เราจะได้เดินหน้าทำต่อไปเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสังคมมีทางเลือก สังคมมีทางออก
ในอีกนาที 2 นาทีสุดท้ายผมก็อยากจะถือโอกาสนี้ครับว่า เรากำลังจะเข้าสู่วาระของปีใหม่ ปีใหม่นี้ก็เป็นปีใหม่ที่ผมทราบดีว่าจะเป็นปีที่พี่น้องประชาชนรอคอยในเรื่องของการเฉลิมฉลองวาระอันเป็นมงคลที่ผมได้กล่าวไปแล้ว ขณะเดียวกันในชีวิตจริงของเราก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เรามองไปข้างหน้าเศรษฐกิจของโลกมีแนวโน้มดีขึ้นแต่ก็มีเงื่อนไขหลายตัว ซึ่งทำให้พวกเราต้องระมัดระวัง ก็คือปัญหาเรื่องค่าไฟ เรื่องของดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือว่าเราคงจะต้องใช้จ่ายหรือวางแผนการใช้ชีวิตด้วยความรอบคอบด้วยความระมัดระวัง และแนวพระราชดำริในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงปรัชญาในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นหลักสำคัญเลยครับที่ทำให้เราฟันฝ่าต่าง ๆ
ในโอกาสปีใหม่ผมก็ถือโอกาสนี้อวยพรให้พี่น้องประชาชน ท่านผู้ฟังมีความเข้มแข็งในการที่จะฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ และขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ประชาชนและท่านผู้ฟังเคารพนับถือได้ดลบันดานให้ทุก ๆ ท่านมีความสุข มีความเจริญ มีความก้าวหน้า ทั้งในอาชีพการงาน และมีชีวิตครอบครัว ชีวิตส่วนตัวที่มีข มีความอบอุ่นตลอดปี พ.ศ.2549 และตลอดไปครับ
วันนี้ก็คงได้เวลาที่จะลาคุณผู้ฟังไปอีกครั้งหนึ่ง สัปดาห์หน้าปีหน้ากลับมาพบกับใหม่ในรายการนี้ครับ ผมอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรครับ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 28 ธ.ค. 2548--จบ--
แล้วก็ผมเรียนให้พี่น้องประชาชนได้ทราบเลยว่าปัญหาก็ยังไม่หมดนะครับ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังคือจะเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเลหรือทะเลสาบ ก็จะมีปัญหาน้ำท่วมขังไปอีกเป็นนับ 10 วันครับ เพราะฉะนั้นในวันพรุ่งนี้ผมก็จะได้เดินทางไปอีกนะครับ คราวนี้ก็จะไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา และจังหวัดพัทลุงนะครับ โดยภาพรวมก็อยากจะเรียนครับว่าที่ได้เดินทางไปก็ยังมีประชาชนนะครับยังประสบกับปัญหาก็คือว่าน้ำท่วมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ต้องมานอนกันบนเต้นท์ซึ่งกางตามถนนหนทางต่าง ๆ ตามเส้นทางที่ผมเดินทางไปนี่แหละครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จัดโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและในหลายพื้นที่น้ำที่มาในลักษณะของน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาก็ทำให้เกิดความเสียหายค่อนข้างรุนแรงนะครับ ถนนหลายสายที่เราไปเนี่ยขาด หรือว่ามีสะพานขาด แม่น้ำลำคลองเปลี่ยนเส้นทางไปเลยนะครับหลังจากที่น้ำบนเขาไหลลงมานะครับ แล้วก็ในบางพื้นที่ที่ถูกตัดขาดด้วย มีโคลนหรือมีทรายมาถมทับบ้านเรือนต่าง ๆ ประชาชนก็มีความยากลำบากทีเดียวนะครับ ในช่วงที่ผมไปนั้นตอนนั้นก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าท่านนายกรัฐมนตรีไม่ได้บอกว่าอาจจะไม่ได้ไปตรวจเยี่ยมแต่ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องที่ดีครับที่ท่านนายกได้ตัดสินใจเปลี่ยนใจลงไปเพื่อพบปะพี่น้องประชาชนเพื่อพบเห็นด้วยตนเองนะครับ เพราะว่าผมก็สังเกตจากก่อนหน้าที่ท่านนายกฯ ลงไปเนี่ยว่าการรายงานของราชการจะไปเน้นหนักในที่ตัวเมืองหาดใหญ่นะครับแล้วก็อาจจะพื้นที่รอบ ๆ พูดถึงจังหวัดสงขลาบ้างแต่จริง ๆ อีกหลาย ๆ จังหวัดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นนครศรีธรรมราช พัทลุง ไม่ว่าจะเป็นปัตตานี วันที่ผมไปน้ำยังท่วมขังสูงมากในตัวเมืองเลย ก็มักจะไม่ได้มีการพูดกันหรือที่ยะลา ที่บันนังสตา มีโคลนทรายลงมาทับถมบ้านเรือนอะไรต่าง ๆ นะครับเพราะฉะนั้นเมื่อนายกลงไปก็ดูว่ามีการสั่งการ ดูว่ามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามความช่วยเหลือนั้นเนี่ยผมอยากเรียนให้ทราบว่าก็ยังคงจะมีประเด็นปัญหาในเชิงนโยบายที่อยากจะให้รัฐบาลได้ติดตามอย่างต่อเนื่องนะครับ เช่นการช่วยเหลือชดเชยความเสียหายต่าง ๆ ตามระเบียบซึ่งผมเข้าใจว่าใช้มาเกือบ 20 ปีแล้ว อัตราการชดเชยมันไม่เพียงพอกับความเสียหายที่เกิดขึ้นนะครับ เพราะฉะนั้นผมยกตัวอย่างเช่นพี่น้องประชาชนที่บ้านเรือนถูกซัดหายไปเลย เสียไปเลยเนี่ยจะได้รับชดเชยเพียงแค่ 30,000 บาทอย่างนี้เป็นต้นนะครับ ก็อยากให้รัฐบาลเนี่ยได้ดำเนินการแก้ไขระเบียบต่าง ๆ นะครับ เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือต่าง ๆ อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครับเมื่อหลังจากที่น้ำเริ่มลดแล้วการกลับไปฟื้นฟูที่อยู่อาศัย ทั้งอาชีพ การดูแลโรคภัยไข้เจ็บหลังน้ำลดเนี่ย เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันดูแลให้ทางส่วนราชการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องจึงจะทำให้เราสามารถที่จะบรรเทาทุกข์บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนของพวกเราในภาคใต้ ซึ่งประสบกับปัญหามากมาย
มีประเด็นซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องแปลกใหม่ก็คือว่าทางรัฐบาลโดยเฉพาะท่านนายกฯ ก็ได้พูดถึงนโยบายของรัฐเกี่ยวกับเรื่องของการบริจาคโดยเมื่อวันอังคารที่แล้วในสัปดาห์ที่แล้วตอนแรกก็จะมีการจัดรายการ พี่น้องประชาชนคงนึกออกเมื่อก่อนนี้พอมีภัยพิบัติต่าง ๆ เขาก็มักจะจัดรายการพิเศษกันทางโทรทัศน์มีกิจกรรมต่าง ๆ แล้วก็ชักชวนให้คนบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ ปรากฎว่าครั้งนี้ทางรัฐบาลได้สั่งงด สั่งระงับ และต่อมาท่านนายกฯ เองก็ได้พูดว่ารัฐบาลจะไม่มีนโยบายทำเรื่องเหล่านี้ ที่จริงเหตุผลของทางรัฐบาลที่พูดว่าไม่อยากให้เกิดสภาพของการบังคับหรือไปกดดันอะไรต่าง ๆ ผมเข้าใจว่าจริง ๆ แล้วเราก็คงไม่อยากจะเห็นสภาพของการไปกดดันหรือไปบังคับนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะย้ำก็คือว่าเรื่องของการบริจาคเรื่องของการช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติในกรณีที่ประสบกับภัยพิบัติต่าง ๆ มันเป็นเรื่องของการแสดงน้ำใจ และก็จุดแข็งของสังคมไทย ของประเทศไทย ของคนไทยที่ได้รับการยอมรับกันทั่วโลกก็คือความมีน้ำใจของพี่น้องประชาชนที่มีให้แก่กัน แล้วก็การบริจาคเนี่ย เรียนตามตรงถ้าหากว่าทางรัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการประสานงานช่วยเหลือนะครับก็จะทำให้การระดมกำลังของภาคเอกชน หรือของประชาชนโดยทั่ว ๆ ไป สามารถไปถึงพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้กระทั่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผมเรียนให้ทราบว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เราตั้งศูนย์รับบริจาคอยู่ที่ที่ทำการพรรค พี่น้องประชาชนที่ยังอยากจะช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วมก็ยังสามารถที่จะติดต่อสอบถามแสดงความจำนงไปที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-2700036 นะครับ และผมก็ถือโอกาสนี้ขอบพระคุณพี่น้องประชาชนครับ ที่เป็นทั้งประชาชนทั่วไป บริษัท ห้างร้าน มูลนิธิ สมาคมต่าง ๆ ในช่วงสัปดาห์กว่า ๆ เกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมายังแสดงความจำนงในการที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง มีหลากหลายมากครับตั้งแต่เด็ก ๆ ที่มาบริจาคเงิน 200 — 300 ไปจนถึงมูลนิธิ สมาคมต่าง ๆ ซึ่งอาจจะให้เงินมาเป็นหลักแสน ซึ่งขณะนี้รวมกันแล้วก็เป็นเงินหลักล้านนะครับ แล้วก็เราก็ได้จัดรถในการขนส่งในช่วงต้นก็จะเป็นเรื่องของข้าวสารอาหารแห้ง ตอนนี้ก็จะเป็นเรื่องของหยูกยา ตามไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องขอขอบพระคุณและก็ชื่นชมพี่น้องประชาชนที่ได้ทำเรื่องนี้
เรียนให้ทราบว่าตอนที่ไปเยี่ยมแล้วผมคิดว่าตอนท่านนายกฯ ไปเยี่ยมจะเห็นได้ชัดครับเรื่องของกำลังใจ เรื่องของน้ำใจมันมีความสำคัญไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าข้าวของหรือวัตถุต่าง ๆ ที่ไปช่วย เพราะฉะนั้นจริง ๆ แล้วก็ยังอยากจะให้รัฐบาลได้ทบทวนท่าทีตรงนี้ด้วย เพราะว่าจริง ๆ แล้วถ้าหากว่าเราสามารถที่จะระดมกำลังกันประสานกันนะครับถึงแม้ราชการจะมีงบช่วยเหลือไปแล้วแต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประชาชนจะได้รับความช่วยเหลือได้รับความบรรเทาทุกข์ ได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น การระดมความช่วยเหลืออะไรต่าง ๆ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันบางพื้นที่โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดบางทีก็ยังเต็มไปด้วยความยากลำบากเพราะว่ารถราที่จะหาไปก็ไม่ง่าย แต่อย่างไรก็ตามอันนี้ก็เป็นเรื่องซึ่งอยากจะขอให้ทางรัฐบาลได้ทบทวนท่าที ก็พอดีในช่วยจังหวะนี้แหละครับก็เป็นช่วงที่เราก็ย้อนระลึกถึงกรณีของสึนามิ หรือธรณีพิบัติซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วนะครับ ในวันที่ 26 ธันวาคม ปีที่แล้ว ตอนนี้ก็ผ่านมาเป็นเวลา 1 ปี รัฐบาลก็ได้มีการจัดงานระลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งผมก็คิดว่าโอกาสครบ 1 ปีก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ร่วมรำลึกถึงทั้งความสูญเสีย แสดงความเสียใจกับครอบครัวกับผู้ที่ต้องสูญเสียบุคคลกับเหตุการณ์วันนั้น แล้วขณะเดียวกันก็เป็นการระลึกถึงสิ่งที่เป็นปรากฎการณ์ที่ชาวโลกยอมรับก็คือน้ำใจของพี่น้องไทย และความเสียสละของพี่น้องคนไทยและชาวต่างประเทศที่ได้มาช่วยในหลายด้านด้วยกัน อย่างไรก็ตามเรื่องของสึนามินั้นทางพรรคซึ่งมีทั้งส.ส.และผู้บริหารเช่นท่านรองหัวหน้าจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ก็ได้มีการติดตามในเรื่องของการฟื้นฟู หลังจากเกิดภัยพิบัติก็ยังมีประเด็นที่อยากจะให้รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเช่น การช่วยเหลือนั้นแม้กระทั่งปัญหาเรื่องของเงินชดเชย ก็ยังไม่ได้มีความราบรื่นเสียทั้งหมด มีปัญหาข้อโต้แย้งกันอยู่ว่าครอบคลุมทั่วถึงหรือยัง มีพี่น้องประชาชนที่ยังอยู่ในที่อยู่อาศัยที่เป็นบ้านชั่วคราว เพราะว่าที่พักอาศัยก็ยังก่อสร้างไม่เสร็จนะครับที่เสร็จแล้วหรือที่ยังไม่เสร็จก็ยังมีปัญหาในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน จะเป็นน้ำ ไฟ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ แน่นอนที่สุดครับเรื่องอาชีพ การฟื้นฟูเรื่องจิตใจ การฟื้นฟูเรื่องการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจังหวัดอื่นคือภูเก็ตกระเตื้องขึ้นมาบ้าง แต่ว่าพังงา กระบี่ก็ยังมีปัญหาอยู่มากทีเดียว เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องเร่งรัด รวมไปถึงระบบเตือนภัย ซึ่งก็เสร็จไปเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ยังเป็นภาระหน้าที่ที่สำคัญที่ทุกฝ่ายก็ยังคงต้องช่วยกันเร่งรัดติดตามให้เกิดขึ้น และก็เช่นเดียวกันนะครับเราจะเห็นว่าในโอกาสครบรอบ 1 ปี เราจะเห็นว่ามันมีองค์กรเอกชนทั่วโลกนะครับซึ่งเขาได้ระดมเงินบริจาคมาแต่ว่าเหมือนกรณีของประเทศไทยผลปรากฎว่าท่านนายกทักษิณ นั้นไปปฏิเสธความช่วยเหลือจากต่างชาติซึ่งความจริงน้ำใจและก็โอกาสที่พี่น้องที่ประสบภัยพึงจะได้รับก็จะไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่ประสบภัยจะเป็นอินโดนีเซีย หรือจะเป็นที่อื่น ๆ ก็มองดูแล้วก็อยากจะให้รัฐบาลทบทวนในเรื่องนี้ บางทีผมคิดว่าอาจจะไปเข้าใจผิดที่ได้บอกว่าไม่เปิดรับบริจาคจะเป็นภายในประเทศ หรือต่างประเทศก็ตาม เพื่อที่จะแสดงเพียงว่าเรามีเงินแล้วหรือว่ารัฐบาลมีงบประมาณจริง ๆ มันไม่ใช่นะครับ จริง ๆ แล้วผมคิดว่าในยุคสมัยนี้แม้แต่ประเทศที่เขาเจริญแล้วเป็นมหาอำนาจมากที่สุดเขาก็ไม่ปฏิเสธสิ่งเหล่านี้เพราะว่าส่วนหนึ่งแน่นอนครับถึงจะมีกลไกรัฐที่สมบูรณ์อย่างไรแต่ก็ยังขาดตกบกพร่องหรือไม่อาจช่วยเหลือได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว และก็ที่สำคัญไปกว่านั้นก็อย่างที่ผมบอกก็คือว่าเรื่องของคุณค่าของน้ำใจที่มีให้กันต่อกันยังเป็นสิ่งสำคัญในสังคมไทยและสังคมโลก
วันนี้จะเป็นวันที่ผมจะได้จัดรายการเป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้นะครับ เพราะฉะนั้นก็จะเป็นโอกาสดีเหมือนกันครับที่จะบอกว่า ทบทวน 1 ปีที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสมาทำหน้าที่ ได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรในเดือนเมษายน นะครับจนถึงวันนี้ก็ทำหน้าที่มาเกือบจะครบ 1 ปี อาจจะขาดไป 3 — 4 เดือน เอาว่ากว่าครึ่งปีก็ขอเรียนว่าได้เดินหน้าทำให้พรรคฝ่ายค้านและกลไกของการทำหน้าที่ของเสียงข้างน้อยในฝ่ายนิติบัญญัตินั้นเป็นกระบวนการที่ผมต้องการให้เห็นว่ามีคุณค่า มีคุณภาพ มีมาตรฐาน การตรวจสอบยืนอยู่บนหลักการของเหตุผลของข้อเท็จจริง การตรวจสอบควบคู่ไปกับการวิจารณ์การเสนอแนะ ขณะเดียวกันในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง ปีที่ผ่านมาก็เป็นปีที่เราได้เริ่มต้นในแนวทางซึ่งบ่งบอกถึงอนาคตของพรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดสมัชชาประชาชน ซึ่งจะมีการทำต่อเนื่องไปในปีหน้า เช่นเดียวกับการจัดตั้งสำนักกิจการเยาวชน ซึ่งจะมีกิจกรรมใหม่ ๆ ออกมาเพื่อระดมให้เยาวชน คนหนุ่ม คนสาว ได้หันมาสนใจเรื่องของส่วนรวม หรือเรื่องของการเมืองและทำกิจกรรมร่วมกันมากยิ่งขึ้น
ในปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกันขอเรียนว่า เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะได้กลับไปทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นในปี 2548 ที่ทำให้รัฐบาลซึ่งได้รับการเลือกตั้งมาด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นต้องมาเผชิญกับปัญหาการวิพากษ์วิจารณ์การเผชิญหน้ากับหลาย ๆ ฝ่ายของสังคมอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งผมก็เรียนว่าเมื่อมองไปข้างหน้าก็ได้แนะรัฐบาลแนะทางท่านนายกฯ ว่าถ้าอยากจะบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประสิทธิภาพสิ่งสำคัญก็คือเรื่องของความเชื่อถือ ความเชื่อมั่น ความยอมรับ เงื่อนไขสำคัญซึ่งสดับตรับฟังมาตลอดปี 48 ที่ยังเป็นปัญหาอยู่คือ
1. เรื่องของปัญหาเศรษฐกิจ เศรษฐกิจของชาวบ้านนี่แหละครับ ข้าวของแพง ปัญหาที่ 2. เรื่องของสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งเวลามีการปิดกั้น เวลามีการไปก้าวล้ำในส่วนของการทำหน้าที่ของสื่อ การปิดกั้นไม่ให้เกิดการวิจารณ์แล้วจะเห็นได้ว่าความอึดอัดในสังคม ความรุนแรง ขัดแย้งในสังคมมันจะมีมากขึ้น และก็แน่นอนที่สุดเงื่อนไขที่ 3 คือการทุจริตคอรัปชั่นซึ่งประชาชนอยากจะเห็นความเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลามีการกล่าวหาว่ามีความไม่ชอบมาพากลในโครงการต่าง ๆ แล้วเกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาลมีเอกสารมีหลักฐานอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่างกรณีของ CTX อยากเห็นรัฐบาลได้ขยับอย่างจริงจัง เดินหน้า ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องผ่านไปหรือหายไป ผมคิดว่าถ้าหากรัฐบาลและท่านนายกฯ พยายามที่จะคลายเงื่อนไขเหล่านี้ก็จะทำให้ปีหน้า ปี2549 จะเป็นปีที่หลายสิ่งหลายอย่างก็จะดีขึ้นมา ถ้าคลายเงื่อนไขเหล่านี้ได้
ในส่วนของผมครับ และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคฝ่ายค้าน ปี 2549 เป็นปีที่มีความหมายเป็นปีมงคลอย่างยิ่งของพี่น้องชาวไทย เพราะว่าเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปีเพราะฉะนั้นพวกผมก็ขอตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า สิ่งที่เป็นหน้าที่ของเราคือเสียงข้างน้อยฝ่ายตรวจสอบนั้น เราจะทำอย่างเข้มแข็ง เข้มข้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม ขณะเดียวกันงานที่เป็นงานที่ผมได้ริเริ่มไว้ในปีนี้มีการสานต่อ นอกจากนั้นครับฝ่ายค้านก็จะได้เดินหน้าในการแสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วสังคมมีทางเลือก 2549 ก็จะเป็นปีที่เราจะแสดงออกถึงทัศนะถึงมุมมองซึ่งก็รวมไปถึงเรื่องของนโยบายที่เป็นความแตกต่างระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้สังคมนั้นมองเห็นว่าในหลาย ๆ เรื่องนั้นมีทางเลือก ผมจะเริ่มต้นจากเรื่องของรัฐวิสาหกิจซึ่งก็จะมีการออกทั้งเอกสารที่พูดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปฏิรูปในปัจจุบันในรูปแบบที่เอา กฟผ. เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วก็ขณะเดียวกันก็จะมีอีกฉบับหนึ่งออกมาตามออกมาว่าแนวทางของการพัฒนารัฐวิสาหกิจเป็นอย่างไร ก็เรียนให้ทราบว่านั่นคือแนวทางที่เราจะได้เดินหน้าทำต่อไปเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสังคมมีทางเลือก สังคมมีทางออก
ในอีกนาที 2 นาทีสุดท้ายผมก็อยากจะถือโอกาสนี้ครับว่า เรากำลังจะเข้าสู่วาระของปีใหม่ ปีใหม่นี้ก็เป็นปีใหม่ที่ผมทราบดีว่าจะเป็นปีที่พี่น้องประชาชนรอคอยในเรื่องของการเฉลิมฉลองวาระอันเป็นมงคลที่ผมได้กล่าวไปแล้ว ขณะเดียวกันในชีวิตจริงของเราก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เรามองไปข้างหน้าเศรษฐกิจของโลกมีแนวโน้มดีขึ้นแต่ก็มีเงื่อนไขหลายตัว ซึ่งทำให้พวกเราต้องระมัดระวัง ก็คือปัญหาเรื่องค่าไฟ เรื่องของดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือว่าเราคงจะต้องใช้จ่ายหรือวางแผนการใช้ชีวิตด้วยความรอบคอบด้วยความระมัดระวัง และแนวพระราชดำริในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงปรัชญาในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นหลักสำคัญเลยครับที่ทำให้เราฟันฝ่าต่าง ๆ
ในโอกาสปีใหม่ผมก็ถือโอกาสนี้อวยพรให้พี่น้องประชาชน ท่านผู้ฟังมีความเข้มแข็งในการที่จะฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ และขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ประชาชนและท่านผู้ฟังเคารพนับถือได้ดลบันดานให้ทุก ๆ ท่านมีความสุข มีความเจริญ มีความก้าวหน้า ทั้งในอาชีพการงาน และมีชีวิตครอบครัว ชีวิตส่วนตัวที่มีข มีความอบอุ่นตลอดปี พ.ศ.2549 และตลอดไปครับ
วันนี้ก็คงได้เวลาที่จะลาคุณผู้ฟังไปอีกครั้งหนึ่ง สัปดาห์หน้าปีหน้ากลับมาพบกับใหม่ในรายการนี้ครับ ผมอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรครับ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 28 ธ.ค. 2548--จบ--