นายสมชัย สัจจพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวง การคลัง กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าดำเนินการ ตรวจค้นบริษัทกรีนแพลนเนท 108 คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (บริษัท) และบริษัทร่วมรวย โอคาเน่ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด และจับกุม นายกิตติพงษ์ เมธาธรรม นางอัมพร วสุวัต กรรมการผู้จัดการและกรรมการบริษัทกรีนแพลนเนทฯ และนายธนกฤต ฉัตรทันนิเทศ กรรมการผู้จัดการบริษัทร่วมรวยฯ ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการ ฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 โดยบริษัทได้ดำเนินแผนการตลาดด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษ แจก รถยนต์ BENZ / Honda /Toyota หากต้องการเข้าร่วมกิจกรรมที่กล่าว จะต้องจ่ายค่าสมัครสมาชิก จำนวน 200 บาท และต้องซื้อสินค้าของบริษัท จำนวน 18,000 บาท หากสามารถหาสมาชิกใหม่มาเป็นเครือข่ายซื้อสินค้าของบริษัท จำนวน 18,000 บาท จะได้รับเงินค่าคอมมิชชั่น จำนวน 1,000 บาท และหากสามารถหาสมาชิกใหม่มาซื้อสินค้าของบริษัท จำนวน 18,000 บาท ได้ครบจำนวนรายตามที่บริษัทกำหนดจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นเงินปันผล หรือ รถยนต์ BENZ / Honda / Toyota นั้น
กระทรวงการคลังขอเรียนเตือนว่า ปัจจุบันมีบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจขายตรงในลักษณะ แชร์ลูกโซ่ โดยการรับสมัครสมาชิกเพื่อขายสินค้าประเภทต่างๆ ซึ่งต้องจ่ายค่าสมัครและค่าซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง โดยอ้างว่าจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราสูง แต่โดยข้อเท็จจริงบริษัทเหล่านี้ไม่มีวัตถุประสงค์ในการขายสินค้าเป็นหลัก แต่จะเน้นการให้หาสมาชิกรายใหม่เพื่อจะได้รับเงินค่าสมัครและค่าซื้อสินค้า และนำเงินที่ได้รับจากสมาชิกรายใหม่มาจ่ายเป็นผลประโยชน์ตอบแทนสมาชิกรายเดิมหมุนเวียนเป็นระบบลูกโซ่ต่อไปเรื่อยๆ พฤติกรรมที่กล่าวเป็นการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ ซึ่งนอกจากบริษัท กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้ซึ่งรับผิดชอบในการ ดำเนินงานของบริษัทจะต้องได้รับโทษแล้ว พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทซึ่งเป็นผู้ร่วมดำเนินการจะต้องได้รับโทษตามที่กล่าวด้วย ขณะนี้ บริษัทซึ่งประกอบธุรกิจขายตรงในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ได้ขยายตัวลุกลามไปดำเนินธุรกิจตามต่างจังหวัดทั่วประเทศ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อของบุคคลหรือบริษัทซึ่งมี พฤติการณ์ในลักษณะที่กล่าว และหากประชาชนผู้ใดได้รับความเสียหาย หรือถูกหลอกลวง หรือพบเห็น การกระทำ หรือมีข้อมูล เบาะแสของบุคคลหรือบริษัทในลักษณะที่กล่าว ขอให้ร้องเรียน แจ้งความ หรือร้องทุกข์ได้ที่
- กลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6 พญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2273-9021 ต่อ 2627-9 หรือ โทร. สายด่วนการเงินนอกระบบ หมายเลข 1359 หรือ ตู้ปณ.1359 ปณจ. บางรัก กรุงเทพฯ 10500 หรือ
- กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนสาทรเหนือ กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0-2233-0381 หรือ
- สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม 499 ถนนประชาชื่น เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0-2913-6789 ต่อ 2221 โทรสาร 0-2291-3777
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 15/2548 21 กุมภาพันธ์ 2548--
กระทรวงการคลังขอเรียนเตือนว่า ปัจจุบันมีบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจขายตรงในลักษณะ แชร์ลูกโซ่ โดยการรับสมัครสมาชิกเพื่อขายสินค้าประเภทต่างๆ ซึ่งต้องจ่ายค่าสมัครและค่าซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง โดยอ้างว่าจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราสูง แต่โดยข้อเท็จจริงบริษัทเหล่านี้ไม่มีวัตถุประสงค์ในการขายสินค้าเป็นหลัก แต่จะเน้นการให้หาสมาชิกรายใหม่เพื่อจะได้รับเงินค่าสมัครและค่าซื้อสินค้า และนำเงินที่ได้รับจากสมาชิกรายใหม่มาจ่ายเป็นผลประโยชน์ตอบแทนสมาชิกรายเดิมหมุนเวียนเป็นระบบลูกโซ่ต่อไปเรื่อยๆ พฤติกรรมที่กล่าวเป็นการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ ซึ่งนอกจากบริษัท กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้ซึ่งรับผิดชอบในการ ดำเนินงานของบริษัทจะต้องได้รับโทษแล้ว พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทซึ่งเป็นผู้ร่วมดำเนินการจะต้องได้รับโทษตามที่กล่าวด้วย ขณะนี้ บริษัทซึ่งประกอบธุรกิจขายตรงในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ได้ขยายตัวลุกลามไปดำเนินธุรกิจตามต่างจังหวัดทั่วประเทศ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อของบุคคลหรือบริษัทซึ่งมี พฤติการณ์ในลักษณะที่กล่าว และหากประชาชนผู้ใดได้รับความเสียหาย หรือถูกหลอกลวง หรือพบเห็น การกระทำ หรือมีข้อมูล เบาะแสของบุคคลหรือบริษัทในลักษณะที่กล่าว ขอให้ร้องเรียน แจ้งความ หรือร้องทุกข์ได้ที่
- กลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6 พญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2273-9021 ต่อ 2627-9 หรือ โทร. สายด่วนการเงินนอกระบบ หมายเลข 1359 หรือ ตู้ปณ.1359 ปณจ. บางรัก กรุงเทพฯ 10500 หรือ
- กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนสาทรเหนือ กรุงเทพฯ 10500 โทร. 0-2233-0381 หรือ
- สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม 499 ถนนประชาชื่น เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0-2913-6789 ต่อ 2221 โทรสาร 0-2291-3777
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 15/2548 21 กุมภาพันธ์ 2548--