กรุงเทพ--1 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวานนี้ (30 พ.ย. 48) นายสีหศักด์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศในฐานะประธานคณะ อนุกรรมการประชาสัมพันธ์มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลในพระบรมราชูปถัมภ์ ศาสตราจารย์นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ในฐานะรองประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ศาสตราจารย์นายแพทย์วิจารณ์ พานิช ประธานคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิชาการ ได้แถลงข่าวผลการตัดสินผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2548
ที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธานเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2548 ได้พิจารณาผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2548 จำนวน 46 ราย จาก 23 ประเทศ โดยคณะกรรมการมูลนิธิฯ มีมติตัดสินให้ศาสตราจารย์ ยูยีน โกลด์วาสเซ่อร์ (Professor Eugene Goldwasser, Ph.D.) ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ภาควิชาเคมี และอณูชีววิทยา มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกาเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2548 สาขาการแพทย์ และศาสตราจารย์นายแพทย์ ฮารัลด์ ซูร์ เฮาเซ่น (Professor Harald zur Hausen, MD.) ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ศูนย์วิจัยมะเร็ง เมือง ไฮเดลเบิร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2548 สาขาการสาธารณสุข
ศาสตราจารย์ ยูยีน โกลด์วาสเซ่อร์ ได้รับการตัดสินพระราชทานรางวัลจากผลงานการศึกษาค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับฮอร์โมน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 ศาสตราจารย์โกลด์วาสเซ่อร์ เชื่อว่ามีฮอร์โมนดังกล่าวอยู่ในกระแสเลือด โดยไตเป็นอวัยวะที่ทำการสร้าง ต่อมาในปี พ.ศ.2514 ศาสตราจารย์โกลวาสเซ่อร์ จึงสามารถแยกบริสุทธิ์ (purify) และศึกษาโครงสร้างของฮอร์โมนดังกล่าว ซึ่งเรียกว่า อีริโธรปัวอีติน (Erythropoietin) ได้จากเลือดของแกะที่มีสภาวะโลหิตจาง ต่อมาในปี พ.ศ.2520 เขาสามารถแยกบริสุทธิ์และจำแนกโครงสร้างทางเคมีของฮอร์โมนอีริโธรปัวอีตินในคนได้จากปัสสาวะของผู้ป่วยที่เป็นโรคโลหิตจางอะพลาสติค อันเป็นรากฐานนำไปสู่การโคลนนิ่งยีน และต่อมาด้วยเทคโนโลยีชีวภาพส่งผลให้มีการผลิตฮอร์โมนดังกล่าวในระดับอุตสาหกรรมเป็นยารักษาภาวะโลหิตจางในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังและผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างมากมายแพร่หลายทั่วโลก ช่วยให้ผู้ป่วยจำนวนนับล้านคน มีสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั่วโลก
ศาสตราจารย์นายแพทย์ ฮารัลด์ ซัวร์ เฮาเซ่น ได้รับการตัดสินพระราชทานรางวัลจากผลงานการที่เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญในสตรีทั่วโลก โดยพบบ่อยเป็นอันดับที่ 3 ของมะเร็งที่พบในสตรี ประมาณการว่ามีสตรีทั่วโลกเป็นมะเร็งปากมดลูกราว 500,000 คน ต่อปี และร้อยละ 80 เกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา
ศาสตราจารย์นายแพทย์ซัวร์ เฮาเซ่น ได้ให้ความสนใจและศึกษาวิจัย แพ็บพิลโลม่าไวรัสของคน (เอชพีวี) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นสาเหตุของหูด มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2513
ในปี พ.ศ.2519 ศาสตราจารย์นายแพทย์ซัวร์ เฮาเซ่น ได้ตั้งสมมติฐานว่าไวรัสหูดมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปากมดลูกในสตรี ซึ่งจากการศึกษาวิจัยต่อมาในปี พ.ศ.2523 ศาสตราจารย์นายแพทย์ซัวร์ เฮาเซ่น และคณะก็ได้พิสูจน์ว่าไวรัสหูด หรือ แพ็บพิลโลม่าไวรัสของคน (เอชพีวี) ชนิด เอชพีวี 16 และเอชพีวี 18 เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกในสตรีโดยการแยกไวรัสทั้งสองได้จากเนื้อมะเร็ง การค้นพบของศาสตราจารย์นายแพทย์ซัวร์ เฮาเซ่น ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง นำไปสู่การป้องกันและการรักษามะเร็งปากมดลูกที่ดีขึ้นและแพร่หลายทั่วโลก ลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกในสตรี และลดอัตราการตายจากโรคนี้ลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนำไปสู่การคิดค้นวัคซีนป้องกัน ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้ อันอาจนำไปสู่การขจัดโรคร้ายจากมะเร็งปากมดลูกให้หมดไปจากโลกได้ นับเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัยของมวลมนุษย์ทั่วโลก
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถจะเสด็จ พระราชดำเนินไปพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2548 ในวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2548 เวลา 17.30 น. ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จฯ แทนพระองค์ในการพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลพร้อมคู่สมรสในวันเดียวกัน ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เวลา 20.00 น.
“รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล” ในพระบรมราชูปถัมภ์ก่อตั้งขึ้นในวโรกาสเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก ครบ 100 ปี ในวันที่ 1 มกราคม 2535 ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธาน มอบรางวัลให้แก่บุคคลหรือองค์กรทั่วโลกที่มีผลงานดีเด่นเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ บุคคลหรือสถาบันทั่วไปสามารถเสนอชื่อและผลงานของบุคคลหรือองค์กรให้คณะกรรมการรางวัลนานาชาติมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลคัดเลือกเพื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลประจำปี ซึ่งมี 2 รางวัลคือด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข โดยรางวัลประกอบด้วย เหรียญรางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล รางวัลละ 50,000 เหรียญสหรัฐ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวานนี้ (30 พ.ย. 48) นายสีหศักด์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศในฐานะประธานคณะ อนุกรรมการประชาสัมพันธ์มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลในพระบรมราชูปถัมภ์ ศาสตราจารย์นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ในฐานะรองประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ศาสตราจารย์นายแพทย์วิจารณ์ พานิช ประธานคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิชาการ ได้แถลงข่าวผลการตัดสินผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2548
ที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธานเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2548 ได้พิจารณาผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2548 จำนวน 46 ราย จาก 23 ประเทศ โดยคณะกรรมการมูลนิธิฯ มีมติตัดสินให้ศาสตราจารย์ ยูยีน โกลด์วาสเซ่อร์ (Professor Eugene Goldwasser, Ph.D.) ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ภาควิชาเคมี และอณูชีววิทยา มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกาเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2548 สาขาการแพทย์ และศาสตราจารย์นายแพทย์ ฮารัลด์ ซูร์ เฮาเซ่น (Professor Harald zur Hausen, MD.) ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ศูนย์วิจัยมะเร็ง เมือง ไฮเดลเบิร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2548 สาขาการสาธารณสุข
ศาสตราจารย์ ยูยีน โกลด์วาสเซ่อร์ ได้รับการตัดสินพระราชทานรางวัลจากผลงานการศึกษาค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับฮอร์โมน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 ศาสตราจารย์โกลด์วาสเซ่อร์ เชื่อว่ามีฮอร์โมนดังกล่าวอยู่ในกระแสเลือด โดยไตเป็นอวัยวะที่ทำการสร้าง ต่อมาในปี พ.ศ.2514 ศาสตราจารย์โกลวาสเซ่อร์ จึงสามารถแยกบริสุทธิ์ (purify) และศึกษาโครงสร้างของฮอร์โมนดังกล่าว ซึ่งเรียกว่า อีริโธรปัวอีติน (Erythropoietin) ได้จากเลือดของแกะที่มีสภาวะโลหิตจาง ต่อมาในปี พ.ศ.2520 เขาสามารถแยกบริสุทธิ์และจำแนกโครงสร้างทางเคมีของฮอร์โมนอีริโธรปัวอีตินในคนได้จากปัสสาวะของผู้ป่วยที่เป็นโรคโลหิตจางอะพลาสติค อันเป็นรากฐานนำไปสู่การโคลนนิ่งยีน และต่อมาด้วยเทคโนโลยีชีวภาพส่งผลให้มีการผลิตฮอร์โมนดังกล่าวในระดับอุตสาหกรรมเป็นยารักษาภาวะโลหิตจางในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังและผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างมากมายแพร่หลายทั่วโลก ช่วยให้ผู้ป่วยจำนวนนับล้านคน มีสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั่วโลก
ศาสตราจารย์นายแพทย์ ฮารัลด์ ซัวร์ เฮาเซ่น ได้รับการตัดสินพระราชทานรางวัลจากผลงานการที่เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญในสตรีทั่วโลก โดยพบบ่อยเป็นอันดับที่ 3 ของมะเร็งที่พบในสตรี ประมาณการว่ามีสตรีทั่วโลกเป็นมะเร็งปากมดลูกราว 500,000 คน ต่อปี และร้อยละ 80 เกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา
ศาสตราจารย์นายแพทย์ซัวร์ เฮาเซ่น ได้ให้ความสนใจและศึกษาวิจัย แพ็บพิลโลม่าไวรัสของคน (เอชพีวี) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นสาเหตุของหูด มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2513
ในปี พ.ศ.2519 ศาสตราจารย์นายแพทย์ซัวร์ เฮาเซ่น ได้ตั้งสมมติฐานว่าไวรัสหูดมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปากมดลูกในสตรี ซึ่งจากการศึกษาวิจัยต่อมาในปี พ.ศ.2523 ศาสตราจารย์นายแพทย์ซัวร์ เฮาเซ่น และคณะก็ได้พิสูจน์ว่าไวรัสหูด หรือ แพ็บพิลโลม่าไวรัสของคน (เอชพีวี) ชนิด เอชพีวี 16 และเอชพีวี 18 เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกในสตรีโดยการแยกไวรัสทั้งสองได้จากเนื้อมะเร็ง การค้นพบของศาสตราจารย์นายแพทย์ซัวร์ เฮาเซ่น ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง นำไปสู่การป้องกันและการรักษามะเร็งปากมดลูกที่ดีขึ้นและแพร่หลายทั่วโลก ลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกในสตรี และลดอัตราการตายจากโรคนี้ลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนำไปสู่การคิดค้นวัคซีนป้องกัน ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้ อันอาจนำไปสู่การขจัดโรคร้ายจากมะเร็งปากมดลูกให้หมดไปจากโลกได้ นับเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัยของมวลมนุษย์ทั่วโลก
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถจะเสด็จ พระราชดำเนินไปพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลประจำปี 2548 ในวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2548 เวลา 17.30 น. ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จฯ แทนพระองค์ในการพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลพร้อมคู่สมรสในวันเดียวกัน ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เวลา 20.00 น.
“รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล” ในพระบรมราชูปถัมภ์ก่อตั้งขึ้นในวโรกาสเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก ครบ 100 ปี ในวันที่ 1 มกราคม 2535 ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธาน มอบรางวัลให้แก่บุคคลหรือองค์กรทั่วโลกที่มีผลงานดีเด่นเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ บุคคลหรือสถาบันทั่วไปสามารถเสนอชื่อและผลงานของบุคคลหรือองค์กรให้คณะกรรมการรางวัลนานาชาติมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลคัดเลือกเพื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลประจำปี ซึ่งมี 2 รางวัลคือด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข โดยรางวัลประกอบด้วย เหรียญรางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล รางวัลละ 50,000 เหรียญสหรัฐ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-