การมีผลใช้บังคับของความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย

          นางอภิรดี   ตันตราภรณ์  อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  เปิดเผยว่า ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ที่ได้มีการลงนามกันไปแล้วเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2547 มีผลใช้บังคับแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2548  โดยหน่วยงานต่างๆ ได้มีการออกประกาศที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในส่วนของด้านการค้าสินค้าประกอบด้วยประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรและลดอัตราศุลกากร   สำหรับของที่มีถิ่นกำเนิดจากออสเตรเลีย  ซึ่งจะระบุอัตราภาษีที่ไทยจะลดให้ออสเตรเลียภายใต้ความตกลงระหว่างปี พ.ศ. 2548-2568 และประกาศกระทรวงพาณิชย์  เรื่องการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงการค้าเสรีไทย- ออสเตรเลีย พ.ศ. 2547  ซึ่งจะระบุสินค้าเกษตรภายใต้ WTO 23 รายการ  ซึ่งบางรายการไทยยกเลิกโควตาภาษีสินค้าที่นำเข้าจากออสเตรเลีย  ส่วนด้านบริการและการลงทุน ได้แก่ กฎกระทรวง  ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2547) ออกตามความในพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2521 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2547 ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ประกอบการชาวออสเตรเลียที่มีเงินลงทุนตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปสามารถใช้บริการศูนย์ one stop service ได้
          นางอภิรดี  กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการได้มีการใช้ประโยชน์จากความตกลงฯ ดังกล่าว แล้ว โดยมีจำนวนผู้ส่งออกที่มาขอตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย กับกรมการค้าต่างประเทศ  ซึ่งจนถึง ณ วันที่ 17 มกราคม 2548  มีแล้วประมาณกว่า 200 ราย สำหรับสินค้าที่ผู้ส่งออกไทยมาขอใช้สิทธิส่วนใหญ่ เช่น สินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า (เครื่องปรับอากาศ) อาหารทะเลกระป๋อง เฟอร์นิเจอร์ และเซรามิค เป็นต้น และมีการนำเข้าสินค้าที่ใช้สิทธิความตกลงฯ ช่วงระหว่างวันที่ 1-19 มกราคม 2548  เช่น วัสดุแต่งสี เนยเทียม มอล์ตไม่ได้คั่ว  ข้าวสาลีและเมสลีน  อะลูมิเนียมไม่ขึ้นรูป เชอรี่ เป็นต้น  คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 60 ล้านบาท  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบที่นำเข้ามาเพื่อผลิตสินค้าสำเร็จรูป ส่วนสินค้าอ่อนไหว เช่น เนื้อวัว มีการนำเข้ามาในปริมาณปกติและภายในโควตาที่กำหนดไว้  ซึ่งบุคคลที่สนใจรายละเอียดของความตกลงฯ รวมทั้งอัตราภาษี สามารถดูได้จาก website  กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (www.dtn.go.th หรือ www.thaifta.com) และขอตรวจสอบและขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าได้ที่กรมการค้าต่างประเทศ เพื่อใช้ประโยชน์จากความตกลงฯ นี้        
          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-