กรุงเทพ--31 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2548 นายวิเวก กัตจู (Mr. Vivek Katju) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยได้เข้าพบนายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อมอบเงินจำนวน 500,000.- ดอลลาร์สหรัฐฯ ในนามของรัฐบาลอินเดียแก่รัฐบาลไทย เพื่อนำไปพัฒนาและพื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากกรณีธรณีพิบัติภัยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547
ในส่วนของอินเดียเอง เหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่พื้นที่ต่างๆ กล่าวคือ หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ รัฐอานธระประเทศ รัฐเกรละ รัฐทมิฬนาดู และสหภาพอาณาเขตของรัฐบาลกลาง 1 เขต คือ Pondicherry คำนวณเป็นพื้นที่ความยาวชายฝั่งรวมทั้งสิ้น 2,260 ก.ม. และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 10,300 คน สูญหายประมาณ 5,600 คน ซึ่งรัฐบาลไทยได้แสดงความเสียใจไปยังรัฐบาลอินเดียแล้ว ทั้งนี้ อินเดียได้ประกาศว่าจะไม่รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ เนื่องจากอินเดียมีทรัพยากรเพียงพอ และเห็นว่า นานาชาติควรมุ่งส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศที่ต้องการอย่างแท้จริงมากกว่า
ในระหว่างการเข้าพบ เอกอัครราชทูตอินเดียได้แจ้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า ฝ่ายอินเดียยินดีที่จะต้อนรับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังจะเดินทางเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มิถุนายน ศกนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวว่า ความสัมพันธ์สองฝ่ายไทย-อินเดีย ได้ก้าวหน้าไปอย่างมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยมีความคืบหน้าในการเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย และฝ่ายไทยหวังว่าจะสามารถร่วมมือกับอินเดียได้มากขึ้นอีกในหลายๆ ด้าน เช่น การขยายนเส้นทางการบินตรงระหว่างกันให้มากขึ้น ความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
ในวันเดียวกัน นายมุมิน อัลอนัต (Mr. M?min Alanat) เอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อมอบเงินจำนวน 375,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในนามของรัฐบาลตุรกีแก่รัฐบาลไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุธรณีพิบัติภัยทางภาคใต้ของไทยต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลตุรกีได้เคยมอบเงินช่วยเหลือให้รัฐบาลไทยแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2548 จำนวน 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากเงินช่วยเหลือแล้ว รัฐบาลตุรกียังได้มอบเวชภัณฑ์และได้ส่งเจ้าหน้าที่จากสภากาชาดตุรกีมาให้ความช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยที่ จ. ภูเก็ต เมื่อเดือนมกราคม 2548 และเมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2548 นายเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน (Mr. Recep Tayyip Erdogan) นายกรัฐมนตรีตุรกี ก็ได้เดินทางมาเยือนไทย และได้มีโอกาสพบหารือกับนายกรัฐมนตรีและได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุธรณีพิบัติภัยในประเทศไทย
หลังจากการหารือดังกล่าว นายกรัฐมนตรีตุรกีได้เดินทางไปเยี่ยมชมพื้นที่ประสบภัยที่ จ. ภูเก็ตและพังงา (บริเวณเขาหลักและบ้านน้ำเค็ม) และได้กล่าวระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศที่ จ.ภูเก็ต ชื่นชมรัฐบาลไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มความสามารถและสามารถบริหารจัดการพื้นที่ประสบภัยได้อย่างดี ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตชาวตุรกี 1 ราย สูญหาย 6 ราย และโรงแรมโซฟิเทลซึ่งมีนักธุรกิจชาวตุรกีเป็นเจ้าของประสบกับความเสียหายอย่างหนัก
ในการเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศครั้งนี้ นอกจากการมอบเงินช่วยเหลือ ผู้ประสบธรณีพิบัติภัยแล้ว เอกอัครราชทูตตุรกียังได้ย้ำคำเชิญให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปเยือนตุรกีอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ตอบรับในหลักการแล้ว และจะได้มีการกำหนดวันที่ที่แน่นอนต่อไป อนึ่ง เอกอัครราชทูตตุรกีได้แจ้งด้วยว่า ฝ่ายตุรกียินดีที่จะต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกำลังจะเดินทางไปเยือนตุรกีอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 - 25 มิถุนายน ศกนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ไทยตระหนักดีว่าตุรกีเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในองค์การการประชุมอิสลาม (Organization of Islamic Conference - OIC) ซึ่งไทยก็เป็น ผู้สังเกตการณ์อยู่ และเลขาธิการ OIC คนปัจจุบันก็เป็นชาวตุรกี รัฐบาลไทยประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือระหว่างไทยกับตุรกี และกับ OIC ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2548 นายวิเวก กัตจู (Mr. Vivek Katju) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยได้เข้าพบนายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อมอบเงินจำนวน 500,000.- ดอลลาร์สหรัฐฯ ในนามของรัฐบาลอินเดียแก่รัฐบาลไทย เพื่อนำไปพัฒนาและพื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากกรณีธรณีพิบัติภัยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547
ในส่วนของอินเดียเอง เหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่พื้นที่ต่างๆ กล่าวคือ หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ รัฐอานธระประเทศ รัฐเกรละ รัฐทมิฬนาดู และสหภาพอาณาเขตของรัฐบาลกลาง 1 เขต คือ Pondicherry คำนวณเป็นพื้นที่ความยาวชายฝั่งรวมทั้งสิ้น 2,260 ก.ม. และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 10,300 คน สูญหายประมาณ 5,600 คน ซึ่งรัฐบาลไทยได้แสดงความเสียใจไปยังรัฐบาลอินเดียแล้ว ทั้งนี้ อินเดียได้ประกาศว่าจะไม่รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ เนื่องจากอินเดียมีทรัพยากรเพียงพอ และเห็นว่า นานาชาติควรมุ่งส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศที่ต้องการอย่างแท้จริงมากกว่า
ในระหว่างการเข้าพบ เอกอัครราชทูตอินเดียได้แจ้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า ฝ่ายอินเดียยินดีที่จะต้อนรับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังจะเดินทางเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มิถุนายน ศกนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวว่า ความสัมพันธ์สองฝ่ายไทย-อินเดีย ได้ก้าวหน้าไปอย่างมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยมีความคืบหน้าในการเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย และฝ่ายไทยหวังว่าจะสามารถร่วมมือกับอินเดียได้มากขึ้นอีกในหลายๆ ด้าน เช่น การขยายนเส้นทางการบินตรงระหว่างกันให้มากขึ้น ความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
ในวันเดียวกัน นายมุมิน อัลอนัต (Mr. M?min Alanat) เอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อมอบเงินจำนวน 375,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในนามของรัฐบาลตุรกีแก่รัฐบาลไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุธรณีพิบัติภัยทางภาคใต้ของไทยต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลตุรกีได้เคยมอบเงินช่วยเหลือให้รัฐบาลไทยแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2548 จำนวน 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากเงินช่วยเหลือแล้ว รัฐบาลตุรกียังได้มอบเวชภัณฑ์และได้ส่งเจ้าหน้าที่จากสภากาชาดตุรกีมาให้ความช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยที่ จ. ภูเก็ต เมื่อเดือนมกราคม 2548 และเมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2548 นายเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน (Mr. Recep Tayyip Erdogan) นายกรัฐมนตรีตุรกี ก็ได้เดินทางมาเยือนไทย และได้มีโอกาสพบหารือกับนายกรัฐมนตรีและได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุธรณีพิบัติภัยในประเทศไทย
หลังจากการหารือดังกล่าว นายกรัฐมนตรีตุรกีได้เดินทางไปเยี่ยมชมพื้นที่ประสบภัยที่ จ. ภูเก็ตและพังงา (บริเวณเขาหลักและบ้านน้ำเค็ม) และได้กล่าวระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศที่ จ.ภูเก็ต ชื่นชมรัฐบาลไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มความสามารถและสามารถบริหารจัดการพื้นที่ประสบภัยได้อย่างดี ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตชาวตุรกี 1 ราย สูญหาย 6 ราย และโรงแรมโซฟิเทลซึ่งมีนักธุรกิจชาวตุรกีเป็นเจ้าของประสบกับความเสียหายอย่างหนัก
ในการเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศครั้งนี้ นอกจากการมอบเงินช่วยเหลือ ผู้ประสบธรณีพิบัติภัยแล้ว เอกอัครราชทูตตุรกียังได้ย้ำคำเชิญให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปเยือนตุรกีอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ตอบรับในหลักการแล้ว และจะได้มีการกำหนดวันที่ที่แน่นอนต่อไป อนึ่ง เอกอัครราชทูตตุรกีได้แจ้งด้วยว่า ฝ่ายตุรกียินดีที่จะต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกำลังจะเดินทางไปเยือนตุรกีอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 - 25 มิถุนายน ศกนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ไทยตระหนักดีว่าตุรกีเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในองค์การการประชุมอิสลาม (Organization of Islamic Conference - OIC) ซึ่งไทยก็เป็น ผู้สังเกตการณ์อยู่ และเลขาธิการ OIC คนปัจจุบันก็เป็นชาวตุรกี รัฐบาลไทยประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือระหว่างไทยกับตุรกี และกับ OIC ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-