พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 16 - 22 พ.ย. พ.ศ. 2548

ข่าวทั่วไป Wednesday November 16, 2005 14:50 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วัน พุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 137/2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 16-22 พฤศจิกายน 2548
ในช่วงวันที่ 16-18 พ.ย.ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนในระยะแรก ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย และในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. ความกดอากาศสูงแผ่เสริม ลงมาปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้อุณหภูมิลดลง 2-5 องศา และมีอากาศเย็นลงโดยทั่วไป ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะ ทางฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น
ข้อควรระวัง
ในระยะนี้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวเย็นลง เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และตั้งแต่วันที่ 19 — 20 พ.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงควรระมัดระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความ เสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# ในช่วงวันที่ 16-18 พ.ย.มีฝนบางแห่ง 10%ของพื้นที่ และอากาศเย็นและอุณหภูมิลดลง 1-2 องศา กับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-10 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศา ทำให้อากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 16-18 พ.ย. มีฝนบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ อากาศเย็นและอุณหภูมิลดลง 1-2 องศา กับมีหมอก ในตอนเช้า ส่วนยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-10 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศา ทำให้อากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้ ไม้ผลอยู่ในระยะพักตัวเพื่อเตรียมออกดอก เกษตรกรควรเก็บเศษใบไม้แห้งหรือวัชพืชที่อยู่บริเวณโคนต้นออก เพื่อให้ แสงแดดส่องถึงโคนต้น งดการให้น้ำและปุ๋ย ตลอดจนงดการตัดแต่งกิ่ง และเมื่อต้นไม้เริ่มออกดอกค่อยเริ่มให้น้ำ แต่ไม่ควรให้คราวเดียวมากๆ เพราะจะทำให้ต้นไม้สลัดดอกและไม่ติดผล
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# ในวันที่ 16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ต่อจากนั้นอากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้าและอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา ส่วนบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศา ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในวันที่ 16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ต่อจากนั้นอากาศเย็นทางตอนบของภาคกับมีหมอกในตอนเช้าและอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา ส่วนบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศา ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้อุณหภูมิของน้ำจะลดต่ำลงทำให้ปลากินอาหารได้น้อย เกษตรกรควรลดปริมาณอาหาร และเพิ่มอุณหภูมิในบ่อเลี้ยงให้สูงขึ้น นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันหนอนคืบกะหล่ำระบาดเข้าทำลายพืชผักโดยเฉพาะกะหล่ำปลีและคะน้า ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหายได้
กลาง
ลักษณะอากาศ
# ในวันที่ 16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40% ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. ฝนบางแห่ง 10% ของพื้นที่ และอากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในวันที่ 16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40% ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. มีฝนบางแห่ง 10 % ของพื้นที่และอากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และเนื่องจากอุณหภูมิของน้ำที่ลดต่ำลงทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย ซึ่งจะทำให้อ่อนแอและติดโรคได้ง่าย เกษตรกรควรลดปริมาณอาหารและควรเปิดเครื่องตีน้ำบ่อยขึ้น
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# ในวันที่ 16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40% ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10%ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้าส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในวันที่ 16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40 % ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. อุณหภูมิตจะลดลง 1-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้าส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะกุ้งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะขึ้นเนื่องจากอุณหภูมิของน้ำที่ลดต่ำลง นอกจากนี้เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่กำลังเจริญเติบโต รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น ไรแดงและเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 16-17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. มีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์เกือบทั่วไป กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 16-17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. มีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์เกือบทั่วไป กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ระยะนี้มีฝนตกชุก ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มบางพื้นที่ เกษตรกรควรป้องกันความเสียหาย จากสภาวะดังกล่าวด้วย ส่วนไม้ผลที่กำลังแตกใบอ่อน เช่น เงาะ ทุเรียน และมังคุด ชาวสวนควรระวังและป้องกัน การระบาดของหนอนคืบกินใบและหนอนชอนใบ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ