พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 12 - 18 ต.ค. พ.ศ. 2548

ข่าวทั่วไป Wednesday October 12, 2005 13:57 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วัน พุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 122 /2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 12-18 ตุลาตม 2548
ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปกับมีฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร สำหรับประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย ในช่วงวันที่ 14—16 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนฟ้าคะนองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ต่อจากนั้นจะเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 15-17 ต.ค. ในอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการ เดินเรือ
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและในช่วงวันที่ 14-15 ต.ค. มีฝนบางแห่ง 10% ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่าง ของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# เนื่องจากระยะนี้อุณหภูมิแตกต่างกันมากระหว่างช่วงกลางวันและกลางคืนทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เกษตรกรควรดูแล สุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ผู้ที่ปลูกหอมหัวใหญ่ควรระวังการระบาด ของโรคใบไหม้และโรคเน่าคอดิน
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนบางแห่ง 10-20% ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค เว้นแต่ในช่วงวันที่ 13-14 ต.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย 30-40% ของพื้นที่ ทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย เนื่องจากร่างกายปรับตัวไม่ทัน ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ต.ค. ผู้ที่ตากผลผลิตการเกษตร ไว้กลางแจ้งควรระวังความเสียหายจากลมและฝน
กลาง
ลักษณะอากาศ
# อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ 20-30% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 14-16 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย 30-60% ของพื้นที่ กับมีลมแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
#เนื่องจากระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ปีกควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว เพราะจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของโรคราน้ำค้างใน พืชไร่และพืชผัก
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30% ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เว้นแต่ ในช่วงวันที่ 14-16 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและลมแรงบางแห่ง ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# เนื่องจากระยะนี้ปริมาณฝนจะเริ่มลดลง เกษตรกรควรเริ่มกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกพืชไร่ในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 60-80% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 15-17 ต.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
# ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง ลมตะวันตก เฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# พื้นที่ซึ่งฝนตกชุก อากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชจากเชื้อรา สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่ง ควรหมั่นตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงสภาพน้ำที่อาจทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ