โจวเสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารจีนได้เปิดเผยถึงปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนในงานสัมมนาการพัฒนาเศรษฐกิจจีนในกรุงปักกิ่งว่า แรงงานราคาถูกที่มีจำนวนมากและวิสาหกิจเอกชนที่มีกำลังเข้มแข็งขึ้นของจีนจะทำให้เศรษฐกิจของจีนมีความยืดหยุ่นมากขึ้นต่อการตอบสนองการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินหยวนและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การปรับค่าเงินจะลดทอนแรงแข่งขันของจีน แต่จะช่วยรักษาแรงแข่งขันด้านแรงงานราคาถูก
ด้านอี๋ว์หย่งติ้ง คณะกรรมการนโยบายเงินตราธนาคารกลางแห่งชาติจีน ได้มีแนวคิดที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าจีนมีความพร้อมที่จะปรับเพิ่มค่าเงิน โดยที่จีนควรจะขยายการแกว่งขึ้นลงของค่าเงินหยวนและยืดหยุ่นค่าเงินมากขึ้น ทั้งนี้ สื่อจีนได้มีการวิเคราะห์ว่าคำกล่าวของผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเป็นการส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับเพิ่มค่าเงินหยวนอีกให้เป็นไปตามกลไกตลาดมากยิ่งขึ้น
สตีเฟ่น กรีน นักเศรษฐศาสตร์จากสแตนดาร์ดชาร์เตอร์สาขาเซี่ยงไฮ้ ได้แสดงความเห็นว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางจีนได้ออกมาส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะสนับสนุนการเดินหน้าให้ค่าเงินหยวนมีความยืดหยุ่นให้มากขึ้น ซึ่งสตีเฟ่น กรีน เห็นว่าหากเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นก็จะขึ้นอีกไม่เกิน 3% และจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีน ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าเงินของจีนจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกแต่จะเป็นผลดีในการกระตุ้นให้จีนเปลี่ยนจากการพึ่งพาการส่งออกมาส่งเสริมให้มีการบริโภคภายในประเทศ และปรับสมดุลอุปสงค์และอุปทานภายในประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มีการปรับขึ้นค่าเงินหยวนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา การส่งออกของจีนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและทำให้ดุลการค้าของจีนขยายตัวต่อเนื่องและได้เปรียบดุลการค้าถึง 68,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
ประเด็นวิเคราะห์
ผู้ว่าธนาคารกลางของจีนได้ออกมายืนยันว่าเศรษฐกิจของจีนจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นซึ่งจะมีผลส่งให้ค่าเงินหยวนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจะเป็นตามกลไกลของตลาดมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังมีแรงกดดันให้จีนปรับค่าเงินอีก โดยที่สหรัฐได้ออกมากระตุ้นให้จีนยืดหยุ่นค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐให้มากขึ้นและให้เปิดกว้างตลาดการเงิน ทั้งนี้ การปรับค่าเงินหยวนจะไม่มีการปรับพรวดพราดเหมือนครั้งที่ผ่านมาถึงแม้สหรัฐจะกดดันก็ตาม
ที่มา: http://www.depthai.go.th