สศอ.เปิดตัวเลขดัชนีอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 136.86 เครื่องใช้ไฟฟ้า-เบียร์-เครื่องนุ่งห่มยอดจำหน่ายพุ่งรับเทศกาลปีใหม่ ผู้ผลิตเร่งเดินเครื่องเพิ่มกำลังผลิตพร้อมกระจายสินค้าส่งออกต่างประเทศ ขณะที่อิเล็กทรอนิกส์ภาวะผลิตและจำหน่ายชะลอตัวตามกระแสตลาดไอทีโลก
นางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สศอ. ได้จัดทำดัชนีอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายนปี 2547 จากผลการสำรวจทั้งสิ้น 2,000 โรงงาน ครอบคลุม 50 กลุ่ม อุตสาหกรรม 203 ผลิตภัณฑ์ ทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่และวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม พบว่า ดัชนีอุตสาหกรรมอยู่ในภาวะทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อย โดยดัชนีผลผลิต (มูลค่าเพิ่ม) อยู่ที่ระดับ 136.86 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.35
ส่วนดัชนีการส่งสินค้า อยู่ที่ระดับ 141.40 ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนร้อยละ 0.68 อัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ระดับ 66.65 จากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 66.89 ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ168.32 ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 2.42 ดัชนีผลิตภาพแรงงานอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ155.74 ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ1.72 ขณะที่ ดัชนีอัตราส่วนสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 161.16 ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 10.82 ดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 105.60 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.95
ทั้งนี้ประเภทอุตสาหกรรมที่ทำให้ดัชนีอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ การผลิตเครื่องใช้ในบ้านเรือน ในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ ซึ่งทั้งภาวะการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ในเดือนพฤศจิกายน มียอดคำสั่งซื้อจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศสูงขึ้น โดยเฉพาะ กระติกน้ำร้อน ซึ่งลูกค้าต่างชาติมีการสั่งนำเข้าเพิ่มขึ้น เพื่อใช้เป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีการจัดโปรโมชั่น และกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายในภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น
ด้านการผลิตเครื่องดื่มเบียร์ และน้ำโซดา รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด มีภาวะการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ส่วนภาวะการจำหน่ายเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 12.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากตัวแทนจำหน่ายสูงขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคเบียร์ที่มีปริมาณสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยผู้ประกอบกิจการมีการเปิดลานเบียร์ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายช่วงปลายปี 2547 สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารในกลุ่มเครื่องปรุงรสประเภทซอสถั่วเหลือง เต้าเจี้ยว ซีอิ้ว น้ำปลา และผงชูรส ผลการวิเคราะห์พบว่าทั้งภาวะการผลิตและจำหน่ายปรับสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ระดับสินค้าสำเร็จรูปคงคลังมีปริมาณลดลงจากเดือนตุลาคม
ส่วนการผลิตเครื่องแต่งกาย ยกเว้นเครื่องแต่งกายที่ทำจากขนสัตว์ ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. เป็นช่วงความนิยมตามฤดูกาล [High Season
] ผู้ผลิตจึงเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค และผลิตตามคำสั่งซื้อล่วงหน้า ของเดือน ม.ค.-มี.ค.ปี 2548 ดังนั้นทำให้ดัชนีในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 8.5 และคาดว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2548 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจะยังคงมีทิศทางการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในกลุ่มการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ทั้งภาวะการผลิตและจำหน่ายมีทิศทางเพิ่มขึ้น โดยดัชนีผลผลิตเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 เนื่องจาก เป็นฤดูกาลการผลิตซึ่งสามารถกรีดยางได้ในปริมาณที่สูง ประกอบกับโรงงานต้องเร่งผลิตสินค้าให้ทันกับการส่งมอบตามเวลาที่กำหนดปลายปี 2547
ขณะที่อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรมผลผลิตลดลงเล็กน้อย ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม โดยภาวะการผลิตลดลงร้อยละ 3.6 และภาวะจำหน่ายลดลงร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาตลาดในประเทศพบว่า ยังคงมีปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจากน้ำมันที่ใช้ในการคมนาคมขนส่ง ได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันเครื่องบิน ในขณะที่การส่งออกรวมลดลง 152.8 ล้านลิตรจาก 597.7 ล้านลิตรในช่วงเดือนตุลาคม ลดลงมาอยู่ที่ 444.9 ล้านลิตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 34.34
ส่วน การผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ จากผลการวิเคราะห์พบว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ภาวะการผลิตและจำหน่ายมีการชะลอตัว เนื่องจาก ผู้ใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศเริ่มชะลอการผลิตลงในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี และไม่มีการสต๊อกวัตถุดิบไว้ จึงทำให้ปริมาณการผลิตและส่งออกลดลง ส่งผลให้เดือนพฤศจิกายนมีปริมาณการผลิตสินค้าโดยรวมลดลงเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม โดยหลอดภาพสำหรับจอโทรทัศน์ผลิตลดลงร้อยละ 0.45 ทรานซิสเตอร์ลดลงอยู่ที่ร้อยละ 10.7 ขณะที่การจำหน่ายซึ่งส่วนใหญ่เป็นการส่งออกไปต่างประเทศ หลอดภาพสำหรับจอโทรทัศน์ลดลงร้อยละ 12.57 ทรานซิสเตอร์ลดลงคิดเป็นร้อยละ 9.57
ด้านการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก ภาวะการผลิตช่วงเดือนพฤศจิกายนปรับตัวลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 1.9 โดยสาเหตุหลักมาจากเรื่องผลกระทบของราคาเม็ดพลาสติกที่ยังคงมีราคาสูง ทำให้ผู้ผลิตหลายรายต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามภาวะการจำหน่ายกลับมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.5 เนื่องจากยังคงมีความต้องการใช้สินค้าอย่างต่อเนื่องถึงปลายปี ขณะที่ตลาดการส่งออกมีการแข่งขันกันสูงขึ้น
นางชุตาภรณ์กล่าวเสริมว่า สศอ.ยังได้ทำการวิเคราะห์แนวโน้มดัชนีอุตสาหกรรมเดือนธันวาคม พบว่า อุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมจะเป็นตัวผลักดันให้ดัชนีผลผลิตของเดือนธันวาคมปรับเพิ่มขึ้น ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆนั้น ส่วนใหญ่จะมีการชะลอตัวลงในช่วงเดือนธันวาคม เนื่องจาก มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และมีสินค้าอยู่ในสต๊อกช่วงเดือนก.ย.-พ.ย. ค่อนข้างสูงมากเพื่อรองรับการจำหน่ายสินค้าที่จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจาก ผู้บริโภคยังคงมีการใช้จ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
นางชุตาภรณ์ ลัมพสาระ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สศอ. ได้จัดทำดัชนีอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายนปี 2547 จากผลการสำรวจทั้งสิ้น 2,000 โรงงาน ครอบคลุม 50 กลุ่ม อุตสาหกรรม 203 ผลิตภัณฑ์ ทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่และวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม พบว่า ดัชนีอุตสาหกรรมอยู่ในภาวะทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อย โดยดัชนีผลผลิต (มูลค่าเพิ่ม) อยู่ที่ระดับ 136.86 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.35
ส่วนดัชนีการส่งสินค้า อยู่ที่ระดับ 141.40 ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนร้อยละ 0.68 อัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ระดับ 66.65 จากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 66.89 ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ168.32 ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 2.42 ดัชนีผลิตภาพแรงงานอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ155.74 ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ1.72 ขณะที่ ดัชนีอัตราส่วนสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 161.16 ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 10.82 ดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 105.60 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.95
ทั้งนี้ประเภทอุตสาหกรรมที่ทำให้ดัชนีอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ การผลิตเครื่องใช้ในบ้านเรือน ในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ ซึ่งทั้งภาวะการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ในเดือนพฤศจิกายน มียอดคำสั่งซื้อจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศสูงขึ้น โดยเฉพาะ กระติกน้ำร้อน ซึ่งลูกค้าต่างชาติมีการสั่งนำเข้าเพิ่มขึ้น เพื่อใช้เป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีการจัดโปรโมชั่น และกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายในภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น
ด้านการผลิตเครื่องดื่มเบียร์ และน้ำโซดา รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด มีภาวะการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ส่วนภาวะการจำหน่ายเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 12.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากตัวแทนจำหน่ายสูงขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคเบียร์ที่มีปริมาณสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยผู้ประกอบกิจการมีการเปิดลานเบียร์ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายช่วงปลายปี 2547 สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารในกลุ่มเครื่องปรุงรสประเภทซอสถั่วเหลือง เต้าเจี้ยว ซีอิ้ว น้ำปลา และผงชูรส ผลการวิเคราะห์พบว่าทั้งภาวะการผลิตและจำหน่ายปรับสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ระดับสินค้าสำเร็จรูปคงคลังมีปริมาณลดลงจากเดือนตุลาคม
ส่วนการผลิตเครื่องแต่งกาย ยกเว้นเครื่องแต่งกายที่ทำจากขนสัตว์ ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. เป็นช่วงความนิยมตามฤดูกาล [High Season
] ผู้ผลิตจึงเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค และผลิตตามคำสั่งซื้อล่วงหน้า ของเดือน ม.ค.-มี.ค.ปี 2548 ดังนั้นทำให้ดัชนีในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 8.5 และคาดว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2548 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจะยังคงมีทิศทางการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในกลุ่มการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ทั้งภาวะการผลิตและจำหน่ายมีทิศทางเพิ่มขึ้น โดยดัชนีผลผลิตเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 เนื่องจาก เป็นฤดูกาลการผลิตซึ่งสามารถกรีดยางได้ในปริมาณที่สูง ประกอบกับโรงงานต้องเร่งผลิตสินค้าให้ทันกับการส่งมอบตามเวลาที่กำหนดปลายปี 2547
ขณะที่อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรมผลผลิตลดลงเล็กน้อย ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม โดยภาวะการผลิตลดลงร้อยละ 3.6 และภาวะจำหน่ายลดลงร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาตลาดในประเทศพบว่า ยังคงมีปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจากน้ำมันที่ใช้ในการคมนาคมขนส่ง ได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันเครื่องบิน ในขณะที่การส่งออกรวมลดลง 152.8 ล้านลิตรจาก 597.7 ล้านลิตรในช่วงเดือนตุลาคม ลดลงมาอยู่ที่ 444.9 ล้านลิตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 34.34
ส่วน การผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ จากผลการวิเคราะห์พบว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ภาวะการผลิตและจำหน่ายมีการชะลอตัว เนื่องจาก ผู้ใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศเริ่มชะลอการผลิตลงในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี และไม่มีการสต๊อกวัตถุดิบไว้ จึงทำให้ปริมาณการผลิตและส่งออกลดลง ส่งผลให้เดือนพฤศจิกายนมีปริมาณการผลิตสินค้าโดยรวมลดลงเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม โดยหลอดภาพสำหรับจอโทรทัศน์ผลิตลดลงร้อยละ 0.45 ทรานซิสเตอร์ลดลงอยู่ที่ร้อยละ 10.7 ขณะที่การจำหน่ายซึ่งส่วนใหญ่เป็นการส่งออกไปต่างประเทศ หลอดภาพสำหรับจอโทรทัศน์ลดลงร้อยละ 12.57 ทรานซิสเตอร์ลดลงคิดเป็นร้อยละ 9.57
ด้านการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก ภาวะการผลิตช่วงเดือนพฤศจิกายนปรับตัวลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 1.9 โดยสาเหตุหลักมาจากเรื่องผลกระทบของราคาเม็ดพลาสติกที่ยังคงมีราคาสูง ทำให้ผู้ผลิตหลายรายต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามภาวะการจำหน่ายกลับมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.5 เนื่องจากยังคงมีความต้องการใช้สินค้าอย่างต่อเนื่องถึงปลายปี ขณะที่ตลาดการส่งออกมีการแข่งขันกันสูงขึ้น
นางชุตาภรณ์กล่าวเสริมว่า สศอ.ยังได้ทำการวิเคราะห์แนวโน้มดัชนีอุตสาหกรรมเดือนธันวาคม พบว่า อุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมจะเป็นตัวผลักดันให้ดัชนีผลผลิตของเดือนธันวาคมปรับเพิ่มขึ้น ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆนั้น ส่วนใหญ่จะมีการชะลอตัวลงในช่วงเดือนธันวาคม เนื่องจาก มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และมีสินค้าอยู่ในสต๊อกช่วงเดือนก.ย.-พ.ย. ค่อนข้างสูงมากเพื่อรองรับการจำหน่ายสินค้าที่จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจาก ผู้บริโภคยังคงมีการใช้จ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-