กรุงเทพ--28 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ในโอกาสที่ ดร. ยายาร์ จามเม่ ประธานาธิบดีแกมเบีย เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายน ศกนี้ นั้น ประธานาธิบดีแกมเบียได้เข้าพบหารือข้อราชการกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 24 มิ.ย. 48 เวลา 11.15 น. ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของฝ่ายแกมเบียเข้าร่วมการหารือด้วย
การหารือครอบคลุมถึงประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีทุกมิติ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแกมเบียแสดงเจตนารมย์อันมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ประกาศให้ปีนี้เป็นปีแอฟริกา โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในลักษณะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาสองฝ่ายตกลงที่จะให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตกลงที่จะขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมกลไกที่จะเกื้อกูลต่อความร่วมมือ อาทิ การแลกเปลี่ยนการเยือนของภาคเอกชน การค้าขายโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง โดยเฉพาะการค้าข้าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานงานเรื่องนี้ต่อไป และการจัดทำความตกลงที่เป็นประโยชน์ ทั้งนี้ ฝ่ายแกมเบียได้เชิญชวนให้นักลงทุนไทย เข้าไปร่วมทุนในสาขาที่มีศักยภาพ โดยฝ่ายไทยสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าซึ่งแกมเบียได้รับการยกเว้นภาษีส่งออกไปยังสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ด้วย นอกจากนี้ สองฝ่ายยังตกลงที่จะมีความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นสาขาที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีศักยภาพ ฝ่ายไทยย้ำนโยบายที่จะให้ความร่วมมือทางวิชาการกับทุกประเทศในภูมิภาคแอฟริกา
รวมทั้งแกมเบียตามกรอบความร่วมมือ ใต้-ใต้ โดยฝ่ายแกมเบียได้แสดงความสนใจที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ของไทยในด้านการเกษตร และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เป็นพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน
สำหรับการหารือในประเด็นพหุภาคีนั้น สองฝ่ายตกลงที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีระหว่างประเทศ แกมเบียย้ำว่า จะสนับสนุนผู้สมัครของไทยในตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ นอกจากนั้น ในฐานะประเทศที่มีบทบาทสำคัญใน OIC แกมเบียยินดีที่จะชี้แจงให้สมาชิก OIC เข้าใจถึงสถานการณ์และข้อเท็จจริงในภาคใต้ของไทย เนื่องจาก ดร. Omar Jah อดีตเอกอัครราชทูตของกระทรวงต่างประเทศแกมเบีย ได้รับเชิญให้ร่วมคณะ OIC Goodwill Mission เยือนไทยระหว่างวันที่ 2-13 มิ.ย. 2548 และได้รายงานว่า การเยือนไทยครั้งนี้ ทำให้ตนได้รับทราบข้อเท็จจริงซึ่งไม่ปรากฏการต่อต้านหรือความเกรงกลัวศาสนาอิสลามในสังคมไทยแต่อย่างใด
ภายหลังการหารือข้อราชการ นายกรัฐมนตรีได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีแกมเบียและคณะ และหลังจากนั้น ประธานาธิบดีแกมเบียได้เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์กลางการเรียนรู้ไอซีทีแห่งชาติ ซึ่งประธาธิบดีแกมเบียมีความสนใจเป็นพิเศษอีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ในโอกาสที่ ดร. ยายาร์ จามเม่ ประธานาธิบดีแกมเบีย เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายน ศกนี้ นั้น ประธานาธิบดีแกมเบียได้เข้าพบหารือข้อราชการกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 24 มิ.ย. 48 เวลา 11.15 น. ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของฝ่ายแกมเบียเข้าร่วมการหารือด้วย
การหารือครอบคลุมถึงประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีทุกมิติ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแกมเบียแสดงเจตนารมย์อันมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ประกาศให้ปีนี้เป็นปีแอฟริกา โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในลักษณะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาสองฝ่ายตกลงที่จะให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตกลงที่จะขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมกลไกที่จะเกื้อกูลต่อความร่วมมือ อาทิ การแลกเปลี่ยนการเยือนของภาคเอกชน การค้าขายโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง โดยเฉพาะการค้าข้าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานงานเรื่องนี้ต่อไป และการจัดทำความตกลงที่เป็นประโยชน์ ทั้งนี้ ฝ่ายแกมเบียได้เชิญชวนให้นักลงทุนไทย เข้าไปร่วมทุนในสาขาที่มีศักยภาพ โดยฝ่ายไทยสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าซึ่งแกมเบียได้รับการยกเว้นภาษีส่งออกไปยังสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ด้วย นอกจากนี้ สองฝ่ายยังตกลงที่จะมีความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นสาขาที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีศักยภาพ ฝ่ายไทยย้ำนโยบายที่จะให้ความร่วมมือทางวิชาการกับทุกประเทศในภูมิภาคแอฟริกา
รวมทั้งแกมเบียตามกรอบความร่วมมือ ใต้-ใต้ โดยฝ่ายแกมเบียได้แสดงความสนใจที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ของไทยในด้านการเกษตร และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เป็นพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน
สำหรับการหารือในประเด็นพหุภาคีนั้น สองฝ่ายตกลงที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีระหว่างประเทศ แกมเบียย้ำว่า จะสนับสนุนผู้สมัครของไทยในตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ นอกจากนั้น ในฐานะประเทศที่มีบทบาทสำคัญใน OIC แกมเบียยินดีที่จะชี้แจงให้สมาชิก OIC เข้าใจถึงสถานการณ์และข้อเท็จจริงในภาคใต้ของไทย เนื่องจาก ดร. Omar Jah อดีตเอกอัครราชทูตของกระทรวงต่างประเทศแกมเบีย ได้รับเชิญให้ร่วมคณะ OIC Goodwill Mission เยือนไทยระหว่างวันที่ 2-13 มิ.ย. 2548 และได้รายงานว่า การเยือนไทยครั้งนี้ ทำให้ตนได้รับทราบข้อเท็จจริงซึ่งไม่ปรากฏการต่อต้านหรือความเกรงกลัวศาสนาอิสลามในสังคมไทยแต่อย่างใด
ภายหลังการหารือข้อราชการ นายกรัฐมนตรีได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีแกมเบียและคณะ และหลังจากนั้น ประธานาธิบดีแกมเบียได้เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์กลางการเรียนรู้ไอซีทีแห่งชาติ ซึ่งประธาธิบดีแกมเบียมีความสนใจเป็นพิเศษอีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-