พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 133 /2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 7-13 พฤศจิกายน 2548
ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. แนวพัดสอบเข้าหากันของลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพาดผ่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกระจายในระยะนี้ ส่วนร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 10-13 พ.ย. ลมตะวันออกจะพัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยทำให้มีฝนลดน้อยลง สำหรับร่องความกดอากาศต่ำยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจาย
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 8-9 พ.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายจากสภาวะ ดังกล่าวไว้ด้วย
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย 30-50 %ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 พ.ย.มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ถึงเป็นแห่งๆ 10-30%ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศา เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ และในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย 30-50 % ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ถึงเป็นแห่งๆ 10-30% ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. สำหรับสตรอเบอรี่ ที่กำลังออกดอก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืช เช่น เพลี้ยอ่อนและไรสองจุด
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย 30-40% ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 พ.ย.มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ถึงเป็นแห่งๆ 10-30%ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย 30-40% ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควร กักเก็บน้ำไว้ใช้ในระยะต่อไปด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชผักควรระวังและป้องกันการระบาดของแมลงหวี่ขาวในมะเขือเทศ และเพลี้ยอ่อนในพริก
กลาง
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย.มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 %ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 พ.ย.มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ถึงเป็นแห่งๆ 10-30%ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60% ของพื้นที่ สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยว ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. เกษตรกรควรรักษา สุขภาพให้แข็งแรง ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ดอกควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราแป้งในกุหลาบและโรค ใบปื้นเหลืองในกล้วยไม้
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
#ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 %ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ถึงเป็นแห่งๆ 10-30%ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากตาม บริเวณชายฝั่ง ส่วนในช่วงวันที 10-13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. สำหรับบริเวณที่มีฝนตกน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่กำลังเจริญ เติบโตอย่างเพียงพอด้วย ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ควรระวังการระบาดของศัตรูพืช เช่น เพลี้ยแป้งและเพลี้ยอ่อน
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 60-80 %ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 %ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
# มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะนี้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้บางพื้นที่เกิดสภาวะน้ำท่วมได้ เกษตรกรควรระวังอันตรายและ ป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร สำหรับชาวสวนผลไม้ ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่าโคนเน่าและโรคราสีชมพู
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-