วันนี้(5 ต.ค) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรค ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานสัมชชาประชาชนที่จัดขึ้นในวันที่ 8-9 ตุลาคม นี้
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจัดการประชุมสมัชชาประชาชนระหว่างวันที่ 8 — 9 ตุลาคม พรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าการจัดสมัชชาประชาชนเป็นงาน หรือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ไม่ใช่เฉพาะสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ว่าสำหรับประเทศไทย และการเมืองภาคประชาชน พรรคได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะว่าขณะนี้สภาพของบ้านเมืองเศรษฐกิจสังคม ได้เปลี่ยนแปลงไป และรูปแบบของการทำงานของการเมืองก็ควรจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือความหลากหลายของคนในสังคม ทำให้การทำงานของพรรคการเมืองจะต้องมีการประสานเชื่อมโยงใกล้ชิดกับพลเมือง กับภาคประชาชนมากยิ่งขึ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่คณะผู้บริหารชุดใหม่ของพรรคได้เข้ามาทำหน้าที่ พรรคจึงได้กำหนดเป็นแนวทางสำคัญว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นแบบอย่าง หรือ ต้นแบบของพรรคการเมือง ที่เข้าใจการเมืองแบบมีส่วนร่วม และส่งเสริมการเมืองภาคประชาชน เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการหาทางออกสำหรับประเทศไทย ทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต
‘ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงเป็นที่มาของแนวคิดเรื่องสมัชชา และจากแนวคิดตรงนั้น จนถึงการจะจัดสมัชชาจริงในวันเสาร์ อาทิตย์ นี้ เราได้ไปค้นหาแนวทางที่จะทำให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมเข้ากับพรรคการเมืองได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น และในที่สุดก็ได้มีการดำเนินการมาโดยลำดับ จนกระทั่งในวันที่ 8 — 9 นี้จะมีประชาชนซึ่งมาเข้าร่วมในสมัชชา โดยการตอบรับมาร่วม 3,201 คน กระจายไปทั้งที่เป็นชายและหญิงทั้งที่มาจาก กทม. ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน กระจายตามกลุ่มอาชีพคือประกอบไปด้วยเยาวชน ผู้นำสตรี นักธุรกิจ พ่อค้า เกษตรกร ข้าราชการ ผู้นำชุมชน ผู้แทนผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง นักวิชาการ ครูอาจารย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนองค์กรพัฒนาเอกชน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ สื่อมวลชน รวมไปถึงคนไทยในต่างแดน ซึ่งวันนี้จะให้ตัวเลขรายละเอียดว่าได้แบ่งออกตามอาชีพ ตามเพศ ตามภาคอย่างไร แต่ว่าเราได้ดูแลเพื่อที่จะให้สัดส่วนของผู้เข้าร่วมกระจายอย่างทั่วถึงครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้’นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า โดยการจัดสมัชชาจะเป็นเวลาของประชาชนที่มาร่วมสมัชชาอย่างแท้จริง โดยเริ่มต้นจากการแบ่งกลุ่ม เพราะฉะนั้นตรงนี้จะเป็นคำตอบว่า ทุกคนที่จะมาร่วมสมัชชามีโอกาสแสดงความคิดเห็นแน่นอน ตรงนี้เป็นการชุมนุมคนที่ไม่ใช่ให้มาฟัง นักการเมืองพูด แต่ว่าเมื่อแบ่งย่อย คนในกลุ่มจะได้ใช้เวลาในแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ และจะมีการรวมเป็นกลุ่ม เพื่อเชื่อมโยงประเด็นของแต่ละกลุ่ม และจะมีตัวแทนกลุ่ม นำเสนอผลของการระดมความคิดเห็นในช่วงเย็นของวันนั้น(วันเสาร์) เมื่อได้ระดมความคิดเห็นในช่วงเย็นเสร็จเรียบร้อยมีตัวแทนรายงานเรียบร้อย และหลังจากนั้นก็จะมีการกำหนดประเด็นที่เห็นว่าเป็นความสนใจของผู้ที่เข้าร่วม 7 ประเด็นหลัก ประเด็นนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีการเตรียมการล่วงหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น จะเป็น 7 ประเด็นที่เกิดขึ้นจากการระดมสมองในวันนั้น เพื่อที่ว่าวันรุ่งขึ้น(วันอาทิตย์เช้า) ผู้ที่เข้าร่วมสมัชชาจะได้สามารถแยกเข้าร่วมประชุมตามประเด็นที่สนใจใน 7 ประเด็นนี้ ในการประชุมครังนี้ก็จะมีการประชุมแบบสภากาแฟ ใน 7 ประเด็นนั้น แล้วก็มีการรายงานการระดมความคิดในที่ประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่เราจะทำการสรุปและก็ปิดการประชุมในวันที่ 9 ต.ค.(อาทิตย์)
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า อันนี้คือรูปแบบใหม่ที่จะเป็นการยืนยันว่า การระดมสมอง เป็นการยอมรับความคิดเห็นของผู้เข้าร่วม แบบเปิดกว้าง และจะนำไปสู่ข้อสรุป ซึ่งพรรคจะได้มีการขยายผลต่อไป ในการจัดสมัชชาย่อยจะเป็นตามพื้นที่ ตามประเด็นตามกลุ่มอาชีพ ก่อนที่จะมีการจัดประชุมสมัชชาในครั้งต่อไปในปี 2549 เพราะฉะนั้นอันนี้คือรูปแบบที่ได้กำหนดเอาไว้ชัดเจนเพื่อเปิดกว้าง
ส่วนความพร้อม เรื่องการจัดการ พรรคได้เตรียมการที่จะต้อนรับในบรรดาผู้คน 3,200 กว่าคน จะมีผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัดประมาณ 2,000 คน ขณะนี้พรรคได้จัดที่พรรคทั้งหมด 8 โรงแรม และในวันเสาร์เช้าจะมีบริการรถรับส่งเพื่อไปสู่สถานที่ประชุมคือที่ Impact เมืองทองธานี สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก็สามารถที่จะมาขึ้นรถที่พรรคในช่วงเช้าได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเรื่องของการจัดการของการประชุม ซึ่งมีคนจำนวนมาก ขณะนี้มีความพร้อมมีแล้ว ทั้งในเรื่องของที่พัก ในเรื่องของอาหาร ตลอดทั้งเรื่องสถานที่ต่าง ๆ
เรียนให้ทราบว่าสำหรับกรณีของพี่น้องประชาชนซึ่งได้แสดงความสนใจที่จะมาร่วมสมัชชาและด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ ซึ่งขณะนี้ความจริงทางพรรคได้ติดต่อกลับไปหมดแล้ว ดังนั้นผู้เข้าร่วมท่านจะเห็นบัตรขณะนี้ได้มีการออกบัตรไปหมดแล้ว บัตรนี้เป็นบัตรเข้าร่วมประชุมสมัชชามี ชื่อ นามสกุล หมายเลข รูปถ่าย ในกรณีที่ส่งมาตามใบสมัคร เรียบร้อยแล้ว และข้างหลังได้กำหนดที่นั่งในการแบ่งกลุ่มในช่วงเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว และอาจจะด้วยเหตุผลอะไร ก็ตามถ้ายังไม่ได้สิ่งนี้หรือไม่ได้รับการติดต่อกลับ ขอให้ท่านได้เข้ามาตรวจสอบได้ในเวปไซต์สมัชชาประชาชนคือ www.peopleassembly.org ถ้า ชื่อของท่านปรากฎอยู่แล้วมีเลขที่เรียบร้อยแล้ว มีที่พรรคเรียบร้อยแล้วแต่ปรากฎยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ ก็จะได้ติดต่อสอบถามมายังหมายเลขโทรศัพท์ หรือ ทางเวปไซต์ ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าชื่อท่านไม่ปรากฎในเวปไซต์นั้น ก็สามารถติดต่อมาได้เช่น เดียวกันโดยพรรคได้เตรียมการรองรับกรณีที่ว่าไว้ เรียบร้อยแล้ว นอกเหนือจาก 3,200 คนนี้อีกจำนวนหนึ่งซึ่งสามารถเดินทางไปได้ที่ Impact เมืองทองธานีในวันที่ 8 และวันที่ 9 ซึ่งพรรคได้เตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 5 ต.ค. 2548--จบ--
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจัดการประชุมสมัชชาประชาชนระหว่างวันที่ 8 — 9 ตุลาคม พรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าการจัดสมัชชาประชาชนเป็นงาน หรือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ไม่ใช่เฉพาะสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ว่าสำหรับประเทศไทย และการเมืองภาคประชาชน พรรคได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะว่าขณะนี้สภาพของบ้านเมืองเศรษฐกิจสังคม ได้เปลี่ยนแปลงไป และรูปแบบของการทำงานของการเมืองก็ควรจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือความหลากหลายของคนในสังคม ทำให้การทำงานของพรรคการเมืองจะต้องมีการประสานเชื่อมโยงใกล้ชิดกับพลเมือง กับภาคประชาชนมากยิ่งขึ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่คณะผู้บริหารชุดใหม่ของพรรคได้เข้ามาทำหน้าที่ พรรคจึงได้กำหนดเป็นแนวทางสำคัญว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นแบบอย่าง หรือ ต้นแบบของพรรคการเมือง ที่เข้าใจการเมืองแบบมีส่วนร่วม และส่งเสริมการเมืองภาคประชาชน เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการหาทางออกสำหรับประเทศไทย ทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต
‘ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงเป็นที่มาของแนวคิดเรื่องสมัชชา และจากแนวคิดตรงนั้น จนถึงการจะจัดสมัชชาจริงในวันเสาร์ อาทิตย์ นี้ เราได้ไปค้นหาแนวทางที่จะทำให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมเข้ากับพรรคการเมืองได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น และในที่สุดก็ได้มีการดำเนินการมาโดยลำดับ จนกระทั่งในวันที่ 8 — 9 นี้จะมีประชาชนซึ่งมาเข้าร่วมในสมัชชา โดยการตอบรับมาร่วม 3,201 คน กระจายไปทั้งที่เป็นชายและหญิงทั้งที่มาจาก กทม. ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน กระจายตามกลุ่มอาชีพคือประกอบไปด้วยเยาวชน ผู้นำสตรี นักธุรกิจ พ่อค้า เกษตรกร ข้าราชการ ผู้นำชุมชน ผู้แทนผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง นักวิชาการ ครูอาจารย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนองค์กรพัฒนาเอกชน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ สื่อมวลชน รวมไปถึงคนไทยในต่างแดน ซึ่งวันนี้จะให้ตัวเลขรายละเอียดว่าได้แบ่งออกตามอาชีพ ตามเพศ ตามภาคอย่างไร แต่ว่าเราได้ดูแลเพื่อที่จะให้สัดส่วนของผู้เข้าร่วมกระจายอย่างทั่วถึงครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้’นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า โดยการจัดสมัชชาจะเป็นเวลาของประชาชนที่มาร่วมสมัชชาอย่างแท้จริง โดยเริ่มต้นจากการแบ่งกลุ่ม เพราะฉะนั้นตรงนี้จะเป็นคำตอบว่า ทุกคนที่จะมาร่วมสมัชชามีโอกาสแสดงความคิดเห็นแน่นอน ตรงนี้เป็นการชุมนุมคนที่ไม่ใช่ให้มาฟัง นักการเมืองพูด แต่ว่าเมื่อแบ่งย่อย คนในกลุ่มจะได้ใช้เวลาในแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ และจะมีการรวมเป็นกลุ่ม เพื่อเชื่อมโยงประเด็นของแต่ละกลุ่ม และจะมีตัวแทนกลุ่ม นำเสนอผลของการระดมความคิดเห็นในช่วงเย็นของวันนั้น(วันเสาร์) เมื่อได้ระดมความคิดเห็นในช่วงเย็นเสร็จเรียบร้อยมีตัวแทนรายงานเรียบร้อย และหลังจากนั้นก็จะมีการกำหนดประเด็นที่เห็นว่าเป็นความสนใจของผู้ที่เข้าร่วม 7 ประเด็นหลัก ประเด็นนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีการเตรียมการล่วงหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น จะเป็น 7 ประเด็นที่เกิดขึ้นจากการระดมสมองในวันนั้น เพื่อที่ว่าวันรุ่งขึ้น(วันอาทิตย์เช้า) ผู้ที่เข้าร่วมสมัชชาจะได้สามารถแยกเข้าร่วมประชุมตามประเด็นที่สนใจใน 7 ประเด็นนี้ ในการประชุมครังนี้ก็จะมีการประชุมแบบสภากาแฟ ใน 7 ประเด็นนั้น แล้วก็มีการรายงานการระดมความคิดในที่ประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่เราจะทำการสรุปและก็ปิดการประชุมในวันที่ 9 ต.ค.(อาทิตย์)
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า อันนี้คือรูปแบบใหม่ที่จะเป็นการยืนยันว่า การระดมสมอง เป็นการยอมรับความคิดเห็นของผู้เข้าร่วม แบบเปิดกว้าง และจะนำไปสู่ข้อสรุป ซึ่งพรรคจะได้มีการขยายผลต่อไป ในการจัดสมัชชาย่อยจะเป็นตามพื้นที่ ตามประเด็นตามกลุ่มอาชีพ ก่อนที่จะมีการจัดประชุมสมัชชาในครั้งต่อไปในปี 2549 เพราะฉะนั้นอันนี้คือรูปแบบที่ได้กำหนดเอาไว้ชัดเจนเพื่อเปิดกว้าง
ส่วนความพร้อม เรื่องการจัดการ พรรคได้เตรียมการที่จะต้อนรับในบรรดาผู้คน 3,200 กว่าคน จะมีผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัดประมาณ 2,000 คน ขณะนี้พรรคได้จัดที่พรรคทั้งหมด 8 โรงแรม และในวันเสาร์เช้าจะมีบริการรถรับส่งเพื่อไปสู่สถานที่ประชุมคือที่ Impact เมืองทองธานี สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก็สามารถที่จะมาขึ้นรถที่พรรคในช่วงเช้าได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเรื่องของการจัดการของการประชุม ซึ่งมีคนจำนวนมาก ขณะนี้มีความพร้อมมีแล้ว ทั้งในเรื่องของที่พัก ในเรื่องของอาหาร ตลอดทั้งเรื่องสถานที่ต่าง ๆ
เรียนให้ทราบว่าสำหรับกรณีของพี่น้องประชาชนซึ่งได้แสดงความสนใจที่จะมาร่วมสมัชชาและด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ ซึ่งขณะนี้ความจริงทางพรรคได้ติดต่อกลับไปหมดแล้ว ดังนั้นผู้เข้าร่วมท่านจะเห็นบัตรขณะนี้ได้มีการออกบัตรไปหมดแล้ว บัตรนี้เป็นบัตรเข้าร่วมประชุมสมัชชามี ชื่อ นามสกุล หมายเลข รูปถ่าย ในกรณีที่ส่งมาตามใบสมัคร เรียบร้อยแล้ว และข้างหลังได้กำหนดที่นั่งในการแบ่งกลุ่มในช่วงเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว และอาจจะด้วยเหตุผลอะไร ก็ตามถ้ายังไม่ได้สิ่งนี้หรือไม่ได้รับการติดต่อกลับ ขอให้ท่านได้เข้ามาตรวจสอบได้ในเวปไซต์สมัชชาประชาชนคือ www.peopleassembly.org ถ้า ชื่อของท่านปรากฎอยู่แล้วมีเลขที่เรียบร้อยแล้ว มีที่พรรคเรียบร้อยแล้วแต่ปรากฎยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ ก็จะได้ติดต่อสอบถามมายังหมายเลขโทรศัพท์ หรือ ทางเวปไซต์ ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าชื่อท่านไม่ปรากฎในเวปไซต์นั้น ก็สามารถติดต่อมาได้เช่น เดียวกันโดยพรรคได้เตรียมการรองรับกรณีที่ว่าไว้ เรียบร้อยแล้ว นอกเหนือจาก 3,200 คนนี้อีกจำนวนหนึ่งซึ่งสามารถเดินทางไปได้ที่ Impact เมืองทองธานีในวันที่ 8 และวันที่ 9 ซึ่งพรรคได้เตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 5 ต.ค. 2548--จบ--