นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กองทัพอากาศได้ยกห้องทำงานชั้น 2 ในสำนักงานผู้บังคับการ ทหารอากาศดอนเมือง ใช้เป็นศูนย์ประสานงานเลือกตั้งพรรคไทยรักไทย เขตดอนเมือง ปรากฎว่าห้องดังกล่าวนี้ มีเจ้าหน้าที่ของพรรคไทยรักไทย นั่งทำงานอยู่ และได้เริ่มปฏิบัติการมากว่า 2 สัปดาห์
สิ่งที่พรรคฯ อยากสงสัยคือทำไม ผู้สมัคร ส.ส. พรรคไทยรัไทย จึงสามารถเข้าไปใช้สถานที่ของทางราชการ ที่กองทัพอากาศ และหากผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นจะขอใช้สถานที่ดังกล่าว เป็นสาขาพรรคฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะสามารถทำได้หรือไม่ ดังนั้นพรรคฯ จึงต้องการให้กกต.เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
‘อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้โดยด่วน ว่าทำไมกองทัพอากาศจึงปล่อยให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้น หรือเป็นเพราะผู้บังคับการกองทัพอากาศ มีภรรยาเป็นคนสนิท ของภริยานายกฯ จึงสามารถนำพื้นที่ของทางราชการ เป็นศูนย์ประสานงานเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทยได้’ นายองอาจกล่าว
นายองอาจ กล่าวอีกว่า กรณีที่นายกฯ สัญญาว่าจะจัดงบปี 2549 ในวงเงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาท แจกผู้ว่าราชการเป็นรายหัวทั่วประเทศ และจากการตรวจสอบพบว่ามีการประเมิณจากเขตเลือกตั้ง ส.ส. 400 เขต ซึ่งการคำนวนเงินงบประมาณที่ผ่านมา ต้องคำนวนการใช้จ่ายเงินตามความจำเป็นในพื้นที่ หรือตามจำนวนประชากร ตามความเดือนร้อน ไม่ใช่จัดสรรตามจำนวนเขตเลือกตั้ง
'ขณะนี้อยู่ในช่วงร่างกรอบงบประมาณ 2549 ซึ่งนายกฯจะทราบล่วงหน้านั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงปรากฎว่าขณะนี้ผู้ว่าฯแต่ละจังหวัดทราบแล้วว่าจะได้งบประมาณคนละเท่าไหร่' องอาจกล่าว และว่ากรณีนี้ชี้ให้เห็นถึงการใช้อำนาจรัฐที่ไม่ถูกต้องนำเงินภาษีของประชาชน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ม.ค.2548--จบ--
-ดท-
สิ่งที่พรรคฯ อยากสงสัยคือทำไม ผู้สมัคร ส.ส. พรรคไทยรัไทย จึงสามารถเข้าไปใช้สถานที่ของทางราชการ ที่กองทัพอากาศ และหากผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นจะขอใช้สถานที่ดังกล่าว เป็นสาขาพรรคฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะสามารถทำได้หรือไม่ ดังนั้นพรรคฯ จึงต้องการให้กกต.เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
‘อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้โดยด่วน ว่าทำไมกองทัพอากาศจึงปล่อยให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้น หรือเป็นเพราะผู้บังคับการกองทัพอากาศ มีภรรยาเป็นคนสนิท ของภริยานายกฯ จึงสามารถนำพื้นที่ของทางราชการ เป็นศูนย์ประสานงานเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทยได้’ นายองอาจกล่าว
นายองอาจ กล่าวอีกว่า กรณีที่นายกฯ สัญญาว่าจะจัดงบปี 2549 ในวงเงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาท แจกผู้ว่าราชการเป็นรายหัวทั่วประเทศ และจากการตรวจสอบพบว่ามีการประเมิณจากเขตเลือกตั้ง ส.ส. 400 เขต ซึ่งการคำนวนเงินงบประมาณที่ผ่านมา ต้องคำนวนการใช้จ่ายเงินตามความจำเป็นในพื้นที่ หรือตามจำนวนประชากร ตามความเดือนร้อน ไม่ใช่จัดสรรตามจำนวนเขตเลือกตั้ง
'ขณะนี้อยู่ในช่วงร่างกรอบงบประมาณ 2549 ซึ่งนายกฯจะทราบล่วงหน้านั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงปรากฎว่าขณะนี้ผู้ว่าฯแต่ละจังหวัดทราบแล้วว่าจะได้งบประมาณคนละเท่าไหร่' องอาจกล่าว และว่ากรณีนี้ชี้ให้เห็นถึงการใช้อำนาจรัฐที่ไม่ถูกต้องนำเงินภาษีของประชาชน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ม.ค.2548--จบ--
-ดท-