พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 110/2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 14-20 กันยายน 2548
ในช่วงวันที่ 14-15 ก.ย. พายุดีเปรสชั่นซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณจังหวัดนครราชสีมา (เมื่อเวลา 10.00 น. 14 ก.ย.48) จะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณจังหวัดสระบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี เข้าสู่ประเทศพม่า และลงสู่อ่าวมะตะบันในระยะต่อไป ลักษณะดังกล่าวจะยังคงทำให้ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคใต้ตอนบนมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ในช่วงวันที่ 16-20 ก.ย. พายุดีเปรสชั่นอีกลูกหนึ่งบริเวณประเทศฟิลิปปินส์จะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือลงสู่ทะเลจีนใต้ และร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนจะ พาดผ่านภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึง เกือบทั่วไป
ข้อควรระวัง
ในระยะนี้บริเวณพื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ใกล้ทางน้ำไหล ในพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน จะเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ เกษตรกรควรเตรียมการ ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นด้วย ส่วนบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงในช่วงวันที่ 14-15 ก.ย. และคลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีกำลังค่อนข้างเกือบตลอดช่วง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# มีฝนฟ้าคะนอง 60-80 % ของพื้นที่ โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก สุโขทัย และเพชรบูรณ์ ลมแปรปรวน ความเร็ว 10—25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 70%
ผลกระทบต่อการเกษตร
# บริเวณที่มีฝนตกทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุดในไม้ดอก โรครากเน่าโคนเน่า ในไม้ผล
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# มีฝนฟ้าคะนอง 60-70 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 70%
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะนี้มีฝนตกชุกซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมได้บางพื้นที่ ควรรีบระบายน้ำออกจากแปลงปลูก และระวังป้องกันโรคฉี่หนู ส่วนชาวนาควรระวังการระบาดของหอยเชอรี่ นอกจากนี้ ควรระวังการระบาดของโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร และโรคตาแดง ด้วย
กลาง
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 14-15 ก.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นบริเวณกว้างกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และราชบุรี ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.ย. จะมีฝนฟ้าคะนอง 60-80% ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 75%
ผลกระทบต่อการเกษตร
# เนื่องจากระยะนี้มีฝนตกชุกหนาแน่น ทำให้เกิดน้ำท่วมได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรยกพื้นคอกสัตว์ให้สูง นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคแอนแทรกโนสในไม้ผลและโรคเน่าในพืชผัก
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 14-15 ก.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นบริเวณกว้างกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.ย. จะมีฝนฟ้าคะนอง 60-80% ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 75%
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะนี้มีฝนตกชุกหนาแน่น ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมได้บางพื้นที่ สวนผลไม้ซึ่งเป็นที่ลุ่ม ชาวสวน ควรทำทางระบายน้ำออก เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นทำให้รากขาดอากาศและตายได้ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังการเปลี่ยนแปลงของสภาพน้ำ ที่อาจทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและติดโรคได้ง่าย
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 14-15 ก.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นบริเวณกว้างกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ทางตอนบนของภาค ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ลมตะวันตก เฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ก.ย. จะมีฝนฟ้าคะนอง 40-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
# ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่เกือบตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95% ตอนบ่าย 60%
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 14-15 ก.ย. จะมีฝนตกชุกโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรที่ปลูกสับปะรดควรระวังการระบาดของโรคยอดเน่า ส่วนผู้ที่ปลูกผักควรยกร่องให้สูงขึ้นและทำทางระบายน้ำออกจากแปลงปลูก นอกจากนี้ ผู้ที่ปลูกพืชสวนควรระวังการระบาดของโรคพืชจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่าโคนเน่า และโรคแอนแทรกโนส
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74