พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม 2548
ระยะนี้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงเกือบตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 1-4 ส.ค. ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนจะพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ในช่วงวันที่ 29-30 ก.ค. บริเวณภาคเหนือจะมีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนภาคอื่นๆจะมีฟ้าคะนองกระจายถึง เกือบทั่วไป สำหรับในช่วงวันที่ 31 ก.ค.- 2 ส.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงตลอดช่วง อนึ่ง พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำประมาณ 200 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 18.5 ๐ เหนือ ลองจิจูด 112.4๐ ตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือในระยะแรก ด้วยความเร็ว 15 กม./ชม. คาดว่า จะเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนทางตะวันตกในระยะต่อไปเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย และประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 30 ก.ค.-1 ส.ค.นี้
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 31 ก.ค.-2 ส.ค. บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น อาจเกิดสภาวะน้ำท่วมในที่ราบลุ่มและที่ลาดเชิงเขาบางพื้นที่ของพื้นที่เสี่ยงภัย เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับบริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณะอากาศ
ช่วงวันที่ 29-30 ก.ค.มีฝนฟ้าคะนอง 30-50 % ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. สำหรับในช่วงวันที่ 31 ก.ค.-2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง 50-70 % ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก บางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 65%
ผลกระทบต่อการเกษตร
ช่วงวันที่ 31 ก.ค.-2 ส.ค. ซึ่งมีฝนตกชุกเกษตรกรที่ปลูกไม้ผล เช่น ลิ้นจี่และลำไย ควรป้องกันโรคพืชที่เกิดจาก เชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าและโคนเน่า ซึ่งจะทำให้พืชเสียหาย หากพบการระบาดของโรคดังกล่าว ควรถากบริเวณที่เป็นโรคออกแล้วทาด้วยสารกำจัดเชื้อรา นอกจากนี้ควรตัดแต่งกิ่งเพื่อลดความชื้นบริเวณทรง
พุ่ม
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
มีฝนฟ้าคะนอง 40-60 % ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 30 ก.ค.-1 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง 60-80 % ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 70%
ผลกระทบต่อการเกษตร
สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งมีฝนตกชุกโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค อากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกขิงควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคขิงเน่า และโรคแอนแทรกโนส ซึ่งจะทำให้ขิงชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง หากพบการระบาดควร เก็บส่วนที่เป็นโรคไปทำลาย และทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันน้ำขังแฉะ
กลาง
ลักษณะอากาศ
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป หรือ 50-70% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 30 ก.ค. - 2 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 65%
ผลกระทบต่อการเกษตร
บริเวณที่มีฝนตกโดยเฉพาะบริเวณด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค เกษตรกรที่ปลูกหอมใหญ่ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคแอนแทรกโนส โรคใบไหม้ และโรคเน่าคอดิน ซึ่งจะทำให้หอมชะงักการเจริญเติบโต และเสียหาย ดั้งนั้นจึงควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรตัดส่วนที่เป็นโรคไปเผาทำลาย เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังต้นอื่นๆ
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
มีฝนฟ้าคะนอง 50-70% ของพื้นที่ โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 30 ก.ค.-2 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย ตอนเช้า 95 % ตอนบ่าย 70%
ผลกระทบต่อการเกษตร
บริเวณที่มีฝนตกโดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาและชายฝั่งในช่วงวันที่ 30 ก.ค.-2 ส.ค. ทำให้อากาศมีความชื้นสูง เกษตรที่ปลูกสละและระกำ ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคยอดเน่า โรคใบจุด โรคผลและทลายเน่า ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตเสียหาย หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรรีบกำจัด โดยปลิดผลที่เน่าทิ้ง เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ระบาดไปยังผลอื่นๆ นอกจากนี้ควรกำจัดวัชพืชเพื่อลดความชื้นบริเวณสวน
ใต้
ลักษณะอากาศ
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนอง 30-50% ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
# ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง 40-60%ของพื้นที่ และในช่วงวันที่ 30 ก.ค.-2 ส.ค. มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95% ตอนบ่าย 60% ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตอนเช้า 95% ตอนบ่าย 60%
ผลกระทบต่อการเกษตร
ไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่ เช่น ลองกองและทุเรียน ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคผลเน่า ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหาย หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรรีบกำจัดโดยเก็บผลที่ร่วงหล่นไปทำลาย อนึ่ง ในระยะนี้ บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กบริเวณทะอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-