ปีที่แล้วรัฐบาลได้เสนองบกลางปีมาในลักษณะอย่างนี้ครับ ความแตกต่างมีอยู่ว่า เงินก้อนใหญ่ของงบกลางปี ปีที่แล้ว เป็นการเสนอมาในเรื่องของการปรับเงินเดือนข้าราชการ ปรับเรื่องของบำเหน็จบำนาญ เพราะฉะนั้นสุดท้ายเงินตรงนั้นไปใช้ไม่มีปัญหาครับ คือเป็นไปตามเป้าหมาย หรือใช้เกินกว่าที่ขอไว้ โดยเอางบส่วนอื่นมาสมทบ แต่เงินที่ตั้งไว้ลอยๆ ปีที่แล้ว 50,000 กว่าล้าน ซึ่งจะเหมือนกับเงินทั้งก้อนปีนี้ 50,000 ล้าน ท่านประธานทราบไหมครับว่า ปีที่แล้วเมื่อมาขอสภาไปใช้จ่าย สิ้นปีงบประมาณรัฐบาลสามารถใช้จ่ายได้เป็นสัดส่วนเท่าไร ปรากฏว่าใน 50,000 กว่าล้าน สามารถจ่ายได้จริงไม่ถึงร้อยละ 9 ของงบกลางปีที่มาขอสภา และเมื่อรวมนับมาถึงวันนี้ คือมาใช้จ่ายในปีงบประมาณต่อมาจนถึงวันนี้ก็ใช้จ่ายไปเพียงร้อยละ 22 ตรงนี้เป็นตัวบ่งบอกที่กระผมอยากจะกราบเรียนเพื่อสรุปนะครับว่า ทั้งในแง่ของการวางแผน ในเชิงยุทธศาสตร์ ความสอดคล้องกับเศรษฐกิจ ภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม ระบบการบริหารจัดการที่ดี ประสิทธิภาพของการใช้จ่าย กระผมมองไม่เห็นเลยว่าจะสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมฉบับนี้ได้อย่างไร
ท่านประธานครับ ผมอยากจะเปรียบเทียบให้เห็นเป็นประเด็นสุดท้ายครับว่า ถ้าเราเปรียบเทียบประเทศเป็นบริษัท วันนี้ผู้บริหารซีอีโอมาขอคณะกรรมการหรือมาขอบอร์ดให้อนุมัติค่าใช้จ่ายเพิ่ม เหตุผลไม่มีอะไรเลยครับ บอกว่าที่ผ่านมา บริษัทรายได้มากกว่าที่คิด แต่ถ้าวิเคราะห์สภาวะทางธุรกิจ เห็นได้ชัดว่าธุรกิจกำลังมีความเสี่ยง เศรษฐกิจในภาพรวมเปรียบเหมือนเศรษฐกิจโลกมีการชะลอตัว ผมไม่คิดหรอกครับว่า มีบริษัทดีๆ ที่ไหน ที่คณะกรรมการจะยอมอนุมัติให้ผู้บริหารเอาเงินไปใช้จ่ายเพิ่ม เพียงเพราะรายได้ 6 เดือนแรกมากกว่าที่คาดไว้
นอกจากนั้นบริษัทนี้ก็ยังมีปัญหาที่มีหนี้อยู่ในอีกบัญชีหนึ่ง ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ถ้าเปรียบเทียบประเทศเป็นครอบครัว วันนี้หัวหน้าครอบครัวมาบอกว่า 6 เดือนที่ผ่านมามีรายได้มากกว่าที่คิดขอใช้จ่ายเลย ทั้ง ๆ ที่ครอบครัวนั้นก็ค้างค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์อยู่ และมองเห็นว่าวันข้างหน้าโอกาสของการทำรายได้ของสมาชิกในครอบครัวก็ลดลง ผมก็เชื่อว่าหัวหน้าครอบครัวที่รับผิดชอบ ไม่มาขอ และครอบครัวก็คงไม่ยินยอมไม่อนุมัติ
ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้นวันนี้เราพูดถึงประเทศ พวกกระผมก็เป็นตัวแทนของผู้เสียภาษี เป็นคนที่ต้องจ่ายเงินเข้ามาเพื่อเป็นรายได้เข้าประเทศ เราเห็นแล้วว่าเงินที่จะเอาไปใช้จ่ายมันไม่คุ้มค่า มันไม่จำเป็น มันไม่เหมาะสม เพียงเพราะมีเก็บเงินที่ได้จากประชาชนเพิ่ม 50,000 ล้าน เพราะมันไม่อิงอยู่กับความเป็นจริงของภาวะเศรษฐกิจ ที่เรามองเห็นข้างหน้า มันไม่อิงอยู่กับการจัดการการวางแผนที่ดี ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น และที่สำคัญมันไม่เป็นธรรมกับเจ้าของเงิน และมันอาจจะไปปัญหาในอนาคตสำหรับเขา ด้วยเหตุผลเหล่านี้พวกกระผมไม่สามารถรับหลักการของพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณพุทธศักราช 2548 พ.ศ.ที่รัฐบาลเสนอมาได้ครับ กราบขอบพระคุณครับ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 เม.ย. 2548--จบ--
-ดท-
ท่านประธานครับ ผมอยากจะเปรียบเทียบให้เห็นเป็นประเด็นสุดท้ายครับว่า ถ้าเราเปรียบเทียบประเทศเป็นบริษัท วันนี้ผู้บริหารซีอีโอมาขอคณะกรรมการหรือมาขอบอร์ดให้อนุมัติค่าใช้จ่ายเพิ่ม เหตุผลไม่มีอะไรเลยครับ บอกว่าที่ผ่านมา บริษัทรายได้มากกว่าที่คิด แต่ถ้าวิเคราะห์สภาวะทางธุรกิจ เห็นได้ชัดว่าธุรกิจกำลังมีความเสี่ยง เศรษฐกิจในภาพรวมเปรียบเหมือนเศรษฐกิจโลกมีการชะลอตัว ผมไม่คิดหรอกครับว่า มีบริษัทดีๆ ที่ไหน ที่คณะกรรมการจะยอมอนุมัติให้ผู้บริหารเอาเงินไปใช้จ่ายเพิ่ม เพียงเพราะรายได้ 6 เดือนแรกมากกว่าที่คาดไว้
นอกจากนั้นบริษัทนี้ก็ยังมีปัญหาที่มีหนี้อยู่ในอีกบัญชีหนึ่ง ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ถ้าเปรียบเทียบประเทศเป็นครอบครัว วันนี้หัวหน้าครอบครัวมาบอกว่า 6 เดือนที่ผ่านมามีรายได้มากกว่าที่คิดขอใช้จ่ายเลย ทั้ง ๆ ที่ครอบครัวนั้นก็ค้างค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์อยู่ และมองเห็นว่าวันข้างหน้าโอกาสของการทำรายได้ของสมาชิกในครอบครัวก็ลดลง ผมก็เชื่อว่าหัวหน้าครอบครัวที่รับผิดชอบ ไม่มาขอ และครอบครัวก็คงไม่ยินยอมไม่อนุมัติ
ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้นวันนี้เราพูดถึงประเทศ พวกกระผมก็เป็นตัวแทนของผู้เสียภาษี เป็นคนที่ต้องจ่ายเงินเข้ามาเพื่อเป็นรายได้เข้าประเทศ เราเห็นแล้วว่าเงินที่จะเอาไปใช้จ่ายมันไม่คุ้มค่า มันไม่จำเป็น มันไม่เหมาะสม เพียงเพราะมีเก็บเงินที่ได้จากประชาชนเพิ่ม 50,000 ล้าน เพราะมันไม่อิงอยู่กับความเป็นจริงของภาวะเศรษฐกิจ ที่เรามองเห็นข้างหน้า มันไม่อิงอยู่กับการจัดการการวางแผนที่ดี ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น และที่สำคัญมันไม่เป็นธรรมกับเจ้าของเงิน และมันอาจจะไปปัญหาในอนาคตสำหรับเขา ด้วยเหตุผลเหล่านี้พวกกระผมไม่สามารถรับหลักการของพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณพุทธศักราช 2548 พ.ศ.ที่รัฐบาลเสนอมาได้ครับ กราบขอบพระคุณครับ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 เม.ย. 2548--จบ--
-ดท-