‘อลงกรณ์’ เตรียมยื่นรายชื่อกลุ่มบุคคลเพื่อให้ตำรวจเชิญตัวไปให้ปากคำคดีสินบนคาร์ปาร์ค มีนายกฯและเครือญาติรวมทั้งทหารและนักธุรกิจ เผยข้อความในเทปทวงเงินระชื่อ ‘นายกฯ’ และ ‘นายใหญ่’ ว่ารู้เรื่องการเรียกรับสินบนอื้ฉาวก่อนมีนาคม 2548
วันนี้(10 ส.ค.) เวลา 11.00 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าขณะนี้คดีสินบนคาร์ปาร์คที่ตนได้กล่าวได้กล่าวโทษกลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดอาญาจำนวน 8 คนได้มีความคืบหน้าแล้ว นับแต่ที่ตนได้ไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเป็นรายแรกในฐานะผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และตนจะได้แจ้งรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือรับรู้เรื่องการเรียกรับสินบนคดีนี้ให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อเชิญตัวมาสอบปากคำประกอบไปด้วยบุคคลหลายอาชีพ ได้แก่นักการเมือง ทหาร นักธุรกิจ ข้าราชการและประชาชน เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ,น.พ.พรหมมินทร์ เลิศสุริเดช ,พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ,นางวีณา ชินวัตร, เจ้าของบริษัทปุ๋ยฯ, พล.ท.สอาด สุทธิรักษ์ , น.ส.สุภาพร วงษ์พาดกลาง ,น.ส.สิตานัน คุณศิริ, น.ส.หนึ่งฤทัย ก้างออนตา เป็นต้น ซึ่งตนเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้จะให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหากทุกคนพูดความจริง สำหรับรายชื่ออื่นๆ จะทยอยแจ้งเพิ่มเติมให้กับพนักงานสอบสวนต่อไป
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ตนถูกนางเยาวเรศ ชินวัตร ร้องศาลแพ่งออกคำสั่งห้ามตนพูดหรือเผยแพร่ข้อมูลคดีสินบนคาร์ปาร์คมิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล จึงไม่สามารถเผยแพร่เทปบันทึกเสียงการทวงเงินของนายลัทธพล เกษโกธิน กับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องได้ แต่ได้ให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาเรื่องนี้อยู่
‘อย่างไรก็ตามในเนื้อหาสาระโดยสรุปของการทวงเงินมีนายลัทธพล นายพูลสวัสดิ์ นายชยันต์ และบุคคลอื่นๆรวมอยู่ด้วยซึ่งมีการทวงเงิน 2 ก้อน ก้อนแรก 23 ล้านบาท ที่กลุ่มนักการเมืองเรียกสินบนและยังไม่ยอมคืนกับอีก 25 ล้านบาทที่กลุ่มผู้ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีรับไปแล้วและคืนเงินมาบางส่วน นายลัทธพลได้พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับข้อความในวีซีดี ชุดที่ 1 ความยาม 27 นาที และมีการระบุในระหว่างการทวงเงินอ้างถึงคำว่า ‘นายใหญ่’ และ ‘นายกรัฐมนตรี’ ว่ารู้เรื่องนี้แล้ว ซึ่งการประชุมทวงเงินของนายลัทธพลกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2548 ที่ห้องอาหารจีนไดนัสตี้โรงแรมแรมโซฟิเทลเซนทรัลลาดพร้าวและยังกล่าวถึงการเสนองานประมูลก่อสร้างเรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ของผู้ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีแลกกับงานคาร์ปาร์คสนามบินสุวรรณภูมิด้วย โดยสาระสำคัญในเทปบันทึกเสียงของผู้เกี่ยวข้องยอมรับว่ามีการจ่ายและรับเงิน 25 ล้านบาทจริง ซึ่งตนถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญยืนยันคดีสินบนคาร์ปาร์คและเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะได้สืบสวนสอบสวนโดยเร็วต่อไป’นายอลงกรณ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 ส.ค. 2548--จบ--
วันนี้(10 ส.ค.) เวลา 11.00 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าขณะนี้คดีสินบนคาร์ปาร์คที่ตนได้กล่าวได้กล่าวโทษกลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดอาญาจำนวน 8 คนได้มีความคืบหน้าแล้ว นับแต่ที่ตนได้ไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเป็นรายแรกในฐานะผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และตนจะได้แจ้งรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือรับรู้เรื่องการเรียกรับสินบนคดีนี้ให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อเชิญตัวมาสอบปากคำประกอบไปด้วยบุคคลหลายอาชีพ ได้แก่นักการเมือง ทหาร นักธุรกิจ ข้าราชการและประชาชน เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ,น.พ.พรหมมินทร์ เลิศสุริเดช ,พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ,นางวีณา ชินวัตร, เจ้าของบริษัทปุ๋ยฯ, พล.ท.สอาด สุทธิรักษ์ , น.ส.สุภาพร วงษ์พาดกลาง ,น.ส.สิตานัน คุณศิริ, น.ส.หนึ่งฤทัย ก้างออนตา เป็นต้น ซึ่งตนเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้จะให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหากทุกคนพูดความจริง สำหรับรายชื่ออื่นๆ จะทยอยแจ้งเพิ่มเติมให้กับพนักงานสอบสวนต่อไป
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ตนถูกนางเยาวเรศ ชินวัตร ร้องศาลแพ่งออกคำสั่งห้ามตนพูดหรือเผยแพร่ข้อมูลคดีสินบนคาร์ปาร์คมิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล จึงไม่สามารถเผยแพร่เทปบันทึกเสียงการทวงเงินของนายลัทธพล เกษโกธิน กับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องได้ แต่ได้ให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาเรื่องนี้อยู่
‘อย่างไรก็ตามในเนื้อหาสาระโดยสรุปของการทวงเงินมีนายลัทธพล นายพูลสวัสดิ์ นายชยันต์ และบุคคลอื่นๆรวมอยู่ด้วยซึ่งมีการทวงเงิน 2 ก้อน ก้อนแรก 23 ล้านบาท ที่กลุ่มนักการเมืองเรียกสินบนและยังไม่ยอมคืนกับอีก 25 ล้านบาทที่กลุ่มผู้ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีรับไปแล้วและคืนเงินมาบางส่วน นายลัทธพลได้พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับข้อความในวีซีดี ชุดที่ 1 ความยาม 27 นาที และมีการระบุในระหว่างการทวงเงินอ้างถึงคำว่า ‘นายใหญ่’ และ ‘นายกรัฐมนตรี’ ว่ารู้เรื่องนี้แล้ว ซึ่งการประชุมทวงเงินของนายลัทธพลกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2548 ที่ห้องอาหารจีนไดนัสตี้โรงแรมแรมโซฟิเทลเซนทรัลลาดพร้าวและยังกล่าวถึงการเสนองานประมูลก่อสร้างเรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ของผู้ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีแลกกับงานคาร์ปาร์คสนามบินสุวรรณภูมิด้วย โดยสาระสำคัญในเทปบันทึกเสียงของผู้เกี่ยวข้องยอมรับว่ามีการจ่ายและรับเงิน 25 ล้านบาทจริง ซึ่งตนถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญยืนยันคดีสินบนคาร์ปาร์คและเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะได้สืบสวนสอบสวนโดยเร็วต่อไป’นายอลงกรณ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 ส.ค. 2548--จบ--