เป็นที่ยอมรับว่า นโยบาย หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ของรัฐบาล (OTOP) มีส่วนในการส่งเสริมให้เกิดผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย และถ้าจะจัดอันดับประเภทของสินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์ ไวน์ หรือน้ำผลไม้คงเป็นผลิตภัณฑ์อันดับต้นๆ ที่กลุ่มเกษตรกร หรือกลุ่มแม่บ้านนิยมผลิต ส่งผลให้มีผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกมาวางขายมากมาย โดยที่บางผลิตภัณฑ์ก็ยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร ทางภาครัฐจึงกำหนดให้มีหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพไวน์ และน้ำผลไม้เหล่านี้ ซึ่งมีส่วนกระตุ้นให้ผู้ผลิตทั้งหลายหันมาให้ความใส่ใจกับกระบวนการผลิตไวน์และน้ำผลไม้ของตนเพิ่มมากขึ้น
สำหรับวิธีการฆ่าเชื้อที่กลุ่มแม่บ้านนิยมทำนั้น คือการนำไวน์หรือน้ำผลไม้ที่ต้องการฆ่าเชื้อใส่หม้อต้ม แล้วคนเป็นเวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งวิธีการนี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้ยังคงมีการปนเปื้อน เพราะถ้าการคนนั้น ทำได้ไม่สม่ำเสมอ ย่อมทำให้กระบวนการฆ่าเชื้อไม่สมบูรณ์ จุลินทรีย์จึงยังคงหลงเหลืออยู่ เมื่อนำมาบรรจุจึงทำให้ไวน์หรือน้ำผลไม้ที่ได้เกิดการบูดเน่าได้
ดร.ภานุวัฒน์ ทรัพย์ปรุง อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น จึงได้คิดค้นเครื่องพาสเจอไรซ์แบบขดประหยัดพลังงาน (Low Energy Pasturizer) ขึ้น โดยเครื่องพาสเจอไรซ์นี้จะช่วยลดขั้นตอนที่ผู้ผลิตจะต้องไปสัมผัสโดยตรงกับวัตถุดิบที่จะนำมาทำไวน์ หรือน้ำผลไม้ เพราะเพียงเทวัตถุดิบลงไปในตัวเครื่องในส่วนของถังบรรจุเท่านั้น กระบวนการพาสเจอไรซ์ก็จะดำเนินไปโดยอัตโนมัติ
สำหรับหลักการทำงานของเครื่องพาสเจอไรซ์แบบขดประหยัดพลังงานนี้ มีส่วนประกอบสำคัญอยู่ 4 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนถังน้ำร้อน ถังน้ำเย็น ส่วนที่สองเป็นส่วนให้ความร้อน ความเย็น ส่วนที่สามเป็นส่วนผลิตภัณฑ์ก่อนและหลังพาสเจอไรซ์ ส่วนที่สี่เป็นส่วนของชุด Control เป็นระบบวงจรไฟฟ้า โดยการทำงานของตัวเครื่องจะเริ่มจากกระบวนการทำน้ำเย็นก่อน ให้น้ำเย็นมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 5-10 องศาเซลเซียส และกระบวนการทำน้ำร้อน ให้น้ำร้อนมีอุณหภูมิประมาณ 90-95 องศาเซลเซียส เมื่อทั้งสองกระบวนการเสร็จแล้ว ก็นำน้ำร้อน น้ำเย็น ที่ได้มาเก็บในส่วนของถังน้ำร้อนและถังน้ำเย็นก่อน แล้วเข้าสู่กระบวนการพาสเจอไรซ์ โดยเริ่มเปิดสวิตซ์ เพื่อให้น้ำร้อนไหลไปตามท่อน้ำร้อน และให้น้ำเย็นไหลไปตามท่อน้ำเย็น ต่อมาก็จะสูบเอาผลิตภัณฑ์ให้ไหลเข้ามาในท่อ ที่มีน้ำร้อนหุ้มอยู่ชั้นนอก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ร้อนขึ้น จนถึงอุณหภูมิที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งแล้วแต่ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด แล้วจึงผ่านการทำความเย็นอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการน็อกเชื้อไม่ให้เจริญเติบโตต่อไปได้อีก
กระบวนการพาสเจอไรซ์นี้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะได้ไวน์ หรือน้ำผลไม้ครั้งหนึ่งประมาณ 50 ลิตร ซึ่งการพาสเจอไรซ์ผ่านเครื่องพาสเจอไรซ์นี้เป็นวิธีการที่สามารถป้องกันการสูญเสียพลังงานความร้อนไปโดยเปล่าประโยชน์ได้ เพราะในส่วนให้ความร้อนเราจะมีฉนวนหุ้ม ส่วนท่อให้ความร้อนจะถ่ายเทไปให้กับผลิตภัณฑ์เท่านั้น ทำให้ความร้อนไม่สูญเสียไปไหน
ในขณะนี้ เครื่องดังกล่าวได้นำไปใช้ที่กลุ่มแม่บ้านสตรีโนนทัน 1 อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทำการผลิตไวน์เป็นสินค้า OTOP ปรากฏว่าเครื่องพาสเจอไรซ์นี้ช่วยให้กลุ่มแม่บ้านสามารถผลิตไวน์ได้รวดเร็วขึ้น และได้มาตรฐานจนได้รับรางวัลสินค้า OTOP ห้าดาว
เกษตรกร หรือกลุ่มแม่บ้านใดสนใจ เครื่องพาสเจอไรซ์แบบขดประหยัดพลังงาน สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ดร.ภานุวัฒน์ ทรัพย์ปรุง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น หมายเลขโทรศัพท์ (043) 235-403 (09) 861-7415
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
สำหรับวิธีการฆ่าเชื้อที่กลุ่มแม่บ้านนิยมทำนั้น คือการนำไวน์หรือน้ำผลไม้ที่ต้องการฆ่าเชื้อใส่หม้อต้ม แล้วคนเป็นเวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งวิธีการนี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้ยังคงมีการปนเปื้อน เพราะถ้าการคนนั้น ทำได้ไม่สม่ำเสมอ ย่อมทำให้กระบวนการฆ่าเชื้อไม่สมบูรณ์ จุลินทรีย์จึงยังคงหลงเหลืออยู่ เมื่อนำมาบรรจุจึงทำให้ไวน์หรือน้ำผลไม้ที่ได้เกิดการบูดเน่าได้
ดร.ภานุวัฒน์ ทรัพย์ปรุง อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น จึงได้คิดค้นเครื่องพาสเจอไรซ์แบบขดประหยัดพลังงาน (Low Energy Pasturizer) ขึ้น โดยเครื่องพาสเจอไรซ์นี้จะช่วยลดขั้นตอนที่ผู้ผลิตจะต้องไปสัมผัสโดยตรงกับวัตถุดิบที่จะนำมาทำไวน์ หรือน้ำผลไม้ เพราะเพียงเทวัตถุดิบลงไปในตัวเครื่องในส่วนของถังบรรจุเท่านั้น กระบวนการพาสเจอไรซ์ก็จะดำเนินไปโดยอัตโนมัติ
สำหรับหลักการทำงานของเครื่องพาสเจอไรซ์แบบขดประหยัดพลังงานนี้ มีส่วนประกอบสำคัญอยู่ 4 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนถังน้ำร้อน ถังน้ำเย็น ส่วนที่สองเป็นส่วนให้ความร้อน ความเย็น ส่วนที่สามเป็นส่วนผลิตภัณฑ์ก่อนและหลังพาสเจอไรซ์ ส่วนที่สี่เป็นส่วนของชุด Control เป็นระบบวงจรไฟฟ้า โดยการทำงานของตัวเครื่องจะเริ่มจากกระบวนการทำน้ำเย็นก่อน ให้น้ำเย็นมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 5-10 องศาเซลเซียส และกระบวนการทำน้ำร้อน ให้น้ำร้อนมีอุณหภูมิประมาณ 90-95 องศาเซลเซียส เมื่อทั้งสองกระบวนการเสร็จแล้ว ก็นำน้ำร้อน น้ำเย็น ที่ได้มาเก็บในส่วนของถังน้ำร้อนและถังน้ำเย็นก่อน แล้วเข้าสู่กระบวนการพาสเจอไรซ์ โดยเริ่มเปิดสวิตซ์ เพื่อให้น้ำร้อนไหลไปตามท่อน้ำร้อน และให้น้ำเย็นไหลไปตามท่อน้ำเย็น ต่อมาก็จะสูบเอาผลิตภัณฑ์ให้ไหลเข้ามาในท่อ ที่มีน้ำร้อนหุ้มอยู่ชั้นนอก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ร้อนขึ้น จนถึงอุณหภูมิที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งแล้วแต่ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด แล้วจึงผ่านการทำความเย็นอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการน็อกเชื้อไม่ให้เจริญเติบโตต่อไปได้อีก
กระบวนการพาสเจอไรซ์นี้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะได้ไวน์ หรือน้ำผลไม้ครั้งหนึ่งประมาณ 50 ลิตร ซึ่งการพาสเจอไรซ์ผ่านเครื่องพาสเจอไรซ์นี้เป็นวิธีการที่สามารถป้องกันการสูญเสียพลังงานความร้อนไปโดยเปล่าประโยชน์ได้ เพราะในส่วนให้ความร้อนเราจะมีฉนวนหุ้ม ส่วนท่อให้ความร้อนจะถ่ายเทไปให้กับผลิตภัณฑ์เท่านั้น ทำให้ความร้อนไม่สูญเสียไปไหน
ในขณะนี้ เครื่องดังกล่าวได้นำไปใช้ที่กลุ่มแม่บ้านสตรีโนนทัน 1 อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทำการผลิตไวน์เป็นสินค้า OTOP ปรากฏว่าเครื่องพาสเจอไรซ์นี้ช่วยให้กลุ่มแม่บ้านสามารถผลิตไวน์ได้รวดเร็วขึ้น และได้มาตรฐานจนได้รับรางวัลสินค้า OTOP ห้าดาว
เกษตรกร หรือกลุ่มแม่บ้านใดสนใจ เครื่องพาสเจอไรซ์แบบขดประหยัดพลังงาน สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ดร.ภานุวัฒน์ ทรัพย์ปรุง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น หมายเลขโทรศัพท์ (043) 235-403 (09) 861-7415
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-