ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.คาดสถาบันประกันเงินฝากจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในปี 48 นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้
ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝากคาดว่าจะดำเนินการเสร็จ
สิ้นภายในปี 48 หลังจากนั้น จึงจะมีการร่างประกาศวงเงินค้ำประกันภายใต้ พ.ร.บ.สถาบันประกันเงินฝากอีก
ครั้ง ซึ่งจะใช้เวลาปรับตัวประมาณ 4 ปี ทั้งนี้ พ.ร.บ.สถาบันประกันเงินฝากเป็นกฎหมายสำคัญที่รัฐบาลจะนำเข้าที่
ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมนี้ โดยเมื่อมีสถาบันประกันเงินฝากแล้ว การรับประกันเงินฝากเต็มจำนวนของ
กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจะถูกยกเลิก และใช้ระบบประกันเงินฝากมาทดแทน (โพสต์ทู
เดย์, โลกวันนี้)
2. ธปท.เผยไม่กล่าวโทษฟ้องร้อง ผู้บริหารกรุงไทยเพิ่มเติมอีก ผอส.ฝ่ายคดี ธนาคารแห่งประเทศ
ไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.คงไม่กล่าวโทษฟ้องร้องผู้บริหาร ธ.กรุงไทยเพิ่มเติมอีก เพราะหลักฐานที่มีกรณี
ลูกหนี้ 9 รายที่เข้าข่ายน่าสงสัยของ ธ.กรุงไทยที่เหลือจนถึงขณะนี้ยังไม่พบความผิดที่จะกล่าวโทษฟ้องร้องได้ ยก
เว้นฝ่ายตรวจสอบธนาคารพาณิชย์จะมีหลักฐานความผิดเพิ่มเติมมาให้ สำหรับกรณีที่ชี้แจงกับคณะกรรมาธิการการเงิน
การคลังและสถาบันการเงิน วุฒิสภาเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นการชี้แจงถึงการกล่าวโทษฟ้องร้องผู้บริหาร ธ.
กรุงไทย รวมทั้งชี้แจงว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพราะเป็นการนำข้อมูลจากฝ่ายตรวจสอบธนาคารพาณิชย์ที่ ธปท.
ตรวจสอบทุกธนาคารเป็นประจำ 2 ครั้งต่อปีอยู่แล้ว หากพบข้อมูลที่น่าสงสัยทางฝ่ายคดีก็จะพิจารณาทุกธนาคารว่ามี
หลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่ (โลกวันนี้, ผู้จัดการรายวัน)
3. ปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินทุกชนิดอีก 40 สตางค์/ลิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน
บ.ปตท.เปิดเผยว่า ปตท.ประกาศปรับราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันเบนซินทุกชนิดอีก 40 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่เวลา
6.00 น.วันที่ 11 มี.ค.48 ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นดังนี้ ราคาน้ำมัน
เบนซิน 95 อยู่ที่ 22.09 บาท/ลิตร เบนซิน 91 อยู่ที่ 21.29 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 20.59 บาท/
ลิตร ส่วนดีเซลยังคงอยู่ในระดับ 15.19 บาท/ลิตรต่อไป ทั้งนี้ การปรับราคาน้ำมันในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากราคา
น้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มี.ค.น้ำมันดิบทุก
ชนิดและราคาน้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิด ปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ข่าวสด, เดลินิวส์, ไทยรัฐ)
4. เปิดเผยผลการศึกษาปัญหาการทุจริต 5 หน่วยงานของรัฐ ประธานคณะทำงานติดตามและศึกษาปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้สภาที่ปรึกษา
ได้ยื่นรายงานเสนอแนวทางการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการทุจริตของหน่วยงานราชการไทย รวมถึงผลวิจัยรูปแบบ
การทุจริตของ 5 หน่วยให้ นรม.พิจารณา ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กรมทางหลวง
กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมส่งเสริมการเกษตร ทั้งนี้ หลังจากการสำรวจรูปแบบการทุจริตทั้ง 5
หน่วยงานเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่า กรมศุลกากรเป็นองค์การที่สามารถปรับปรุงระบบการทำงานให้เกิดความ
โปร่งใสที่เป็นรูปธรรมมากสุด รองลงมา กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนอีก 3 หน่วยงานยังไม่เปลี่ยน
แปลงพฤติกรรมจากเดิมมากนัก (เดลินิวส์, กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. จำนวนคนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สรอ.เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดหมายอยู่ในระดับสูงสุดใน
รอบ 2 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 10 มี.ค.48 กรมแรงงานของ สรอ.รายงานจำนวน
คนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สรอ.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 17,000 คนเป็น 327,000 คนจากจำนวน
310,000 คนในสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนและสูงกว่าที่คาดไว้ว่าจะคงที่ที่จำนวน
310,000 คน อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขดังกล่าว เนื่องจากยังอยู่
ในระดับต่ำกว่า 350,000 คนที่นักเศรษฐศาสตร์ใช้แบ่งว่าสภาพการจ้างงานดีขึ้นหรือเลวลง และสอดคล้องกับที่คาด
ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีการจ้างงานใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านตำแหน่งในปีนี้ (รอยเตอร์)
2. ธ.กลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมร้อยละ 4.75 รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.48 ธ.กลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมร้อยละ 4.75 แต่นักวิเคราะห์คาด
การณ์ว่าต้นทุนการกู้ยืมจะเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ด้านผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ทั้งหมด 50 คน
ของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 7 แต่มี
นักวิเคราะห์มากกว่าครึ่งหนึ่งกล่าวว่า ด้วยสาเหตุของความพยายามที่จะควบคุมภาวะเงินเฟ้อในอนาคต จึงคาดว่า
ธ.กลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.0 ในเดือน มิ.ย.48 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเศรษฐกิจ
ของอังกฤษกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ยังคงมีคำถามอีกมากมายเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวดี
นัก ซึ่งผู้จัดทำนโยบายของรัฐหลายคนชี้ว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอันหนึ่งต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการที่
ตลาดซื้อขายบ้านที่กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งหนึ่งด้วย สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของเยอรมนีที่เป็น
ตลาดส่งออกสำคัญของอังกฤษที่ยังไม่ฟื้นตัวและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทาง
เศรษฐกิจของอังกฤษได้ในอนาคต (รอยเตอร์)
3. เยอรมนีเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค.48 เป็นจำนวนสูงสุดในรอบ 6 เดือน รายงาน
จากเบอร์ลินเมื่อ 10 มี.ค.48 Federal Statistics Office เปิดเผยว่า เดือน ม.ค.48 เยอรมนีเกิน
ดุลการค้าจำนวน 12.9 พัน ล.ยูโร สูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.47 และเพิ่มขึ้นเกินความคาดหมายของนัก
เศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าการเกินดุลจะลดลงเล็กน้อยจากจำนวน 12.4 พัน ล.ยูโรในเดือนก่อนหน้า โดยการส่งออก
เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.45 ร้อยละ 6.1 เป็นจำนวน 63.5 พัน ล.ยูโร ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 6.6 เป็นจำนวน 50.6 พัน ล.ยูโร ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า การเกินดุลการค้าในเดือน ม.ค.ดัง
กล่าว เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่แสดงว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 48 หลังจากที่ประสบ
ภาวะชะลอตัวในช่วงไตรมาสก่อนหน้า นอกเหนือจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนเดียวกันซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราสูง
สุดในรอบเกือบ 10 ปี อนึ่ง ดุลการค้าในเดือน ม.ค.48 เพิ่มขึ้นท่ามกลางภาวะการแข็งค่าของเงินยูโรเมื่อเทียบ
กับเงินดอลลาร์ สรอ. ซึ่งสะท้อนว่าค่าเงินยูโรไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวล
เกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับสูง ว่าอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกในระยะต่อไป (รอยเตอร์)
4. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.48 เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
รายงานจากโซล เมื่อ 10 มี.ค.48 สนง.สถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้รายงานดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
เกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.48 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 99.4 จาก 90.3 ในเดือน ม.ค.48 อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่
เดือน ก.ย.45 ทำให้คาดกันว่าการบริโภคในประเทศซึ่งอยู่ในภาวะซบเซามาตั้งแต่ปลายปี 45 เริ่มฟื้นตัวแล้ว นอก
จากนี้ยังส่งผลให้ ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปีซึ่งต่ำสุดเป็น
ประวัติการณ์ โดยให้เหตุผลว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ธ.กลาง
เกาหลีใต้จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับนี้ไปจนถึงต้นปี 49 ธ.กลางเกาหลีใต้คาดว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปีนี้จะ
ขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าที่ประมาณการไว้ที่ร้อยละ 4.0 และคาดว่า GDP ของปี 47 จะขยายตัวร้อยละ 4.7
ข่าวตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้พุ่งสูงขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
ที่ 989.0 วอนต่อดอลลาร์ สรอ. โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเงินวอนมีค่าสูงขึ้นร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับดอลลาร์
สรอ. หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ในปี 47 (รอยเตอร์)
5 เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของมาเลเซียในภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 16 ในปี 47
รายงานจากกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 48 นาย Rafidah Aziz รมว.การค้าและอุตสาหกรรมของ
มาเลเซียเปิดเผยว่า ในปี 47 มาเลเซียได้อนุมัติการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในภาคอุตสาหกรรม
จำนวน 13.1 พัน ล.ริงกิต (3.4 พัน ล.ดอลลาร์สรอ.) ลดลงจาก 15.6 พัน ล.ริงกิตในปี 46 ส่วนใหญ่เป็น
การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การพิมพ์ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ท่ามกลางการลดลงของ
FDI ทั่วโลก และการแข่งขันที่รุนแรง มาเลเซียยังคงดึงดูดเงินลงทุน FDI จากทั่วโลกอย่างต่อเนื่องในสัดส่วนที่
สูง สะท้อนว่านานาชาติมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศมาเลเซีย โดยเยอรมนี สิงคโปร์ สรอ. ญี่ปุ่น และ
ไต้หวันเป็นนักลงทุนส่วนใหญ่ในการลงทุนเมื่อปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นในปี 45 FDI ของมาเลเซีย ลดลงถึงร้อยละ 41
เนื่องจากนโยบายเข้มงวดกับการลงทุนในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ แม้ว่ามาเลเซียจะมีการผ่อนปรนการถือหุ้น
ของนักลงทุนต่างชาติแล้วก็ตาม การลดลงดังกล่าวนี้ นาย Rafidah ได้ให้สัญญาว่าจะปรับนโยบายเพื่อดึงดูดเงินลง
ทุนจากต่างประเทศให้มากขึ้น อนึ่งจีนเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนต่ำจึงสามารถดึงดูดเงินลงทุน FDI
จากทั่วโลกเป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมาและอาจกระทบถึงมาเลเซียได้เช่นกัน (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 11 มี.ค. 48 10 มี.ค. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 38.289 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.0908/38.3710 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.25 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 719.53/15.98 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,000/8,100 7,950/8,050 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 44.56 45.3 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 22.09*/15.19** 21.69*/15.19** 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 11 มี.ค. 48
* *ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 22 ก.พ. 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.คาดสถาบันประกันเงินฝากจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในปี 48 นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้
ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝากคาดว่าจะดำเนินการเสร็จ
สิ้นภายในปี 48 หลังจากนั้น จึงจะมีการร่างประกาศวงเงินค้ำประกันภายใต้ พ.ร.บ.สถาบันประกันเงินฝากอีก
ครั้ง ซึ่งจะใช้เวลาปรับตัวประมาณ 4 ปี ทั้งนี้ พ.ร.บ.สถาบันประกันเงินฝากเป็นกฎหมายสำคัญที่รัฐบาลจะนำเข้าที่
ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมนี้ โดยเมื่อมีสถาบันประกันเงินฝากแล้ว การรับประกันเงินฝากเต็มจำนวนของ
กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจะถูกยกเลิก และใช้ระบบประกันเงินฝากมาทดแทน (โพสต์ทู
เดย์, โลกวันนี้)
2. ธปท.เผยไม่กล่าวโทษฟ้องร้อง ผู้บริหารกรุงไทยเพิ่มเติมอีก ผอส.ฝ่ายคดี ธนาคารแห่งประเทศ
ไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.คงไม่กล่าวโทษฟ้องร้องผู้บริหาร ธ.กรุงไทยเพิ่มเติมอีก เพราะหลักฐานที่มีกรณี
ลูกหนี้ 9 รายที่เข้าข่ายน่าสงสัยของ ธ.กรุงไทยที่เหลือจนถึงขณะนี้ยังไม่พบความผิดที่จะกล่าวโทษฟ้องร้องได้ ยก
เว้นฝ่ายตรวจสอบธนาคารพาณิชย์จะมีหลักฐานความผิดเพิ่มเติมมาให้ สำหรับกรณีที่ชี้แจงกับคณะกรรมาธิการการเงิน
การคลังและสถาบันการเงิน วุฒิสภาเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นการชี้แจงถึงการกล่าวโทษฟ้องร้องผู้บริหาร ธ.
กรุงไทย รวมทั้งชี้แจงว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพราะเป็นการนำข้อมูลจากฝ่ายตรวจสอบธนาคารพาณิชย์ที่ ธปท.
ตรวจสอบทุกธนาคารเป็นประจำ 2 ครั้งต่อปีอยู่แล้ว หากพบข้อมูลที่น่าสงสัยทางฝ่ายคดีก็จะพิจารณาทุกธนาคารว่ามี
หลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่ (โลกวันนี้, ผู้จัดการรายวัน)
3. ปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินทุกชนิดอีก 40 สตางค์/ลิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน
บ.ปตท.เปิดเผยว่า ปตท.ประกาศปรับราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันเบนซินทุกชนิดอีก 40 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่เวลา
6.00 น.วันที่ 11 มี.ค.48 ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นดังนี้ ราคาน้ำมัน
เบนซิน 95 อยู่ที่ 22.09 บาท/ลิตร เบนซิน 91 อยู่ที่ 21.29 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 20.59 บาท/
ลิตร ส่วนดีเซลยังคงอยู่ในระดับ 15.19 บาท/ลิตรต่อไป ทั้งนี้ การปรับราคาน้ำมันในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากราคา
น้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มี.ค.น้ำมันดิบทุก
ชนิดและราคาน้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิด ปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ข่าวสด, เดลินิวส์, ไทยรัฐ)
4. เปิดเผยผลการศึกษาปัญหาการทุจริต 5 หน่วยงานของรัฐ ประธานคณะทำงานติดตามและศึกษาปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้สภาที่ปรึกษา
ได้ยื่นรายงานเสนอแนวทางการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการทุจริตของหน่วยงานราชการไทย รวมถึงผลวิจัยรูปแบบ
การทุจริตของ 5 หน่วยให้ นรม.พิจารณา ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กรมทางหลวง
กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมส่งเสริมการเกษตร ทั้งนี้ หลังจากการสำรวจรูปแบบการทุจริตทั้ง 5
หน่วยงานเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่า กรมศุลกากรเป็นองค์การที่สามารถปรับปรุงระบบการทำงานให้เกิดความ
โปร่งใสที่เป็นรูปธรรมมากสุด รองลงมา กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนอีก 3 หน่วยงานยังไม่เปลี่ยน
แปลงพฤติกรรมจากเดิมมากนัก (เดลินิวส์, กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. จำนวนคนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สรอ.เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดหมายอยู่ในระดับสูงสุดใน
รอบ 2 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 10 มี.ค.48 กรมแรงงานของ สรอ.รายงานจำนวน
คนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สรอ.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 17,000 คนเป็น 327,000 คนจากจำนวน
310,000 คนในสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนและสูงกว่าที่คาดไว้ว่าจะคงที่ที่จำนวน
310,000 คน อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขดังกล่าว เนื่องจากยังอยู่
ในระดับต่ำกว่า 350,000 คนที่นักเศรษฐศาสตร์ใช้แบ่งว่าสภาพการจ้างงานดีขึ้นหรือเลวลง และสอดคล้องกับที่คาด
ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีการจ้างงานใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านตำแหน่งในปีนี้ (รอยเตอร์)
2. ธ.กลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมร้อยละ 4.75 รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.48 ธ.กลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมร้อยละ 4.75 แต่นักวิเคราะห์คาด
การณ์ว่าต้นทุนการกู้ยืมจะเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ด้านผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ทั้งหมด 50 คน
ของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 7 แต่มี
นักวิเคราะห์มากกว่าครึ่งหนึ่งกล่าวว่า ด้วยสาเหตุของความพยายามที่จะควบคุมภาวะเงินเฟ้อในอนาคต จึงคาดว่า
ธ.กลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.0 ในเดือน มิ.ย.48 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเศรษฐกิจ
ของอังกฤษกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ยังคงมีคำถามอีกมากมายเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวดี
นัก ซึ่งผู้จัดทำนโยบายของรัฐหลายคนชี้ว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอันหนึ่งต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการที่
ตลาดซื้อขายบ้านที่กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งหนึ่งด้วย สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของเยอรมนีที่เป็น
ตลาดส่งออกสำคัญของอังกฤษที่ยังไม่ฟื้นตัวและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทาง
เศรษฐกิจของอังกฤษได้ในอนาคต (รอยเตอร์)
3. เยอรมนีเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค.48 เป็นจำนวนสูงสุดในรอบ 6 เดือน รายงาน
จากเบอร์ลินเมื่อ 10 มี.ค.48 Federal Statistics Office เปิดเผยว่า เดือน ม.ค.48 เยอรมนีเกิน
ดุลการค้าจำนวน 12.9 พัน ล.ยูโร สูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.47 และเพิ่มขึ้นเกินความคาดหมายของนัก
เศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าการเกินดุลจะลดลงเล็กน้อยจากจำนวน 12.4 พัน ล.ยูโรในเดือนก่อนหน้า โดยการส่งออก
เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.45 ร้อยละ 6.1 เป็นจำนวน 63.5 พัน ล.ยูโร ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 6.6 เป็นจำนวน 50.6 พัน ล.ยูโร ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า การเกินดุลการค้าในเดือน ม.ค.ดัง
กล่าว เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่แสดงว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 48 หลังจากที่ประสบ
ภาวะชะลอตัวในช่วงไตรมาสก่อนหน้า นอกเหนือจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนเดียวกันซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราสูง
สุดในรอบเกือบ 10 ปี อนึ่ง ดุลการค้าในเดือน ม.ค.48 เพิ่มขึ้นท่ามกลางภาวะการแข็งค่าของเงินยูโรเมื่อเทียบ
กับเงินดอลลาร์ สรอ. ซึ่งสะท้อนว่าค่าเงินยูโรไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวล
เกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับสูง ว่าอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกในระยะต่อไป (รอยเตอร์)
4. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.48 เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
รายงานจากโซล เมื่อ 10 มี.ค.48 สนง.สถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้รายงานดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
เกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.48 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 99.4 จาก 90.3 ในเดือน ม.ค.48 อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่
เดือน ก.ย.45 ทำให้คาดกันว่าการบริโภคในประเทศซึ่งอยู่ในภาวะซบเซามาตั้งแต่ปลายปี 45 เริ่มฟื้นตัวแล้ว นอก
จากนี้ยังส่งผลให้ ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปีซึ่งต่ำสุดเป็น
ประวัติการณ์ โดยให้เหตุผลว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ธ.กลาง
เกาหลีใต้จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับนี้ไปจนถึงต้นปี 49 ธ.กลางเกาหลีใต้คาดว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปีนี้จะ
ขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าที่ประมาณการไว้ที่ร้อยละ 4.0 และคาดว่า GDP ของปี 47 จะขยายตัวร้อยละ 4.7
ข่าวตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้พุ่งสูงขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
ที่ 989.0 วอนต่อดอลลาร์ สรอ. โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเงินวอนมีค่าสูงขึ้นร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับดอลลาร์
สรอ. หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ในปี 47 (รอยเตอร์)
5 เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของมาเลเซียในภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 16 ในปี 47
รายงานจากกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 48 นาย Rafidah Aziz รมว.การค้าและอุตสาหกรรมของ
มาเลเซียเปิดเผยว่า ในปี 47 มาเลเซียได้อนุมัติการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในภาคอุตสาหกรรม
จำนวน 13.1 พัน ล.ริงกิต (3.4 พัน ล.ดอลลาร์สรอ.) ลดลงจาก 15.6 พัน ล.ริงกิตในปี 46 ส่วนใหญ่เป็น
การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การพิมพ์ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ท่ามกลางการลดลงของ
FDI ทั่วโลก และการแข่งขันที่รุนแรง มาเลเซียยังคงดึงดูดเงินลงทุน FDI จากทั่วโลกอย่างต่อเนื่องในสัดส่วนที่
สูง สะท้อนว่านานาชาติมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศมาเลเซีย โดยเยอรมนี สิงคโปร์ สรอ. ญี่ปุ่น และ
ไต้หวันเป็นนักลงทุนส่วนใหญ่ในการลงทุนเมื่อปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นในปี 45 FDI ของมาเลเซีย ลดลงถึงร้อยละ 41
เนื่องจากนโยบายเข้มงวดกับการลงทุนในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ แม้ว่ามาเลเซียจะมีการผ่อนปรนการถือหุ้น
ของนักลงทุนต่างชาติแล้วก็ตาม การลดลงดังกล่าวนี้ นาย Rafidah ได้ให้สัญญาว่าจะปรับนโยบายเพื่อดึงดูดเงินลง
ทุนจากต่างประเทศให้มากขึ้น อนึ่งจีนเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนต่ำจึงสามารถดึงดูดเงินลงทุน FDI
จากทั่วโลกเป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมาและอาจกระทบถึงมาเลเซียได้เช่นกัน (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 11 มี.ค. 48 10 มี.ค. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 38.289 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.0908/38.3710 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.25 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 719.53/15.98 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,000/8,100 7,950/8,050 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 44.56 45.3 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 22.09*/15.19** 21.69*/15.19** 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 11 มี.ค. 48
* *ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 22 ก.พ. 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--