นายอภิชาติ ศักดิเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวอภิปราย การจัดสรรงบประมาณประจำปี 49 ในส่วนของกรมประชาสัมพันธ์ว่า พบว่ามีสิ่งที่น่าสนใจคือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยมีการเขียนข้อความในยุทธศาตร์ที่ 7 เรื่องการส่งเสริมประชาธิปไตยและกระบวนการประชาสังคม อยู่ในเรื่องการพัฒนาระบบประชาธิปไตยโดยมีส่วนร่วม และสร้างกระบวนการความเข้มแข็งให้กระบวนการประชาสังคม ซึ่งในส่วนนี้มีการจัดสรรงบประมาณ 3,692.2 ล้านบาท เป้าหมายของยุทธศาสตร์นี้คือการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตย แบบมีส่วนร่วมให้ประชาชนอย่างทั่วถึง
‘ที่ผมบอกว่ามีความเปลี่ยนแปลงนิดๆเกิดขึ้นก็คือว่าท้ายข้ง 7.1 ในงบประมาณ ตลอดทั้งสัมพันธ์อันดีกับสื่อมวลชน ทั้งในและต่างประเทศ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเขียนถึงสื่อมวลชน’ นายอภิชาติ กล่าว
ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและสื่อมวลชน มีความอ่อนไหว และเคยมีการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรงตลอดมา นายกฯเคยบอกว่าจะพยายามจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสื่อมวลชน จะพยายามที่จะสร้างความสัมพันธ์กับสื่อมวลชนที่รักและเคารพกับศักดิ์ของประเทศ แต่ในทางปฏิบัติกับสวนทางกับคำพูด
เช่นในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี49 เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับสื่อ ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ โดยบรรจุงบในส่วนกรมประชาสัมพันธ์ โดยตั้งงบไว้ 1 ล้านบาท ทั้งที่ในแผนยุทธสาสตรนี้ต้องใช้เงินถึง3,900 กว่าล้านบาท งบที่ตั้งไว้ 1 ล้าน ให้เหตุผลว่าเพื่อกิจกรรมการให้คำปรึกษา ในเรื่องประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ วิธีการก็คือการผลิตข่าวออกมาผ่านสื่อมวลชนของรัฐ โดยมีวางเป้าไว้ว่า ถ้าสามารถผลิต 35ข่าว ในปี 2549 ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า กรมประชาสัมพันธ์แม้ว่าจะถูกจัดวางให้เป็นหน่วยงานที่สร้างความสัมพันธ์กับสื่อ แต่ต้องยอมรับว่ากรมประชาสัมพันธ์ไม่สามารถทำภาระกิจนี้บรรลุได้เพราะกรมประชาสัมพันธ์ไม่มีความเป็นอิสระที่จะไปทำหน้าที่เช่นนี้ เพราะกรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นหน่วยงานที่มีเป้าหมายการประชาสัมพันธ์งานของรัฐ โดยสนองนโยบายของรัฐบาลเป็นสำคัญ และอีกประการหนึ่งก็คือ หน้าที่หลักของกรมประชาสัมพันธ์คือการเข้าไปควบคุมสื่อมวลชนซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของรัฐ จึงทำให้บทบาทของกรมประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมาไม่สามารถที่จะเป็นสื่อมวลชนที่เปิดกว้างสำหรับประชาชน สื่อมวล ตามความต้องการของสังคม และเจตนารมย์รัฐธรรมนูญ
นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า กรมประชาสัมพันธ์ยังได้เข้าจัดระเบียบวิทยุชุมชน ด้วยความไม่เข้าใจที่มาของวิทยุชุมชน ไม่เข้าใจถึงมิติของเสรีภาพ ไม่เข้าใจว่าวิทยุชุมชนเกิดขึ้นมาเพราะช่องประชาสัมพันธ์ไม่เปิดทางสื่อให้
ส่วนในแง่ของงบประมาณด้านการลงทุนของกรมประชาสัมพันธ์ พบว่างบลงทุนมี 271.4 ล้านบาท เป็นงบลงทุนที่ทำเพื่อการพัฒนาอุปกรณ์และเครื่องมือของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน และยังพบ
ปัญหาในการใช้งบในการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน กล่าวคือมีการใช้งบในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ จำนวนมาก ซึ่งเป็นการใช้ที่ไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน เช่น ในปี 2544 หน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ใช้งบประมาณเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์มากถึง 1,500 ล้านบาท ในปี2547 ระระเวลา 10 เดือนใช้งบโฆษณา 2,910 ล้านบาท
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 มิ.ย. 2548--จบ--
‘ที่ผมบอกว่ามีความเปลี่ยนแปลงนิดๆเกิดขึ้นก็คือว่าท้ายข้ง 7.1 ในงบประมาณ ตลอดทั้งสัมพันธ์อันดีกับสื่อมวลชน ทั้งในและต่างประเทศ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเขียนถึงสื่อมวลชน’ นายอภิชาติ กล่าว
ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและสื่อมวลชน มีความอ่อนไหว และเคยมีการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรงตลอดมา นายกฯเคยบอกว่าจะพยายามจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสื่อมวลชน จะพยายามที่จะสร้างความสัมพันธ์กับสื่อมวลชนที่รักและเคารพกับศักดิ์ของประเทศ แต่ในทางปฏิบัติกับสวนทางกับคำพูด
เช่นในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี49 เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับสื่อ ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ โดยบรรจุงบในส่วนกรมประชาสัมพันธ์ โดยตั้งงบไว้ 1 ล้านบาท ทั้งที่ในแผนยุทธสาสตรนี้ต้องใช้เงินถึง3,900 กว่าล้านบาท งบที่ตั้งไว้ 1 ล้าน ให้เหตุผลว่าเพื่อกิจกรรมการให้คำปรึกษา ในเรื่องประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ วิธีการก็คือการผลิตข่าวออกมาผ่านสื่อมวลชนของรัฐ โดยมีวางเป้าไว้ว่า ถ้าสามารถผลิต 35ข่าว ในปี 2549 ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า กรมประชาสัมพันธ์แม้ว่าจะถูกจัดวางให้เป็นหน่วยงานที่สร้างความสัมพันธ์กับสื่อ แต่ต้องยอมรับว่ากรมประชาสัมพันธ์ไม่สามารถทำภาระกิจนี้บรรลุได้เพราะกรมประชาสัมพันธ์ไม่มีความเป็นอิสระที่จะไปทำหน้าที่เช่นนี้ เพราะกรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นหน่วยงานที่มีเป้าหมายการประชาสัมพันธ์งานของรัฐ โดยสนองนโยบายของรัฐบาลเป็นสำคัญ และอีกประการหนึ่งก็คือ หน้าที่หลักของกรมประชาสัมพันธ์คือการเข้าไปควบคุมสื่อมวลชนซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของรัฐ จึงทำให้บทบาทของกรมประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมาไม่สามารถที่จะเป็นสื่อมวลชนที่เปิดกว้างสำหรับประชาชน สื่อมวล ตามความต้องการของสังคม และเจตนารมย์รัฐธรรมนูญ
นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า กรมประชาสัมพันธ์ยังได้เข้าจัดระเบียบวิทยุชุมชน ด้วยความไม่เข้าใจที่มาของวิทยุชุมชน ไม่เข้าใจถึงมิติของเสรีภาพ ไม่เข้าใจว่าวิทยุชุมชนเกิดขึ้นมาเพราะช่องประชาสัมพันธ์ไม่เปิดทางสื่อให้
ส่วนในแง่ของงบประมาณด้านการลงทุนของกรมประชาสัมพันธ์ พบว่างบลงทุนมี 271.4 ล้านบาท เป็นงบลงทุนที่ทำเพื่อการพัฒนาอุปกรณ์และเครื่องมือของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน และยังพบ
ปัญหาในการใช้งบในการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน กล่าวคือมีการใช้งบในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ จำนวนมาก ซึ่งเป็นการใช้ที่ไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน เช่น ในปี 2544 หน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ใช้งบประมาณเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์มากถึง 1,500 ล้านบาท ในปี2547 ระระเวลา 10 เดือนใช้งบโฆษณา 2,910 ล้านบาท
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 มิ.ย. 2548--จบ--