ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.ออกประกาศเกี่ยวกับเกณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลให้คิดอัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมรวมกันได้
ไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.
ได้ออกประกาศเกี่ยวกับเกณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล ให้ผู้ประกอบการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลปฏิบัติตาม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้
ตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป สำหรับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่สำคัญ คือ ผู้ประกอบการจะคิดอัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ
ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม รวมกันได้ไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากอัตราดังกล่าวผู้
ประกอบการสามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปจริงเพิ่มเติมได้ แต่เฉพาะค่าใช้จ่ายที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องจ่ายให้
ราชการ บุคคลอื่น หรือหน่วยงานภายนอก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่คิดค่าดอกเบี้ยฯ ทั้งหมดเกินกว่าอัตราที่กำหนดไป
ก่อนหน้าวันที่ 1 ก.ค.48 ให้ปรับลดลงมาในอัตราที่ ธปท.กำหนดภายใน 1 ปี นับจากวันที่ 1 ก.ค.48 (เดลินิวส์, ไทยรัฐ, แนวหน้า, สยามรัฐ, มติชน, บ้านเมือง, โลกวันนี้)
2. ธ.กรุงเทพปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยลงเหลือร้อยละ 4.0-4.5 ขณะที่ธ.กสิกรไทยเชื่อว่าปีนี้
เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 5.0 ประธานกรรมการบริหาร ธ.กรุงเทพ เปิดเผยว่า ธ.ได้ปรับประมาณ
การเติบโตของเศรษฐกิจไทยลงเหลือร้อยละ 4.0-4.5 จากเดิมที่คาดไว้ที่ร้อยละ 5.0-6.0 เนื่องจากคาดว่าไทย
จะขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 500-1,000 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากเดิมที่ประเมินว่าจะเกินดุล 2,500 ล้านดอลลาร์
สรอ. ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูง ส่วนการนำเข้ายังคงใกล้เคียงกับที่ประมาณการไว้ ขณะที่นายบัณฑูร ล่ำซำ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธ.กสิกรไทย เชื่อว่าปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 5.0 ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอ
ใจ เพราะเป็นการเติบโตที่ดี ในภาวะที่มีปัจจัยหลายตัวฉุดเศรษฐกิจในขณะนี้ (เดลินิวส์, ข่าวสด, แนวหน้า,
สยามรัฐ, มติชน, โลกวันนี้)
3. ก.คลังออกจำหน่ายพันธบัตรเงินเยนเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา วงเงิน 16,000 ล้านบาท ผอ.
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก.คลังออกจำหน่ายพันธบัตรเงินเยนชนิดจัด
จำหน่ายทั่วไปในตลาดทุนญี่ปุ่น (ซามูไร บอนด์) รุ่นที่ 21 วงเงิน 48,000 ล้านเยน (16,000 ล้านบาท) อายุ
3 ปี กำหนดครบไถ่ถอน 30 มิ.ย.51 การออกพันธบัตรครั้งนี้เพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ในรูปเงินเยน และสร้างอัตรา
ดอกเบี้ยอ้างอิงในตลาดญี่ปุ่น เป็นการกลับเข้ามาระดมทุนในตลาดญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ออกมานานเกือบ 4
ปี นอกจากนี้ ในเดือน ก.ค.ก.คลังเตรียมออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทออมทรัพย์ให้กับประชาชนเป็นการทั่ว
ไปจำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน โดยเบื้องต้นกำหนดอายุ 5 ปี และ 7 ปี (ข่าวสด,
เดลินิวส์, มติชน, บ้านเมือง)
4. ผลประเมินการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจปี 47 มี 4 แห่งผ่านการประเมิน อีก 6 แห่งไม่ผ่าน
เกณฑ์ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ก.คลัง เปิดเผยภายหลังพิจารณาผลประเมินการดำเนินงาน
ของรัฐวิสาหกิจประจำปี 47 จำนวน 10 แห่งจากทั้งหมด 60 แห่ง ที่ บ.ทริส เรทติ้ง เป็นผู้ประเมินว่า มีรัฐวิสาหกิจ
เพียง 4 แห่งที่ผ่านมาการประเมินในครั้งนี้ คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขึ้นไปจากคะแนนเต็ม 5 คะแนน
ประกอบด้วย ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง
ประเทศไทย องค์การเภสัชกรรม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำหรับหน่วยงานที่ได้ต่ำกว่า 3
คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ประกอบด้วย บรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) บ.ทศท คอร์ปอเรชั่น องค์การ
ส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) องค์การคลังสินค้า
(อคส.) และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การประเมินจะพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ ผลการ
ดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ผลการดำเนินการขององค์กร และการบริหารจัดการองค์กร (โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ราคาน้ำมัน light crude ของ สรอ.เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 20 มิ.
ย.48 ที่ 59.52 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ 20 มิ.ย.48 ราคาน้ำมัน light
crude ของ สรอ.เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.48 ที่ 59.52 ดอลลาร์ สรอ.ต่อ
บาร์เรล ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 59.37 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ต่อบาร์เรลจากวันก่อน
ในขณะที่ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน London Brent เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ โดยปิดที่ 58.32 ดอลลาร์ สรอ.ต่อ
บาร์เรล อันเป็นผลมาจากความกังวลว่าน้ำมันจะขาดแคลนในช่วงฤดูหนาวปลายปีนี้และการเก็งกำไรในตลาดซื้อขาย
ล่วงหน้าของบรรดากองทุนเฮ็จฟันด์ โดยราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด สรอ.สำหรับ 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้อยู่ที่
ระดับ 60 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลหรือสูงกว่า โดยเฉพาะเดือน ธ.ค.48 ราคาขึ้นไปถึง 61 ดอลลาร์ สรอ.
ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ยังเป็นผลจากปริมาณการใช้น้ำมันของ สรอ.ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดย
ปริมาณการใช้น้ำมันสำหรับทำความร้อนและน้ำมันดีเซลของ สรอ.ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5
เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ในภูมิภาคเอเชีย ปริมาณการใช้น้ำมันของจีนเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มกำลังผลิตกระแสไฟฟ้า
เพื่อให้พอกับความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในฤดูร้อน กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออกหรือ OPEC
กำลังพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 500,000 บาร์เรลต่อวันหากราคาน้ำมันยังคงสูงขึ้นเช่นในขณะนี้ และ
โทษสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นว่ามาจากการขาดแคลนโรงกลั่นน้ำมันที่มีเทคโนโลยีทันสมัยพอที่จะกลั่นน้ำมันที่ได้
มาตรฐานของประเทศทางตะวันตก (รอยเตอร์)
2. สรอ.จะเริ่มต้นการเจรจาทางการค้าเสรีสองฝ่ายกับเกาหลีใต้ในเร็วๆนี้ รายงานจาก วอชิงตัน
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย 48 นาย Rob Portman ผู้แทนการค้าของสรอ. เปิดเผยว่า สรอ.และเกาหลีใต้จะเริ่มต้นการ
เจรจาการค้าเสรีระหว่างกันเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้าและเป็นแนวทางในการทำข้อตกลงทางการค้าเสรี
ระหว่างกันในไม่ช้านี้ โดยเขาเชื่อว่าข้อตกลงเสรีทางการค้าระหว่างสรอ.และเกาหลีใต้เป็นสิ่งสำคัญ และจะเป็น
ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้สรอ.ส่งสัญญานอย่างชัดเจนที่จะทำให้การเจรจาทางการค้ากับ
เกาหลีใต้มีความคืบหน้าหลังจากที่ในรอบหลายปีที่ผ่านมาการเจรจาดังกล่าวประสบอุปสรรคโดยเฉพาะในเรื่องการ
เปิดตลาดสินค้าเกษตรซึ่งเป็นอุปสรรคที่สำคัญในการเจรจา อย่างไรก็ตามนาย Portman ได้กล่าวชมเชยว่าเกาหลี
ใต้กลายเป็นผู้นำที่มีบทบาทในการเจรจาในเวทีการค้าโลกและเวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศเอเซีย
แปซิฟิก ซึ่งเกาหลีใต้มีส่วนร่วมในปีนี้ นอกจากนี้ในปีที่ผ่านทั้งสองประเทศได้แก้ปัญหาการค้าสัตว์ปีก และข้อโต้แย้งใน
เรื่องลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้วเช่นกัน (รอยเตอร์)
3. รมว.คลังของญี่ปุ่นอาจจะมีการเจรจาเรื่องการปรับค่าเงินหยวนกับจีน รายงานจากกรุง
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.48 Sadakazu Tanigaki รมว.คลังของญี่ปุ่น กล่าวว่า ถ้าเขามี
โอกาสได้เจรจาทวิภาคีกับ รมว.คลังของจีนในการประชุม Asia-Europe Meeting (ASEM) ที่เมืองเทียนจิน
ประเทศจีน ในสุดสัปดาห์นี้ หัวข้อหลักของการเจรจาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจระหว่างจีนกับญี่ปุ่น รวมถึงเรื่อง
การเปลี่ยนแปลงค่าเงินหยวนของจีนด้วย ซึ่งที่ผ่านมา รมว.คลังของญี่ปุ่นได้พยายามโน้มน้าวและเรียกร้องให้จีน
ปฏิรูปค่าเงินหยวน โดยจะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างให้มีการเก็งกำไรค่าเงิน ทั้งนี้ จีนได้
รับแรงกดดันจากประเทศคู่ค้ามากมายให้ผ่อนปรนนโยบายเกี่ยวกับค่าเงินหยวนที่ปัจจุบันจีนตรึงไว้ที่ระดับ 8.28
หยวน ต่อดอลลาร์ สรอ. อนึ่ง การประชุม รมว.คลังของกลุ่ม ASEM จะมีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับความสมดุลย์
ของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจมหภาคของยุโรปและเอเชีย ความร่วมมือทางด้านการเงินและเศรษฐกิจระหว่าง 2
ภูมิภาค รวมถึงจุดมุ่งหมายของการพัฒนาในอนาคต (รอยเตอร์)
4. เศรษฐกิจจีนควรจะพึ่งพาการส่งออกให้น้อยลงและหันมาสนับสนุนการใช้จ่ายภายในประเทศให้มาก
ขึ้น รายงานจากปักกิ่งเมื่อ 21 มิ.ย.48 The Financial News หนังสือพิมพ์ชั้นนำของจีน ซึ่งร่วมผลิตโดย ธ.
กลางจีน เปิดเผยในรายงานการวิเคราะห์ว่า จีนควรจะกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากการ
เติบโตของเศรษฐกิจจีนพึ่งพาการส่งออกมากเกินไป ซึ่งมีโอกาสมากที่จะได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขทางการค้า
ระหว่างประเทศ รวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยจากข้อมูลในปี 47 การนำเข้าและส่งออกมีสัดส่วน
เป็นร้อยละ 70 ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ ทั้งนี้ การพึ่งพาการส่งออกมากเกินไป โดยเฉพาะการส่งออกไปยัง สรอ.
อาจนำจีนไปสู่ความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ในด้านการค้ากับต่างประเทศ จากการที่ สรอ.พยายามผลักดันให้จีนปรับค่า
เงินหยวน นอกจากนี้ รายงานการวิเคราะห์เปิดเผยว่า การใช้จ่ายภายในประเทศจะเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยให้การ
เติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี ทดแทนการส่งออกซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขทางการค้าต่างๆ สำหรับ
เงื่อนไขทางการค้าระหว่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน อาทิเช่น ในเดือนนี้จีน
ได้จัดทำข้อตกลงร่วมกับสหภาพยุโรป ในการจำกัดการส่งออกสินค้าสิ่งทอไปยังสหภาพยุโรปให้เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ
8-12.5 ต่อปี เป็นต้น (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 21 มิ.ย. 48 20 มิ.ย. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.094 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 40. 8977/41.1835 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.5200-2.53125 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 679.68/10.93 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,400/8,500 8,400/8,500 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 52.51 53.4 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 23.74*/19.79** 23.34/19.39 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 21 มิ.ย. 48
* *ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 21 มิ.ย 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.ออกประกาศเกี่ยวกับเกณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลให้คิดอัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมรวมกันได้
ไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.
ได้ออกประกาศเกี่ยวกับเกณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล ให้ผู้ประกอบการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลปฏิบัติตาม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้
ตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป สำหรับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่สำคัญ คือ ผู้ประกอบการจะคิดอัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ
ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม รวมกันได้ไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากอัตราดังกล่าวผู้
ประกอบการสามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปจริงเพิ่มเติมได้ แต่เฉพาะค่าใช้จ่ายที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องจ่ายให้
ราชการ บุคคลอื่น หรือหน่วยงานภายนอก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่คิดค่าดอกเบี้ยฯ ทั้งหมดเกินกว่าอัตราที่กำหนดไป
ก่อนหน้าวันที่ 1 ก.ค.48 ให้ปรับลดลงมาในอัตราที่ ธปท.กำหนดภายใน 1 ปี นับจากวันที่ 1 ก.ค.48 (เดลินิวส์, ไทยรัฐ, แนวหน้า, สยามรัฐ, มติชน, บ้านเมือง, โลกวันนี้)
2. ธ.กรุงเทพปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยลงเหลือร้อยละ 4.0-4.5 ขณะที่ธ.กสิกรไทยเชื่อว่าปีนี้
เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 5.0 ประธานกรรมการบริหาร ธ.กรุงเทพ เปิดเผยว่า ธ.ได้ปรับประมาณ
การเติบโตของเศรษฐกิจไทยลงเหลือร้อยละ 4.0-4.5 จากเดิมที่คาดไว้ที่ร้อยละ 5.0-6.0 เนื่องจากคาดว่าไทย
จะขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 500-1,000 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากเดิมที่ประเมินว่าจะเกินดุล 2,500 ล้านดอลลาร์
สรอ. ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูง ส่วนการนำเข้ายังคงใกล้เคียงกับที่ประมาณการไว้ ขณะที่นายบัณฑูร ล่ำซำ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธ.กสิกรไทย เชื่อว่าปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 5.0 ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอ
ใจ เพราะเป็นการเติบโตที่ดี ในภาวะที่มีปัจจัยหลายตัวฉุดเศรษฐกิจในขณะนี้ (เดลินิวส์, ข่าวสด, แนวหน้า,
สยามรัฐ, มติชน, โลกวันนี้)
3. ก.คลังออกจำหน่ายพันธบัตรเงินเยนเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา วงเงิน 16,000 ล้านบาท ผอ.
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก.คลังออกจำหน่ายพันธบัตรเงินเยนชนิดจัด
จำหน่ายทั่วไปในตลาดทุนญี่ปุ่น (ซามูไร บอนด์) รุ่นที่ 21 วงเงิน 48,000 ล้านเยน (16,000 ล้านบาท) อายุ
3 ปี กำหนดครบไถ่ถอน 30 มิ.ย.51 การออกพันธบัตรครั้งนี้เพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ในรูปเงินเยน และสร้างอัตรา
ดอกเบี้ยอ้างอิงในตลาดญี่ปุ่น เป็นการกลับเข้ามาระดมทุนในตลาดญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ออกมานานเกือบ 4
ปี นอกจากนี้ ในเดือน ก.ค.ก.คลังเตรียมออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทออมทรัพย์ให้กับประชาชนเป็นการทั่ว
ไปจำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน โดยเบื้องต้นกำหนดอายุ 5 ปี และ 7 ปี (ข่าวสด,
เดลินิวส์, มติชน, บ้านเมือง)
4. ผลประเมินการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจปี 47 มี 4 แห่งผ่านการประเมิน อีก 6 แห่งไม่ผ่าน
เกณฑ์ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ก.คลัง เปิดเผยภายหลังพิจารณาผลประเมินการดำเนินงาน
ของรัฐวิสาหกิจประจำปี 47 จำนวน 10 แห่งจากทั้งหมด 60 แห่ง ที่ บ.ทริส เรทติ้ง เป็นผู้ประเมินว่า มีรัฐวิสาหกิจ
เพียง 4 แห่งที่ผ่านมาการประเมินในครั้งนี้ คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขึ้นไปจากคะแนนเต็ม 5 คะแนน
ประกอบด้วย ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง
ประเทศไทย องค์การเภสัชกรรม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำหรับหน่วยงานที่ได้ต่ำกว่า 3
คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ประกอบด้วย บรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) บ.ทศท คอร์ปอเรชั่น องค์การ
ส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) องค์การคลังสินค้า
(อคส.) และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การประเมินจะพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ ผลการ
ดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ผลการดำเนินการขององค์กร และการบริหารจัดการองค์กร (โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ราคาน้ำมัน light crude ของ สรอ.เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 20 มิ.
ย.48 ที่ 59.52 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ 20 มิ.ย.48 ราคาน้ำมัน light
crude ของ สรอ.เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.48 ที่ 59.52 ดอลลาร์ สรอ.ต่อ
บาร์เรล ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 59.37 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ต่อบาร์เรลจากวันก่อน
ในขณะที่ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน London Brent เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ โดยปิดที่ 58.32 ดอลลาร์ สรอ.ต่อ
บาร์เรล อันเป็นผลมาจากความกังวลว่าน้ำมันจะขาดแคลนในช่วงฤดูหนาวปลายปีนี้และการเก็งกำไรในตลาดซื้อขาย
ล่วงหน้าของบรรดากองทุนเฮ็จฟันด์ โดยราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด สรอ.สำหรับ 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้อยู่ที่
ระดับ 60 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลหรือสูงกว่า โดยเฉพาะเดือน ธ.ค.48 ราคาขึ้นไปถึง 61 ดอลลาร์ สรอ.
ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ยังเป็นผลจากปริมาณการใช้น้ำมันของ สรอ.ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดย
ปริมาณการใช้น้ำมันสำหรับทำความร้อนและน้ำมันดีเซลของ สรอ.ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5
เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ในภูมิภาคเอเชีย ปริมาณการใช้น้ำมันของจีนเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มกำลังผลิตกระแสไฟฟ้า
เพื่อให้พอกับความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในฤดูร้อน กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออกหรือ OPEC
กำลังพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 500,000 บาร์เรลต่อวันหากราคาน้ำมันยังคงสูงขึ้นเช่นในขณะนี้ และ
โทษสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นว่ามาจากการขาดแคลนโรงกลั่นน้ำมันที่มีเทคโนโลยีทันสมัยพอที่จะกลั่นน้ำมันที่ได้
มาตรฐานของประเทศทางตะวันตก (รอยเตอร์)
2. สรอ.จะเริ่มต้นการเจรจาทางการค้าเสรีสองฝ่ายกับเกาหลีใต้ในเร็วๆนี้ รายงานจาก วอชิงตัน
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย 48 นาย Rob Portman ผู้แทนการค้าของสรอ. เปิดเผยว่า สรอ.และเกาหลีใต้จะเริ่มต้นการ
เจรจาการค้าเสรีระหว่างกันเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้าและเป็นแนวทางในการทำข้อตกลงทางการค้าเสรี
ระหว่างกันในไม่ช้านี้ โดยเขาเชื่อว่าข้อตกลงเสรีทางการค้าระหว่างสรอ.และเกาหลีใต้เป็นสิ่งสำคัญ และจะเป็น
ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้สรอ.ส่งสัญญานอย่างชัดเจนที่จะทำให้การเจรจาทางการค้ากับ
เกาหลีใต้มีความคืบหน้าหลังจากที่ในรอบหลายปีที่ผ่านมาการเจรจาดังกล่าวประสบอุปสรรคโดยเฉพาะในเรื่องการ
เปิดตลาดสินค้าเกษตรซึ่งเป็นอุปสรรคที่สำคัญในการเจรจา อย่างไรก็ตามนาย Portman ได้กล่าวชมเชยว่าเกาหลี
ใต้กลายเป็นผู้นำที่มีบทบาทในการเจรจาในเวทีการค้าโลกและเวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศเอเซีย
แปซิฟิก ซึ่งเกาหลีใต้มีส่วนร่วมในปีนี้ นอกจากนี้ในปีที่ผ่านทั้งสองประเทศได้แก้ปัญหาการค้าสัตว์ปีก และข้อโต้แย้งใน
เรื่องลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้วเช่นกัน (รอยเตอร์)
3. รมว.คลังของญี่ปุ่นอาจจะมีการเจรจาเรื่องการปรับค่าเงินหยวนกับจีน รายงานจากกรุง
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.48 Sadakazu Tanigaki รมว.คลังของญี่ปุ่น กล่าวว่า ถ้าเขามี
โอกาสได้เจรจาทวิภาคีกับ รมว.คลังของจีนในการประชุม Asia-Europe Meeting (ASEM) ที่เมืองเทียนจิน
ประเทศจีน ในสุดสัปดาห์นี้ หัวข้อหลักของการเจรจาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจระหว่างจีนกับญี่ปุ่น รวมถึงเรื่อง
การเปลี่ยนแปลงค่าเงินหยวนของจีนด้วย ซึ่งที่ผ่านมา รมว.คลังของญี่ปุ่นได้พยายามโน้มน้าวและเรียกร้องให้จีน
ปฏิรูปค่าเงินหยวน โดยจะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างให้มีการเก็งกำไรค่าเงิน ทั้งนี้ จีนได้
รับแรงกดดันจากประเทศคู่ค้ามากมายให้ผ่อนปรนนโยบายเกี่ยวกับค่าเงินหยวนที่ปัจจุบันจีนตรึงไว้ที่ระดับ 8.28
หยวน ต่อดอลลาร์ สรอ. อนึ่ง การประชุม รมว.คลังของกลุ่ม ASEM จะมีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับความสมดุลย์
ของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจมหภาคของยุโรปและเอเชีย ความร่วมมือทางด้านการเงินและเศรษฐกิจระหว่าง 2
ภูมิภาค รวมถึงจุดมุ่งหมายของการพัฒนาในอนาคต (รอยเตอร์)
4. เศรษฐกิจจีนควรจะพึ่งพาการส่งออกให้น้อยลงและหันมาสนับสนุนการใช้จ่ายภายในประเทศให้มาก
ขึ้น รายงานจากปักกิ่งเมื่อ 21 มิ.ย.48 The Financial News หนังสือพิมพ์ชั้นนำของจีน ซึ่งร่วมผลิตโดย ธ.
กลางจีน เปิดเผยในรายงานการวิเคราะห์ว่า จีนควรจะกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากการ
เติบโตของเศรษฐกิจจีนพึ่งพาการส่งออกมากเกินไป ซึ่งมีโอกาสมากที่จะได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขทางการค้า
ระหว่างประเทศ รวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยจากข้อมูลในปี 47 การนำเข้าและส่งออกมีสัดส่วน
เป็นร้อยละ 70 ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ ทั้งนี้ การพึ่งพาการส่งออกมากเกินไป โดยเฉพาะการส่งออกไปยัง สรอ.
อาจนำจีนไปสู่ความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ในด้านการค้ากับต่างประเทศ จากการที่ สรอ.พยายามผลักดันให้จีนปรับค่า
เงินหยวน นอกจากนี้ รายงานการวิเคราะห์เปิดเผยว่า การใช้จ่ายภายในประเทศจะเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยให้การ
เติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี ทดแทนการส่งออกซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขทางการค้าต่างๆ สำหรับ
เงื่อนไขทางการค้าระหว่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน อาทิเช่น ในเดือนนี้จีน
ได้จัดทำข้อตกลงร่วมกับสหภาพยุโรป ในการจำกัดการส่งออกสินค้าสิ่งทอไปยังสหภาพยุโรปให้เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ
8-12.5 ต่อปี เป็นต้น (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 21 มิ.ย. 48 20 มิ.ย. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.094 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 40. 8977/41.1835 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.5200-2.53125 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 679.68/10.93 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,400/8,500 8,400/8,500 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 52.51 53.4 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 23.74*/19.79** 23.34/19.39 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 21 มิ.ย. 48
* *ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 21 มิ.ย 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--